วันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558

พื้นเมืองล้านช้าง บรรณาการล้านช้างถึงเจ้าฟ้าว้องหลวง

ชื่อเรื่อง              พื้นเมืองล้านช้าง
ลิ้งค์ต้นฉบับ   http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/7661#3

รายละเอียด    จศ. ๑๒๐๓ / อักษรธรรมลาว / ๒๑ หน้า  / วัดใหม่สุวรรณภูมมาราม หลวงพระบาง
                  
เนื้อหาสรุป     




... พระเจ้าล้านช้างร่มขาว มี มธุรจิต สินิทธสิเนหา.....เหมือนดังสมเด็จ ...อินทรา / ธิราช ตนทรงผาบ ... ในชั้นฟ้า... เทวบุตร .... ประดุจจดังมหาสมุทร ... เปนที่ไหลไปสู่ไปหาแห่งแม่น้ำน้อยทั้งหลาย /... แล อุปมาฉันใด รฐประทันเตคือประเทสราชบ้านน้อย...ราชาพระมหากระสัดเจ้าฟ้าว้อง ตนบุญใหญ่เหลือมงำทั้งมวล สิริสัตตนาค / นหุตนครา คือเมืองล้านช้างร่มขาวทักขิณบุตตบจันโต เปนลูกเมืองภายหนทิสส ... พระ มหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ภายหนเหนือ เปืองกรุณณาแต่เช่นพระวรราช / ปิตตา ก็ได้สุขย้อนบุญสมพารคำสืบสืบมาเท้า...เปนพระราชบุตตา....ดังเมืองล้านช้างร่มขาว ทุรฐานสหัสสาโยชนํ เปนอันไกลได้พันโยดชนะ
อนิทํคตํเถิงเซิ่งอันบ่แล้วแห่งมโนเจตนาหัททยังมีหัวใจห้อยแขวนอยู่บ่ขาด จัตตาโรมังคละ หัตถียังช้าง ๔ ดวง กุญชลํ เปนกุญชรสารดวงประเสิด กับทั้งพระราชสารดวงนี้ แลราชบัณณาการ มีงาช้าง ๔๘ กิ่ง หนัก ๔ ร้อยกิ้น นอแรด ๑๔ ยอด หนัก … / กิ้น ผ้าขวีดร้อยรำให้พระยาหลวงกวานเลกน้อยวังหลวงราชวัดรัตนมุนติ สิทธิปัญญา มงคลสุนทํวรอามาด แลพระยาอินทรังสีอุตตมธานีสรีเชียงรุ่ง แนบนำเข้าเมือยื่นถวายสัก การะบูชา เพื่อให้แล้วยังจิตเจตนาแห่งข้า อันเปนเจ้า / ต่างประเทสหากมีความโสมนัสสะ ซึ่งสมพานคำเอกราชาพระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวง ตนบุญใหญ่ ทีฆายุกาจงให้มีอายุหมั้นยืนยาวกัปปวัสสา สตังได้ร้อยกัปพระวัสสา เปิงพระกรุณารัฐประชาประเทสราช บ้านน้อยเมืองใหญ่แล / เมืองล้านช้างร่มขาว ขอได้สุขย้อนบุญสมพานคำเอกราชาพระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่เหลือมงำ ดังเช่นพระวรปิตตา ขอถวายกราบพิทูร ได้ตรัสชูเยื่องชูประการ // อันนี้แม่นกล้าราชสารถึงว้องแล / สักกราช ๑๒๐๓ ตัว ปีรวงเป้าเดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ วัน ๓ มื้อเมิงมัด สังขารขึ้นมื้อนั้น กวานเลกน้อยนำเอาราชสารขึ้นเมือเมืองห้อมื้อนั้น ปีนั้นเปนจันทาทิมาดนัก...(นักใน) วัน ๑ ในเดือนเชษฐอัมมวาจาตุทสีนั้น ให้เปนบัณณรัสสีแล
...เจ้าล้านช้างร่มขาว มีมธุรจิตสินิทธสิเนหา … พระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องตนบุญใหญ่ในสุวัณณม
/ หานครรตนราชสำนักหลวง วิสุกัมโม...เปนประดุจดั่งวิสุกัม … ประเทสราชทั้งมวล ... เปนเจ้าล้านช้าง / ร่มขาวก็มีพระราชรำเพิงเถิงยังคองพระราชปะเวณีแต่เช่นพระวรราชบิตา ก็มีมโนเจตนาห้อย ... หันคองพระราชปะเวณี .... มหาอามาดแล / พระยาอินทรังสีอุตตมธานีสีเชียงรุ่ง แนบนำจัตตาโรมังคละหัตถียังช้าง ๔ ดวง กุญชรํ...กับทั้งพระะราชสารดวงนี้...ให้เข้าเมือยื่นถวายสักการะบูชาถึงสำนัก //// ตามราชประ / เวณี ...ให้แล้วจิตตเจตนาแห่งข้าอันเปนเจ้า ล ช ร ข หากมีคำโสมนัสส...ซึ่งสมพารคำ … ใหญ่ก็เปืองกรุณณาพระราชทานเคื่องกุกุธภัณ ๕ ประการลงไป(บง) ก็ได้
สุขย้อนบุญสมพารคำ // แท้หั้นแล คันมาเทิงเช่นข้านั้นเปนพระราชอุตตมโอรสสาก็ได้ขึ้นเสวยราชสัมปัตติเปนเจ้า...สืบราชวงสาตามราชประเวณี แล้วขอให้ // ได้เปิงพระกรุณาพระราชทาน ... ตามพระราชประเวณีเหมือนดั่งเช่น พระอัยโก พระอัยกา พระราชบิตตานั้น ให้ข้าองเปนเจ้า / ล ช ร ข ได้สืบไว้เปนบุญคุญไปภายหน้าแด ถ้วน ๓ มา ดั่งฝาหยินชินอันประเสิด เกิดกับสม พานคำ // แลลอธอใหญ่หลอใหญ่ม้าใหญ่แมเกียน แมทวายจามมบุรี ของอันบ่มีในเมืองล้านช้างร่มขาวนั้น ขอให้ลีวูหายื่น ... เจ้าทั้ง ๒ ได้สาง... กราบพิทูล // ขอเอาฝายินชืน ๒ คู่ ลอคอ ๒ คู่ / หลอใหญ่ ๒ คู่ ม้าใหญ่ ๒ คู่ แม่เกียน ๕ คู่ แมทวายจามบุรี ๕ คู่ มาไว้เปนมงคลกับเมืองล้านช้างร่มขาวแด เยื่องฉันใดข้าอันเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวก็ได้สนุกสุขย้อนบุญสมพานเตชลีบุตายินหลวงเจ้าทั้ง ๒ ขอได้อุปปถัมภกค้ำชูได้ตรัสชูประการ สังวัณณาได้แจ้ง / ข้าองเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวมีงาช้าง ๔ หัว ผ้าขวีด ๑๐ รำ มายื่นถวาย เถิงลีปูเจ้าทั้ง ๒ ด้วยวรวุฒิ // ดวงนี้เถิงลีปู แล
สรีสุภมังคละพวนสาราติ สารภิสุทธิยุตติ กัลยาณวิสิทธคุตตอตุลยวิ...วฒณอนุญาเนยยวิสุทธิมโหรักสา ... สมเด็จเสษฐปรมภุมมินทนรินทาธิบตติ ปรมนาถบรม บพิตตสมเด็จพระเจ้าล้านช้างร่มขาววร สถิตยพิไส ในมหานครราชธานีสรีสัต ตนาคนหุด อุตตมร / ตนบุรี สังวัณณนาปกกาสิตย สินิทธสิเนหานุสสรมานชยาไส พัทธไมตรีภิรมโสมนัสสบาโม โสฐยาผุสสนพระราชกถาสังวัณณนาเถิงตายีน เจ้าหอคำทั้ง ๒ ในเมืองแสหลวง ตนเปนอุปปคุตตาราชเสวกาบลาทมุลิกากอนแห่งเอกราชา / พระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ทักขิเณนวิรุฬหโกมหาราชาโนอันเปนประดุจดังพระยาตนชื่อว่า วิรุฬหทักขิรักขา อันรักสายังทิสสะภายหนใต้ ให้แล้วยังราชกิจจะทั้งมวล นาทาคตาเปนที่เข้าไปอาไสล / รฐบจันโต แห่งประเทสราชทั้งมวล ข้าองเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวก็มีพระราชรำเพิงเถิงยังคองพระราชประเวณี แต่เช่นพระวรปิตตา ก็มีมโนเจตนาห้อยแขวนกับ // มีพระราชรำเพิงฉันนี้ จิ่แลพระยาหลวงอินทรังสี อุตตมธานีสรีเชียงรุ่ง แนบนำจัตตาโรมังคละหัตถี ยังช้าง ๔ ดวงกุญชรังเปนคูชรสาน ดวงประเสิดกับทั้งพระราชสารดวงนี้ แลราชปัณณากานมีงา

ช้าง ๔๑ กิ่ง หนัก ๔ ร้อยกิ้น นอแรด ๑๔ ยอด หนัก ๒๐ กิ้น ผ้าขวีดร้อยรำ อุปปนาเมนติให้เข้าเมือยื่นถวายสักกรบูชาเถิงจำนักเจ้า // ตามพระราชประเวณี เพื่อให้แล้วยังจิตตเจตนาแห่งข้า องเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวหากโส / มนัสสะซึ่งสมพานคำ // ตามราชประเวณีแท้หั้นแล ถ้วน ๒ มาเมืองล้านช้างร่มขาวแต่เช่น พระอัยยโก พระอัยยกา พระราชบิตตานั้น // ก็เปิงกรุณณาพระราชทานเครื่องกุกุธภัณฑ ๕ ประการลงไปปงก็ได้ / สุขย้อนบุญสาพารคำ // แท้หั้นแล ครั้นมาเถิงเช่นข้า อันเปนพระราชบุตรอุตตมโอรสสาก็ได้ขึ้นเสวยราชสัมปัตติ เปนเจ้า ล ช ร ข สืบราชวงสาตามราชประเวณีแล้ว ขอให้เจ้าฟ้า ว หล ต บ หย ได้เปิงกรุณณา / พระราชทานปงตามราชประเวณี เหมือนดั่งเช่นพระอัยยโก พระอัยยกา พระราชบิตตานั้นให้ข้าองเปนเจ้า ล ช ร ข ได้สืบไว้เปนมงคลไปภายหน้าแด ถ้วน ๓ มาดั่งฝายินชืน อันประ เสิด // ตั้งแต่นี้ไป / ให้ว่าดั่งดวงเมือเถิงลีปูนั้นเทอะ แม่นความเดียวกันแล้ว // เยื่องฉันใดข้าองเปนเจ้าล้านช้างร่มขาว จักได้สุขย้อนบุญสมพานคำเตชะเจ้าหอคำทั้ง ๒ ขอได้อุปปถัมภกะค้ำชูได้ตัดชู เยื่องชูประการ สังวัณณาได้แจ้ง //
อักขรกถาอัครมหาเสนาธิบดีเจ้าผู้ใหญ่ทั้งมวล ๓๒ ขุนพร้อมเหนือหอสนามหลวงในมหาอุตตมรวงโขงสิริสัตตนาคนหุตอุตตมรตนบุรีรมพรหมจักกพัตติ สรีมหานครราชธานีล้านช้างร่มขาว มีเจ้าพระยาหลวงเมืองแสน บ / ถมอัคคมหาเสนาธิบดีเปนเค้า มีเจ้าพระยาหลวงเมืองจันเปนประธานมาเถิงพระยาอริยะวงอูใต้ เจ้าตนพระพุทธพรหมวงสาสุรราชาเมืองอูเหนือเปนเค้า แลขุนลางทั้งมวลให้ได้แจ้งด้วยว่าห้อแลข้าก้อ/ ทั้งหลาย อันได้เข้ามาชะแมะแอบอิงอยู่ในแขวงเมืองล้านช้างร่มขาว เปนคนบอริไยไสส่อผิ แผนด้วยร้อยความแลว แลกับคืนเมือสนส่อต่อเจ้า ๒ อู ขอเอากองทัพกับลังเจ้า ๒ อู เจ้า ๒ อู ก็บ่ต้องตามประเวณีแห่ง / ๒ มหานคร อันได้ตั้งแต่งแหล่งไว้กับกันนั้น เจ้า ๒ อูก็พ้อยว่ายกเอาพละกำลังลงมาข่มเหงควรควีราวีฟันแทงผู้คนเมืองอริน ทำให้เปนเหดให้ ๒ มหานครฟัดฟอกตอกตำกันให้ขาดทางราชประเวณีนั้นบ่ชอบ ตั้ง / แรกแต่นี้ไปภายหน้า ถ้าแลห้อข้าก้ออันอยู่ในขอบแขวงเมืองล้านช้างหากเกิดมีคดีเนื้อความเยื่องประการใดก็ดี ล้านช้างหากจักชำระว่ากล่าวเอาเอง ถ้าแลห้อข้าก้ออันอยู่ในขอบแขวงเมือง ๒ อู ก็ให้เมือง ๒ อู ได้
ชำระว่ากล่าวเอา ไฟเมืองใดลุกให้เอาน้ำเมืองนั้นมอด ไพ่อยู่เมืองใดให้ไว้กับเมืองนั้น อย่าข้ามเขตกายแดนลงมาทำลุกกุกกวนข่มเหงคระเนงร้ายถ้าแลเจ้า ๒ อูยังดงล่วงเกินประเวณีบ้านเมืองมาทำลุกกุกกวน ข่มเหงฟันแทง / ผู้คนในขอบแขวงเมืองล้านช้างดั่งนั้น ตีนมือก็บ่ได้สุบบังสุบโบกไว้ ก็แดนจักได้ตอบบัง กับด้วยแก่กัน สัพพโทสานุโทดทั้งมวลให้ไว้ที่เมือง ๒ อูชู่ประการ สัพพสัญญามาให้ได้แจ้ง / สักกราช ๑๒๐๓ ตัวปีร่วงเป้า เดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ วัน ๓ มื้อเมิงมดกวานเลกน้อยทือขึ้นไป
กระทำหลายเทื่อ จักขาดเสียยังทางราชไมตรีแห่งกัน ถ้าแลเจ้าทั้งหลายห้ามปามเจ้าเมือง ๒ อู หากบ่ฟังยังดนล่วงเกินยังราชประเวณี ลงมากระทำอันนาลายข่มเหงเหมือนดั่งที่แล้วนั้น หลอนว่าท้าวขุนฝูงอยู่รักสาหัวฟายปายด่าน ได้กระทำ / ขืนสีไม้สีมือตอบบังดังนั้น ก็เหนบ่ดีหน้างามตาทั้ง ๒ มหานคร ก็จักขาดการไกญาน เปนเภทะเกียวข้องกับด้วยกัน อย่าแล สัพพโทสานุโทสทั้งมวลมีที่เมือง ๒ อู ตั้งแต่นี้ไปภายหน้า ดั่งห้อแลชาวก้อ อันอยู่ใน / เขตแดนเมืองล้านช้างหากเกิดมีติดเนื่องด้วยคดีเนื้อความเยื่องประการใดก็ดี มีที่ภายเมืองล้านช้างหากจักชำระว่ากล่าวตามพีมเมืองล้านช้าง ถ้าแลห้อแลก้อทั้งหลายอัน อยู่ในขอบแขวงเมืองแสวนหวีฟ้า ก็ / ให้ชำระว่ากล่าวกับเมืองแสวนหวีฟ้า ไฟลุกเมืองใดให้เอาน้ำเมืองนั้นมอด จึงชอบธัมมดาจารีตบ้านเมือง อัน ๑ ดั่งห้อแลชาวก้อทั้งหลายอันอาสไลอยู่กินกับเมืองล้านช้างนั้น แต่นี้ ไปภายหลังเมืองแสวนหวี / ฟ้าก็แต่งท้าวขุนล่วงเกินประเวณีลงมาเก็บเอา เงินแชนลางกับห้อแลชาวก้อทั้งหลายอันอยู่ในเขตแดนเมืองล้านช้างนั้น ภายเมืองแสวนหวีฟ้าก็บ่สัญญาบอก กล่าวให้เมืองล้านช้างรู้แจ้ง ดั่งข้อยไพเมืองล้านช้าง ขึ้นไป
๑๐
อาไสลอยู่ในเขตแดนเมืองแสวนหวีฟ้านั้น ดังภายเมืองล้านช้างก็บ่ได้ขึ้นไปเก็บเอาเบี้ยหอยเงินทองนำเขาสักเทื่อ ก็ให้เขาบัวรบัดออกเสียกับเมืองแสวนหวีฟ้าทางเดียว ตั้งแต่นี้ไปภายหน้าห้อแลชาวก้อไปอยู่เขตแดนเมือง / ใด ไวให้เขาบัวรบัดออกเสียกับเมืองนั้น ไผอย่าล่วงเขตอย่ากายแดนลงมากระทำลุกกุก กวน ข่มเหงคระเนงร้ายเหมือนดั่งแต่ก่อน ผิดธัมมดาจารีตบ้านเมือง ข้าทั้งหลายจิ่งได้มีอักขรกถามาไกว่สารได้แจ้ง / สักกราชา ๑๒๐๓ ตัว ปีรวงเป้าเดือน ๕ แรม ๗ ค่ำ วัน ๓ มื้อเมืองมดติตถี ๒๒ ตัวนาทีติตถี ๓๐ ตัว ฦกษ์ ๒๐ ลูก ฦกษ์ ๓๙ ลูก // ถ้วน ๒ มาชิงเจ้าทั้งพวงได้มีอักขรกถาลงมาว่าดัง ครอบครัวข้าเจ้าไพร่ไทภายเมืองแสวนหวีฟ้า ได้ตกค้างอยู่เมืองล้านช้างร่มขาวมีแล / น้อยมากเท่าใด จัก(ยาจนะ) ขำขอเอาขึ้นไปส้อมบ้านใส่เมืองตามเดิมประเภณีว่ามีประการฉันนี้ ข้าทั้งหลายก็ได้ตัดแจ้งชู่ประการแล้ว ข้าทั้งหลายกับขุนราชทูตาก็ได้ปรึกสาอูบจากัน เห็นว่าเจ้าย่ำกระหม่อมสมเด็จพระเปนเจ้าแห่งข้าทั้งหลายก็จั่งได้เถิงมหาถานันตร เปนเจ้านั่งช้างเสวยเมืองใหม่ ก็จักได้คึดลำห้างแต่งช้างหลวงงวงใหญ่ / แลเครื่องราชปัณณาการขึ้นไปจิ่นกูง ขราบถวายเจาฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ตามราชประเวณีก่อนติดดั่งอุปป...ครอบครัวภายเมืองแสวนหวีฟ้ามาตกอยู่ในเมืองล้านช้างร่มขาวก็มี ดั่งครอบครัวเมืองล้านช้างร่มขาวยังตกค้างอยู่ในเมืองแสวนหวีฟ้าก็มีหลายอยู่ถ้าแลภายข้างหน้าบ้านเมืองเราทั้ง ๒ กำ ๒ ภาย ยังพคอยสงบกำเย็น ... พีนดีงาม เราเจ้า / ข้อยทั้ง ๒ บ้าน ๒ เมืองจั่งค่อยอูบจากับด้วยลัน ดีอย่าแล //
๑๑
อักขรกถาอัคคมหาเสนาธิบดีผู้ใหญ่ทั้งปวง ท้าวพระยา ๑๒ ขุนพร้อมเหนือหอสนามหลวงในเมืองหลวงพระบางราชธานี สรีสัตตนาคณหุดอุตตมรตนบูรีรมพรหมจักก พัตติสีมหานครล้านช้างร่มขาว มีเจ้าพระยาหลวงเมืองแสนวร / สีหราชา ปถมอัคคมหาเสนาธิบดีเปนเค้า มีเจ้าพระยาหลวงเมืองจันเปนประธาน มาวุฒิสวัสดีจำเรินเทิงอัคคมหาเสนาธิบดีพูใหญ่ทั้งปวง ท้าวพระยา ๑๒ ขุนพร้อมเหนือหอสนามในเชยยนันทเทพพบุรีราชธานี ชู่ตน / ชู่คน ก็ได้แจ้งซึ่งข้อราชการภายมืองพวนนั้นท้าว เพยเวียนควาน น เมืองพวนก็ได้จัดแจงแต่งให้ขุนพนอามาดมุนตรีแลขุนมหาวงสากับไพร่สี่ชือนำเอาสิ่งของเครื่องราชบัณณาการ แลลานบานชีคน น เมืองพวน ลงมา / ยื่นกับข้าทั้งหลาย ขอเปนช้า ... ราชการ ฉลองพระเดชพระคุณต่อใต้ฝ่าละอองทุลีพระบาทสมเด็จพระพุทธิเจ้าอยู่หัว ขึ้นกับเมืองหลวงพระบาง ข้าทั้งหลายก็ได้เกนราชการกับเขา เขาก็ได้รับราชการกับข้า / ทั้งหลายแล้ว เจ้าย่ำกระ หม่อมสมเด็จพระเปนเจ้าแห่งข้าทั้งหลาย ก็ได้ตั้งแต่งชุบย้อมเลี้ยงเกือเขา ให้ขึ้นไปหาบ้านหาเมืองแล้วซึ่งข้อราชการฝ่ายหัวพันทั้ง ๖ นั้น เขาก็ลงมาแล้ว หัวเมืองยังบ่มานั้น ก็จักลงมาตามทีหลัง ซึ่งข้อราชโองการฝ่าย
๑๒
เมืองแถงนั้น ข้าทั้งหลายก็ได้แต่งให้พระยาสักกรคอนแสนจันสบนาว ขึ้นไปประจำรักสาหน้าด่านต่อแดนเมืองแถงเนิน ๒ อยู่มิได้ขาด ถ้าเขาหากออกมาตั้งบ้านแปงเรือน หล่อแหลมอยู่นั้น ข้าทั้งหลายจักได้ยกกองทัพขึ้นไปฟาดตีเสียมิให้เขาตั้งบ้านแปงเรือน / อยู่ได้ ซึ่งข้อราชการฝ่ายเมืองเชียงรุ่งนั้น ก็ยังสงบอยู่ ถ้าแลราชการร้ายดี ผันแปล มาเปนประการใด จักได้บอกลงมาแจ้งต่อทีหลัง อัน ๑ ท่านทั้งปวงได้แต่งให้นายนามโนแลแสนสิทธิ ขึ้นมาฟังยังกิจจราชการ กับด้วยข้าทั้งหลายนั้น ก็ / หากชอบแก่ราชการอยู่แล้ว ซึ่งแสนสิทธินั้นก็ได้ติดเนื้อต้องความด้วยกระทำมิจฉาจาร กับด้วยเมียท้าวแพะมหาเลกนั้น ตามดังรีดคลองทำนองบ้านเมืองแห่งข้าทั้งหลายนั้น ก็หากควรเอาตัวแสนสิทธิติดจำไว้แล้วจึงชำระ บัดนี้เจ้าย่ำกระหม่อมสมเด็จ / พระเปนเจ้าแห่งข้าทั้งหลาย ก็เล็งเห็นแต่โบราณทำนองคลองพระราชไมตรีประเวณี บ้านเมืองอันเปนพันธุมิตต ได้ขอดสารกันมาแต่ก่อนนั้น จึงซงพระกรุณารับสั่งโปรดใส่เกล้าใส่กระหม่อมให้ข้าทั้งหลายชำระด้วยดี ข้าทั้งหลายก็ได้พร้อมกันชำระ / ยังบ่ตกบ่แห้งเทื่อ บัดนี้ซึ่งตัวแสนสิทธินั้นก็ได้เข้าไปอยู่กับเจ้าอินเมืองแล้ว เจ้าอินเมืองกับข้าทั้งหลายก็จักได้พร้อมกันชำระยังโทสานุโทด ให้เสดสุจจริตแล้วก็จักได้ลงมาตามทีหลัง ข้าทั้งหลายจึงได้มีอักขรกถาให้นายนามโนกลับไป (...ไม่ชัด) / คนที่ลงมาเถิงท่านทั้งหลายให้ได้แจ้ง อักขรกถามา น วัน ๔ เดือนยี่ แรม ๖ ค่ำ ปีกัดไจ้ สักกะ ๑๒๐๒ ตัว
๑๓
อัครวรราชกถาสมเดจพระเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวเสษฐขัตติยะ สุริยะราชวงสาภูมินทรินทราธิบตติ บรมนามบรมบพิตต พระมหาราชาธิราชวรสถิตยะพิไสในมหาอุตตมรวงขงสิริสัตตนาคณหุด อุตตมรตนบุรี / รมพรหมจักกวัตติ สรีมหานครราชธาณีล้านช้างร่มขาว ปกกาสิตยะ สินิทธสิเนหาสังวัณณนาเถิงตายินตาแย ส่างชือเจ้าในเมืองแมน เมืองลาแจ้งเทอ ดังในสักกราช ๑๒๐๒ ตัว เดือน ๑๐ ใต้ แรม ๖ ค่ำ ราชทูตามีพระยาเชยย / สิทธินรฐา ขุนในราชสำนักเมืองแสวนหวีฟ้า แลพระยาภมเมืองลา กับไพร่มีชื่อถืออักขรวรราชกถาอักษรกถาเมืองแสวนหวีฟ้า งอเทียมแนบนำเอาชาหวีชางเขาแลขุนราชทูตายังกูง แยเลียวแย่ วาง / แย ล แย เธอแย พระยาสีปองวองกับเครื่องราชบัณณกาน ลงมารอดเถิงในราชสำนักเมืองล้านช้างร่มขาว มีแรกุงตอน ๖ รำ สักหลาดเขียว ๒ วา ปลาย ๒ ไม้ สักหลาดเหลือง ๒ วา ปาย ๒ ไม้ เจียนแดง ๔ ผืน แขบดอกแร ๔ คู่ คัน / อยู่มา น วันเดือน ๑๐ แรม ๑๔ ค่ำจึงได้สองไขเสียนลาย แลราชกถานั้นเปนใจความว่า ปี นี้ก็เปนขวบฟ้ากาลดุปีประเวณีลีกุงหวานกุงเข้ามารอดเถิงแล้ว ให้พระเจ้าล้านช้างร่มขาว ได้ห้างแต่งราชทูตาสนำจำทุร
๑๔
พระราชสารราชบัณณกานจตุหัตถีญาณมังคล ช้างหลวงงวงใหญ่ขึ้นไปลีกุงหวานกุงยื่นถวายสักกรบูชา พระเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ ขึ้นไปให้เถิงในเมืองว้อง เดือน ๑๑ เดือน ๑๒ ปีรวงเป้าออกมา ในเสียนลายว่ามีประการฉันนี้ คันสมเด็จพระเจ้าล้านช้าง / ตัดส่องแจ้งแล้ว ก็มีความโสมนัสสะยินดี หาจักอุปมาเปรียบเทียมบ่ได้แท้หั้นแล สมเด็จพระเปนเจ้าล้านช้างก็บ่ให้ขาดเสียยังพระราชทำนอง คลองพระราชไมตรีประเวณีแต่ก่อน ครั้นเถิงในวันเดือน ๑๑ ขึ้นค่ำ ๑ สมเดจพระเปนเจ้าล้านช้างร่มขาว / ก็ได้ปลงอาชญาบังคับให้ท้าวพระยาเสนาอามาดผู้สัดซื่อหมั้นคง ออกไปจัดแจงเลือกเอายังช้างตัวดีตัวงาม ตัวถูกลักขณะ เปนมังคละต้องราชการในขอบแขวงเขตแดนเมืองล้าน ช้างร่มขาวทั้งมวล ก็เปนอันพานช้านานอยู่ ครั้นมาเถิง น วันเดือนยี่ขึ้น / ๒ ค่ำนั้น ดั่งท้าวพระยาฝูงไปจัดแจงเลือกเอาช้างนั้น ก็จึงได้นำเอายังช้าง เข้ามารอดเถิงในราชสำนักสมเด็จพระเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวแล้ว สมเด็จพระเปนเจ้าล้านช้างก็จิ่งได้ปลงอาชญา บังคับให้ท้าวพระยาเสนาอามาดกับ / ทั้งราชทูตา ยังฟูแย่ เลียงแย่ วางแย่ ลอแย่ พระยาสีปองวอง พระยาหลวงสิทธินรธาพระยาพรหมจักเมืองล้า พร้อมมูลกัน จัดแจงวัดอ้อมแทกเอายังกายาขนาดช้างตัวถูกลักขณะ เปนมังคละต้องราชการจีนกุงนั้น ตัว ๑ ชื่อว่าหัตถีญาณ
๑๕
มังคละปัจเจยยนาเคน สูง ๔ สอก ปลาย ๔ นิ้ว งายาวพนไปสอกปลาย ๕ นิ้ว ตัวใหญ่ ๖ ศอกปลาย ๖ นิ้ว ตัวยาวได้ ๖ สอก หางยาว ๓ สอก ตัวถ้วน ๒ ชื่อว่า หัตถีญาณมังคละมหาคีรี สูง ๔ สอกปาย กำยืน งายาวพ้นไปสอกปาย ๔ นิ้ว โตใหญ่ ๖ สอกปลาย ๕ นิ้ว โต ยาว ๕ สอก / ปายคืบ ๔ นิ้ว หางยาว ๒ สอก ตัวถ้วน ๓ ชื่อว่าปราบสัตตูอ่อนน้อม สูง ๔ สอกปาย ๓ นิ้ว งายาวพ้นไปสอก ๑ ตัวใหญ่ ๕ สอกคืบ ๗ นิ้ว ตัวยาว ๕สอกปายคืบ หางยาว ๒ สอกปาย ๗ นิ้ว ตัวถ้วน ๔ ชื่อว่าเชยยจักกแผ่นแผ้ว สูง ๔ สอกยอม ๒ นิ้ว งายาวพ้นไปสอกปาย ๘ นิ้ว ตัว / ใหญ่ ๕ สอกคืบ ๓ นิ้ว ตัวยาว ๕ สอกปาย ๖ นิ้วหางยาว ๒ สอกคืบปาย ๕ นิ้วเข้ากันเปน ๔ ช้าง จิ่งได้เปสนาราชทูตาพระยาหลวงทิพเนด ขุนในราชจำนัก กับพระยาเมืองบุญสนำ จำทุรก้านอาดดวงญา กับไม้แทกช้างแลฝ้าย ออ / (ไม่ชัด) ... บนหัวลำดับราชมคคลังกาน เข้าเมือสังวัณณนายื่นถวายถึงตายีนตาแย ส่างซือเจ้าเมืองแมนเมืองลา พอให้ได้ตัดแจ้งตามงอเทียมราชทูตายังฟูแยเปนเค้าราชประเวณี เปนสำคันก่อนหั้นแล / ดังตัวช้างจินกูง ยังสิงของเครื่องราชบัณณากาน ได้คบไขวบอริบวรแล้วก็จักได้แต่งให้ท้าวพระยาราชทูตานำเอายังช้างมังคละจีนกูงออกจากราชจำนักเมืองล้านช้างร่มขาวขึ้นไปในท้องเดือน ๔ เปนที่ถนะหมั้นคงแท้ หั้นแล
๑๖
ถ้าแล พระยาหลวงทิพพเนด พระยาหลวงเมืองบุรราชทูตาได้นำเอาไม้แทกช้างแลฝ้ายอ้อมช้างนี้ เมือรอดเถิงตายีนตาแยส่างซีเจ้าในเมืองแมนเมืองลาแล้วแล เยื่องฉันใดไม้แทกช้างแลฝ้ายอ้อมช้างนี้จักเข้าเมือรอดบองเถิงแส / นั้น ถปันนาไว้ในตายีนตาแย เจ้าทั้ง ๒ เปนที่ราชอุปถัมภกสางพีนไหว้สาชูเยื่องชูประการ สังวัณณนาได้แจ้ง ราชกถามา น วัน ๔ เดือนยี่ แรม ๑๓ ค่ำ ปีกดไจ้ สักกะ ๑๒๐๒ ตัว เจ้ายำกระหม่อมสมเด็จ / พระเปนเจ้าราชบุตอุตตมโอรสส (...) พระราชวังบวรสถานมงคลหอคำฝ่ายหลัง จักได้ขึ้น ครอบครองเสวยราชบ้านเมืองในปีกัดไค้ เดือน สักราชได้ ๑๒๐๑ ตัว อยู่มาเถิงสักราชได้ ๑๒๐๒ ตัว ห้อ (ชาย?) จึงลงมาขอเอาขึ้นไป /จีนกอง มีช้าง ๔ ตัว ตัว ๑ ชื่อว่าปัจเจยยนาเคน ค่า ๒ พันดอก ตัวถ้วน ๒ ชื่อว่า มหาคีรีค่าชั่ง ๘ ตัวถ้วน ๓ ชื่อว่าผาบสัตตูอ่อนน้อม ค่าชั่ง ๘ ตัวถ้วน ๔ ชื่อว่าเชยยะจักกะแผ่นแผ้ว ค่าชั่ง ๗
๑๗
สรีสุภมังคละ พจนสาราณิสารพิสุทธิยุตติ กัลยาณวิสิฐคุณณอตุลยวิบุลลวัฒณมนุญา เนยยวิสุทธิ มหารชาไส สมเด็จเสฐปรมภูมินทนรินทาธิบัตติ บรมนาถบรมบพิตต วรสถิตยะภินิไส ในอุตตมรวงขงสิริสัตตนา / คนหุดอุตตมรตนบุรีรมพรหมจักกพัตติ สรีมหานคครราชธาณี ถวายสัมภารคำชองตูตายิน เจ้าหอคำทั้ง ๒ ในเมืองแสหลวงตนเปนอุปปคุตตา ราชเสวกาบลาทมุลิกากอรอุปถัมภกคำหมอนพระราชสมภารคำแห่ง เอ / กราชา พระมหากระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ ทักขิเณนวิรุฬหกมหาราชา องเปน ประดุจจดั่งพระยาใหญ่ตนชื่อวิรุฬหทักขิณรักขา อันรักสายังทักขิณหนใต้ ตนให้แล้วยังราชกิจจการทั้งมวล แห่งพระยาอมรินอินทราธิ / บติเทวราชนาถาคตา ตนเปนที่เพิ่งที่อาไสลรฐปจันตาแห่งท้าวพระยาประเทสราชทั้งมวลหากควรเข้ามาสู่มาหาแล ให้แล้วยังราชกิจการทั้งมวลแท้หั้นแล ติดดั่งเมืองล้านช้างร่มขาวก็เปนเมืองกูงกวยพระเจ้าฟ้าว้อง / แต่โบรานประเวณีสืบสืบมา เถิงสักกราชได้ ๑๑๙๓ ตัว องเรา พระเจ้าล้านช้างก็บ่ละเสียยังโบราณธำนองคองพระราชประเวณี ก็จึงแต่งแปงยังราชทูตาจำทูรพระราชสาร หัตถีญาณปัณณาการ ช้าง ๔ ตัว นองาแลผ้าขวีดขึ้น
๑๘
ไปจินกุงหวานเสอ สักกราชบูชายื่นถวายพระมหากระสัดเจ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ ก็ทือ ชอบแม่นตามราชประเวณีชูประการแล้ว ก็จึงปงชางยังเครื่องพระราชทาน แลพระราชสาร มังลงชกีนแลวแรทั้งมวล อันมีในราชสารลงไปปง / ทานถึงองเรา พระเจ้าล้านช้าง มื้อเดือน ๑๑ ขึ้น ๗ ค่ำ วันนั้นก็ได้รับ พระราชทานสุขย้อนบุญสมพารคำเอกราชา พระมหากระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ชู่ประการแลก็บ่ตกเรี่ยเสียหายสังสักอันหั้นแล บัดนี้องเรา / พระเจ้าล้านช้างก็จิ่งได้แต่งให้พระยา(...) แสนหลวงเชียงรุ่งแล (ขนาน) รมชายหัวพัน เมือง บุนใต้ นายลอง ๕ เปนเค้ากว่าท้าวขุนทั้งมวล จำทุรพระราชกถาขึ้นมาไขว่สารถึงสำพาลคำชูงตูตายีน เจ้าหอคำทั้ง ๒ / ในเมืองแสหลวง ขอทรงแจ้งชูประการ มา น วัน ๓ เดือน ๔ ขึ้น ๘ ค่ำ
๑๙
สรีโสพัณณาธิกสารมังคลราชกถา สมเด็จเสฐบรมขัตติยะสุริยราชวงสาพระมหาเชยยจักกพัตติ ภูมินท ชนินทาธิบัตติ บรมนาถบรมบพิตต พระวรราชนัตตาวรสฐิตยะภินิ ไสในมหาอุตตมรวงขงสิริสัตตนา / คนหุดอุตตมรตน บุรีรมพรหมจักกพัตติ สรีมหานครราชธานีล้านช้างร่มขาว ปักกาสิตยะสิ นิทธสิเนหา รตินทิวานุสสรมานชาไส ภัทธไมตีเถิงพระวรปิตุฉา ตนเปนนาอิสสรรามาธิบัตติภินิไสในอุตตม / ระวงขงเชยยนันท เทพบุรีราชธานี แจ้งแต่ทุรฐานปัญจายุวัณณาธิ ธัมมวุฒิ ๕ ประการ ยังค่อยประวัตติเปนไปในกายสัณดานพระวรปิตุฉาหากิจจปัทวอันตรายิกะเยื่องใดบ่ได้ยังค่อยตั้งอยู่ปัตติปัตติในสาสนา /โช ตยภิชุติ ไปในอนาคตะดังนั้น ข้าองเปนหลานก็มีปีติโสมนัสสปาโมททยาหาที่เสี้ยงที่ซ้ำบ่ได้แท้แล ดั่งในสักกราช ๑๒๐๑ ตัว ไทยะภาสาว่าปีกุร เอกสกยกเข้า ในคิมหันตะรดูเดือน ๔ ไตขึ้น ๕ ค่ำ พระยา / นาไตท้าวคำออน มหาเลกนำเอาอัครราชกถา ลำดับมัคคลังการขึ้นไปวุฒิจำเริน เถิงในราชสำนักข้าองเปนหลานก็ได้แจ้งมา ในอัครราชกถานั้นว่าเจ้าฟ้าหลวงตนเปนน้าบังเกิดบรมราชจิณดาผารมมนาเถิงสองคองกัลยาณสัมภันทมิดสินิ
๒๐
ทธสิเนหา ราชไมตรีแห่ง ๒ มหานครเจ้าตนเปนน้าแลข้าองเปนหลานเพื่อว่าจักให้ยังวรพุทธสาสนาใน ๒ มหานคครนี้ก้านกุ่งรุ่งเรืองต่อไปพายหน้าตราบต่อเท้าสิ้น ๕ พันพระวัสสา ว่ามีประการฉันนี้แล้วเจ้าตนเปนน้าจิ่งได้แจกปันยังพระบรมธาตุเจ้าสิบพระอง / ตั้งเหนือสีสะมังคละพระยานาไตท้าวคำอร เชิญขึ้นมาถปัณณาไว้ ให้เปนที่สักการะบูชาไหว้นบในสฐานบ้านเมืองข้าองเปนหลานแจ้งมามีประการฉันนี้ัข้าองเปนหลานก็มีจิตตเจตนาโสมนัสสยินดีหาที่จักอุปมาเปรียบเทียมบ่ได้แท้แล / ครั้นเถิง น วันเดือน ๔ ขึ้น ๙ ค่ำ วัน ๔ บริสุดด้วยฤกษ์ดวงดี ข้าอันเปนหลานจิ่งได้พาเอาญาติพี่น้อง ขัตติยราชวงสาท้าวพระยาเสนาอามาดไพร่ฟ้าราดซดอรทั้งปวงนิมนพระสังฆสัมมณาแลชายยิงใหญ่น้อยทั้งปวงสามัคคี รดพอรมูรกัน / ขึ้นไปสักการะบูชาสาการเชิญเอาพระบรมธาตุเจ้าในสถานสบเชิง จึงแห่เอายังพระบรม ธาตุเจ้าเสด็จเข้าสู่ บัณฑรบัพพามหาสถาน ในดอนชายมงคลหลวงที่นั้นแล้วก็พร้อมกันอภิ เสกสักการะมังคละสัมโพด มี / กันเทสนาธรรมเบิกบาสรีสลองสิ้น ๓ วัน ๓ คืน ได้ให้ไทยทานถ้วนครบ ๓ วันแล้ว จิ่งเชิญเอาพระบรมธาตุเจ้าขึ้นเมือถปัณณาไว้ในพระมหาเจดีจอมสรีเจ้าลูกประเสิด แต่โบราณปเวณีที่สม ควรแล้ว ข้าองเปนหลานแลญาติการาชวงสาท้าวพระยาเสนา
๒๑
อามาดไพร่ราซดอรทั้งปวง สมัคคีรดพร้อมมูลกันเปนเอกสันทะจิตตาหาน แต่งยังเครื่องสัพพบริกขาน ไธยะทานเปนกันเทสนา ร้อย ๔๐ สำรับ ตั้งมหาเวสสันตรชาดก เบิกฉลองพระมหาเจติยธาตุจอมสรีเจ้า สิ้น ๗ วัน ๗ คืน แล ได้ให้ทานวัตถุปัเจจยชาด / ทั้ง ๔ เปนทาน สิ้นครบ ๗ วัน ๗ คืน มีประหมานเท่านั้น เข้ากันทั้ง ๒ กองเปน ๑๐ วัน ๑๐ คืน ข้าองเปนหลานจิ่งได้น้อมนำมายัง กองพระกุสน เข้ามาสำแดงรอดเถิงในราชสำนักเจ้าตนเปนน้าเปนเค้าแลเจ้าพระยาอุปราชาหอหน้าแลเจ้าพระยา / ราชวงสา ขัตติยราชวงสา ท้าวพระยาเสนาอามาดแลไพร่ราซดอนทั้งปวง จงพร้อมกันอภัตตานุโมทนาอุทธิสสะเอาส่วนกองพระกุสน จิ่มด้วยข้าองเปนหลานชูตนชูคนเทอะ คัน น วัน เดือน ๕ ขึ้น ๔ ค่ำ แสนหลวงอินทจัก แสนชินม / โนราด ได้นำเอาราชกถาแลอักขรกถา เข้ามาเถิงข้าอันเปนหลาน ก็ได้แจ้งทุกประการ บัดนี้ ข้าองเปนหลาน มีอัสสญาณมังคละผู้ตอรแชม มรกดตัว ๑ สุภัณณถันหนัก ๒ หมื่น ชืน ๒ หมื่น มอบอับให้แสน / หลวงอินทจักแลแสนชินนมโนราด นายน้อยคันธะ นายน้อยอชิตตะสอน แนบนำมาถวายเจ้าตนเปนน้า พอได้บริโภก ด้วยวรวุฒิ ราชกถามา น วัน ๔ เดือน ๗ แรม ๒ ค่ำ ปีชวด โทสก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น