ชื่อเรื่อง พื้นเมืองล้านช้าง
ลิ้งค์ต้นฉบับ http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/7661#3
รายละเอียด จศ. ๑๒๐๓ / อักษรธรรมลาว / ๒๑ หน้า / วัดใหม่สุวรรณภูมมาราม หลวงพระบาง
เนื้อหาสรุป
ลิ้งค์ต้นฉบับ http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/7661#3
รายละเอียด จศ. ๑๒๐๓ / อักษรธรรมลาว / ๒๑ หน้า / วัดใหม่สุวรรณภูมมาราม หลวงพระบาง
เนื้อหาสรุป
๑
...
พระเจ้าล้านช้างร่มขาว
มี มธุรจิต สินิทธสิเนหา.....เหมือนดังสมเด็จ
...อินทรา
/
ธิราช
ตนทรงผาบ ...
ในชั้นฟ้า...
เทวบุตร
....
ประดุจจดังมหาสมุทร
...
เปนที่ไหลไปสู่ไปหาแห่งแม่น้ำน้อยทั้งหลาย
/...
แล
อุปมาฉันใด รฐประทันเตคือประเทสราชบ้านน้อย...ราชาพระมหากระสัดเจ้าฟ้าว้อง
ตนบุญใหญ่เหลือมงำทั้งมวล
สิริสัตตนาค /
นหุตนครา
คือเมืองล้านช้างร่มขาวทักขิณบุตตบจันโต
เปนลูกเมืองภายหนทิสส ...
พระ มหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ภายหนเหนือ
เปืองกรุณณาแต่เช่นพระวรราช
/
ปิตตา
ก็ได้สุขย้อนบุญสมพารคำสืบสืบมาเท้า...เปนพระราชบุตตา....ดังเมืองล้านช้างร่มขาว
ทุรฐานสหัสสาโยชนํ
เปนอันไกลได้พันโยดชนะ
๒
อนิทํคตํเถิงเซิ่งอันบ่แล้วแห่งมโนเจตนาหัททยังมีหัวใจห้อยแขวนอยู่บ่ขาด
จัตตาโรมังคละ หัตถียังช้าง
๔ ดวง กุญชลํ เปนกุญชรสารดวงประเสิด
กับทั้งพระราชสารดวงนี้
แลราชบัณณาการ มีงาช้าง ๔๘
กิ่ง หนัก ๔ ร้อยกิ้น นอแรด
๑๔ ยอด หนัก … /
กิ้น
ผ้าขวีดร้อยรำให้พระยาหลวงกวานเลกน้อยวังหลวงราชวัดรัตนมุนติ
สิทธิปัญญา มงคลสุนทํวรอามาด
แลพระยาอินทรังสีอุตตมธานีสรีเชียงรุ่ง
แนบนำเข้าเมือยื่นถวายสัก การะบูชา
เพื่อให้แล้วยังจิตเจตนาแห่งข้า
อันเปนเจ้า /
ต่างประเทสหากมีความโสมนัสสะ
ซึ่งสมพานคำเอกราชาพระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวง ตนบุญใหญ่
ทีฆายุกาจงให้มีอายุหมั้นยืนยาวกัปปวัสสา
สตังได้ร้อยกัปพระวัสสา
เปิงพระกรุณารัฐประชาประเทสราช
บ้านน้อยเมืองใหญ่แล /
เมืองล้านช้างร่มขาว
ขอได้สุขย้อนบุญสมพานคำเอกราชาพระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่เหลือมงำ
ดังเช่นพระวรปิตตา ขอถวายกราบพิทูร
ได้ตรัสชูเยื่องชูประการ
//
อันนี้แม่นกล้าราชสารถึงว้องแล
/
สักกราช
๑๒๐๓ ตัว ปีรวงเป้าเดือน ๕
แรม ๗ ค่ำ วัน ๓ มื้อเมิงมัด
สังขารขึ้นมื้อนั้น
กวานเลกน้อยนำเอาราชสารขึ้นเมือเมืองห้อมื้อนั้น
ปีนั้นเปนจันทาทิมาดนัก...(นักใน)
วัน
๑ ในเดือนเชษฐอัมมวาจาตุทสีนั้น
ให้เปนบัณณรัสสีแล
๓
...เจ้าล้านช้างร่มขาว
มีมธุรจิตสินิทธสิเนหา …
พระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องตนบุญใหญ่ในสุวัณณม
/
หานครรตนราชสำนักหลวง
วิสุกัมโม...เปนประดุจดั่งวิสุกัม
… ประเทสราชทั้งมวล ...
เปนเจ้าล้านช้าง
/
ร่มขาวก็มีพระราชรำเพิงเถิงยังคองพระราชปะเวณีแต่เช่นพระวรราชบิตา
ก็มีมโนเจตนาห้อย ...
หันคองพระราชปะเวณี
....
มหาอามาดแล
/
พระยาอินทรังสีอุตตมธานีสีเชียงรุ่ง
แนบนำจัตตาโรมังคละหัตถียังช้าง
๔ ดวง
กุญชรํ...กับทั้งพระะราชสารดวงนี้...ให้เข้าเมือยื่นถวายสักการะบูชาถึงสำนัก
//ฯ//
ตามราชประ
/
เวณี
...ให้แล้วจิตตเจตนาแห่งข้าอันเปนเจ้า
ล ช ร ข หากมีคำโสมนัสส...ซึ่งสมพารคำ
… ใหญ่ก็เปืองกรุณณาพระราชทานเคื่องกุกุธภัณ
๕ ประการลงไป(บง)
ก็ได้
๔
สุขย้อนบุญสมพารคำ
/ฯ/
แท้หั้นแล
คันมาเทิงเช่นข้านั้นเปนพระราชอุตตมโอรสสาก็ได้ขึ้นเสวยราชสัมปัตติเปนเจ้า...สืบราชวงสาตามราชประเวณี
แล้วขอให้ /ฯ/
ได้เปิงพระกรุณาพระราชทาน
...
ตามพระราชประเวณีเหมือนดั่งเช่น
พระอัยโก พระอัยกา พระราชบิตตานั้น
ให้ข้าองเปนเจ้า /
ล
ช ร ข ได้สืบไว้เปนบุญคุญไปภายหน้าแด
ถ้วน ๓ มา ดั่งฝาหยินชินอันประเสิด
เกิดกับสม พานคำ
/ฯ/
แลลอธอใหญ่หลอใหญ่ม้าใหญ่แมเกียน
แมทวายจามมบุรี
ของอันบ่มีในเมืองล้านช้างร่มขาวนั้น
ขอให้ลีวูหายื่น ...
เจ้าทั้ง
๒ ได้สาง...
กราบพิทูล
/ฯ/
ขอเอาฝายินชืน
๒ คู่ ลอคอ ๒ คู่ /
หลอใหญ่
๒ คู่ ม้าใหญ่ ๒ คู่ แม่เกียน
๕ คู่ แมทวายจามบุรี ๕ คู่
มาไว้เปนมงคลกับเมืองล้านช้างร่มขาวแด
เยื่องฉันใดข้าอันเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวก็ได้สนุกสุขย้อนบุญสมพานเตชลีบุตายินหลวงเจ้าทั้ง
๒ ขอได้อุปปถัมภกค้ำชูได้ตรัสชูประการ
สังวัณณาได้แจ้ง /
ข้าองเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวมีงาช้าง
๔ หัว ผ้าขวีด ๑๐ รำ มายื่นถวาย
เถิงลีปูเจ้าทั้ง ๒ ด้วยวรวุฒิ
//
ดวงนี้เถิงลีปู
แล
๕
สรีสุภมังคละพวนสาราติ
สารภิสุทธิยุตติ
กัลยาณวิสิทธคุตตอตุลยวิ...วฒณอนุญาเนยยวิสุทธิมโหรักสา
...
สมเด็จเสษฐปรมภุมมินทนรินทาธิบตติ
ปรมนาถบรม บพิตตสมเด็จพระเจ้าล้านช้างร่มขาววร
สถิตยพิไส ในมหานครราชธานีสรีสัต ตนาคนหุด
อุตตมร /
ตนบุรี
สังวัณณนาปกกาสิตย
สินิทธสิเนหานุสสรมานชยาไส
พัทธไมตรีภิรมโสมนัสสบาโม
โสฐยาผุสสนพระราชกถาสังวัณณนาเถิงตายีน
เจ้าหอคำทั้ง ๒ ในเมืองแสหลวง
ตนเปนอุปปคุตตาราชเสวกาบลาทมุลิกากอนแห่งเอกราชา
/
พระมหาคระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ทักขิเณนวิรุฬหโกมหาราชาโนอันเปนประดุจดังพระยาตนชื่อว่า วิรุฬหทักขิรักขา
อันรักสายังทิสสะภายหนใต้
ให้แล้วยังราชกิจจะทั้งมวล
นาทาคตาเปนที่เข้าไปอาไสล
/
รฐบจันโต
แห่งประเทสราชทั้งมวล
ข้าองเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวก็มีพระราชรำเพิงเถิงยังคองพระราชประเวณี แต่เช่นพระวรปิตตา
ก็มีมโนเจตนาห้อยแขวนกับ
/ฯ/
มีพระราชรำเพิงฉันนี้
จิ่แลพระยาหลวงอินทรังสี อุตตมธานีสรีเชียงรุ่ง
แนบนำจัตตาโรมังคละหัตถี
ยังช้าง ๔ ดวงกุญชรังเปนคูชรสาน
ดวงประเสิดกับทั้งพระราชสารดวงนี้
แลราชปัณณากานมีงา
๖
ช้าง
๔๑ กิ่ง หนัก ๔ ร้อยกิ้น นอแรด
๑๔ ยอด หนัก ๒๐ กิ้น ผ้าขวีดร้อยรำ
อุปปนาเมนติให้เข้าเมือยื่นถวายสักกรบูชาเถิงจำนักเจ้า
/ฯ/
ตามพระราชประเวณี
เพื่อให้แล้วยังจิตตเจตนาแห่งข้า
องเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวหากโส
/
มนัสสะซึ่งสมพานคำ
/ฯ/
ตามราชประเวณีแท้หั้นแล
ถ้วน ๒ มาเมืองล้านช้างร่มขาวแต่เช่น
พระอัยยโก
พระอัยยกา พระราชบิตตานั้น
/ฯ/
ก็เปิงกรุณณาพระราชทานเครื่องกุกุธภัณฑ
๕
ประการลงไปปงก็ได้ /
สุขย้อนบุญสาพารคำ
/ฯ/
แท้หั้นแล
ครั้นมาเถิงเช่นข้า
อันเปนพระราชบุตรอุตตมโอรสสาก็ได้ขึ้นเสวยราชสัมปัตติ
เปนเจ้า ล ช ร ข สืบราชวงสาตามราชประเวณีแล้ว
ขอให้เจ้าฟ้า ว หล ต บ หย
ได้เปิงกรุณณา /
พระราชทานปงตามราชประเวณี
เหมือนดั่งเช่นพระอัยยโก
พระอัยยกา พระราชบิตตานั้นให้ข้าองเปนเจ้า
ล ช ร ข ได้สืบไว้เปนมงคลไปภายหน้าแด
ถ้วน ๓ มาดั่งฝายินชืน อันประ
เสิด //
ตั้งแต่นี้ไป
/
ให้ว่าดั่งดวงเมือเถิงลีปูนั้นเทอะ
แม่นความเดียวกันแล้ว //
เยื่องฉันใดข้าองเปนเจ้าล้านช้างร่มขาว
จักได้สุขย้อนบุญสมพานคำเตชะเจ้าหอคำทั้ง
๒ ขอได้อุปปถัมภกะค้ำชูได้ตัดชู เยื่องชูประการ
สังวัณณาได้แจ้ง //
๗
อักขรกถาอัครมหาเสนาธิบดีเจ้าผู้ใหญ่ทั้งมวล
๓๒ ขุนพร้อมเหนือหอสนามหลวงในมหาอุตตมรวงโขงสิริสัตตนาคนหุตอุตตมรตนบุรีรมพรหมจักกพัตติ
สรีมหานครราชธานีล้านช้างร่มขาว มีเจ้าพระยาหลวงเมืองแสน
บ /
ถมอัคคมหาเสนาธิบดีเปนเค้า
มีเจ้าพระยาหลวงเมืองจันเปนประธานมาเถิงพระยาอริยะวงอูใต้
เจ้าตนพระพุทธพรหมวงสาสุรราชาเมืองอูเหนือเปนเค้า
แลขุนลางทั้งมวลให้ได้แจ้งด้วยว่าห้อแลข้าก้อ/
ทั้งหลาย
อันได้เข้ามาชะแมะแอบอิงอยู่ในแขวงเมืองล้านช้างร่มขาว
เปนคนบอริไยไสส่อผิ แผนด้วยร้อยความแลว
แลกับคืนเมือสนส่อต่อเจ้า
๒ อู ขอเอากองทัพกับลังเจ้า
๒ อู เจ้า ๒ อู ก็บ่ต้องตามประเวณีแห่ง
/
๒
มหานคร อันได้ตั้งแต่งแหล่งไว้กับกันนั้น
เจ้า ๒
อูก็พ้อยว่ายกเอาพละกำลังลงมาข่มเหงควรควีราวีฟันแทงผู้คนเมืองอริน ทำให้เปนเหดให้ ๒
มหานครฟัดฟอกตอกตำกันให้ขาดทางราชประเวณีนั้นบ่ชอบ
ตั้ง /
แรกแต่นี้ไปภายหน้า
ถ้าแลห้อข้าก้ออันอยู่ในขอบแขวงเมืองล้านช้างหากเกิดมีคดีเนื้อความเยื่องประการใดก็ดี
ล้านช้างหากจักชำระว่ากล่าวเอาเอง
ถ้าแลห้อข้าก้ออันอยู่ในขอบแขวงเมือง
๒ อู ก็ให้เมือง ๒ อู ได้
๘
ชำระว่ากล่าวเอา
ไฟเมืองใดลุกให้เอาน้ำเมืองนั้นมอด
ไพ่อยู่เมืองใดให้ไว้กับเมืองนั้น
อย่าข้ามเขตกายแดนลงมาทำลุกกุกกวนข่มเหงคระเนงร้ายถ้าแลเจ้า ๒ อูยังดงล่วงเกินประเวณีบ้านเมืองมาทำลุกกุกกวน ข่มเหงฟันแทง
/
ผู้คนในขอบแขวงเมืองล้านช้างดั่งนั้น
ตีนมือก็บ่ได้สุบบังสุบโบกไว้
ก็แดนจักได้ตอบบัง กับด้วยแก่กัน
สัพพโทสานุโทดทั้งมวลให้ไว้ที่เมือง
๒ อูชู่ประการ สัพพสัญญามาให้ได้แจ้ง
/
สักกราช
๑๒๐๓ ตัวปีร่วงเป้า เดือน
๕ แรม ๗ ค่ำ วัน ๓
มื้อเมิงมดกวานเลกน้อยทือขึ้นไป
๙
กระทำหลายเทื่อ
จักขาดเสียยังทางราชไมตรีแห่งกัน
ถ้าแลเจ้าทั้งหลายห้ามปามเจ้าเมือง
๒
อู หากบ่ฟังยังดนล่วงเกินยังราชประเวณี
ลงมากระทำอันนาลายข่มเหงเหมือนดั่งที่แล้วนั้น
หลอนว่าท้าวขุนฝูงอยู่รักสาหัวฟายปายด่าน
ได้กระทำ /
ขืนสีไม้สีมือตอบบังดังนั้น
ก็เหนบ่ดีหน้างามตาทั้ง ๒
มหานคร ก็จักขาดการไกญาน
เปนเภทะเกียวข้องกับด้วยกัน
อย่าแล สัพพโทสานุโทสทั้งมวลมีที่เมือง
๒ อู ตั้งแต่นี้ไปภายหน้า
ดั่งห้อแลชาวก้อ อันอยู่ใน
/
เขตแดนเมืองล้านช้างหากเกิดมีติดเนื่องด้วยคดีเนื้อความเยื่องประการใดก็ดี
มีที่ภายเมืองล้านช้างหากจักชำระว่ากล่าวตามพีมเมืองล้านช้าง
ถ้าแลห้อแลก้อทั้งหลายอัน อยู่ในขอบแขวงเมืองแสวนหวีฟ้า
ก็ /
ให้ชำระว่ากล่าวกับเมืองแสวนหวีฟ้า
ไฟลุกเมืองใดให้เอาน้ำเมืองนั้นมอด
จึงชอบธัมมดาจารีตบ้านเมือง
อัน ๑
ดั่งห้อแลชาวก้อทั้งหลายอันอาสไลอยู่กินกับเมืองล้านช้างนั้น
แต่นี้ ไปภายหลังเมืองแสวนหวี
/
ฟ้าก็แต่งท้าวขุนล่วงเกินประเวณีลงมาเก็บเอา
เงินแชนลางกับห้อแลชาวก้อทั้งหลายอันอยู่ในเขตแดนเมืองล้านช้างนั้น
ภายเมืองแสวนหวีฟ้าก็บ่สัญญาบอก กล่าวให้เมืองล้านช้างรู้แจ้ง
ดั่งข้อยไพเมืองล้านช้าง
ขึ้นไป
๑๐
อาไสลอยู่ในเขตแดนเมืองแสวนหวีฟ้านั้น
ดังภายเมืองล้านช้างก็บ่ได้ขึ้นไปเก็บเอาเบี้ยหอยเงินทองนำเขาสักเทื่อ
ก็ให้เขาบัวรบัดออกเสียกับเมืองแสวนหวีฟ้าทางเดียว
ตั้งแต่นี้ไปภายหน้าห้อแลชาวก้อไปอยู่เขตแดนเมือง
/
ใด
ไวให้เขาบัวรบัดออกเสียกับเมืองนั้น
ไผอย่าล่วงเขตอย่ากายแดนลงมากระทำลุกกุก กวน
ข่มเหงคระเนงร้ายเหมือนดั่งแต่ก่อน
ผิดธัมมดาจารีตบ้านเมือง
ข้าทั้งหลายจิ่งได้มีอักขรกถามาไกว่สารได้แจ้ง
/
สักกราชา
๑๒๐๓ ตัว ปีรวงเป้าเดือน ๕
แรม ๗ ค่ำ วัน ๓ มื้อเมืองมดติตถี
๒๒ ตัวนาทีติตถี
๓๐ ตัว ฦกษ์ ๒๐ ลูก ฦกษ์ ๓๙
ลูก //
ถ้วน
๒ มาชิงเจ้าทั้งพวงได้มีอักขรกถาลงมาว่าดัง
ครอบครัวข้าเจ้าไพร่ไทภายเมืองแสวนหวีฟ้า
ได้ตกค้างอยู่เมืองล้านช้างร่มขาวมีแล /
น้อยมากเท่าใด
จัก(ยาจนะ)
ขำขอเอาขึ้นไปส้อมบ้านใส่เมืองตามเดิมประเภณีว่ามีประการฉันนี้
ข้าทั้งหลายก็ได้ตัดแจ้งชู่ประการแล้ว ข้าทั้งหลายกับขุนราชทูตาก็ได้ปรึกสาอูบจากัน
เห็นว่าเจ้าย่ำกระหม่อมสมเด็จพระเปนเจ้าแห่งข้าทั้งหลายก็จั่งได้เถิงมหาถานันตร
เปนเจ้านั่งช้างเสวยเมืองใหม่
ก็จักได้คึดลำห้างแต่งช้างหลวงงวงใหญ่
/
แลเครื่องราชปัณณาการขึ้นไปจิ่นกูง
ขราบถวายเจาฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ตามราชประเวณีก่อนติดดั่งอุปป...ครอบครัวภายเมืองแสวนหวีฟ้ามาตกอยู่ในเมืองล้านช้างร่มขาวก็มี
ดั่งครอบครัวเมืองล้านช้างร่มขาวยังตกค้างอยู่ในเมืองแสวนหวีฟ้าก็มีหลายอยู่ถ้าแลภายข้างหน้าบ้านเมืองเราทั้ง
๒ กำ ๒ ภาย ยังพคอยสงบกำเย็น
...
พีนดีงาม
เราเจ้า /
ข้อยทั้ง
๒ บ้าน ๒ เมืองจั่งค่อยอูบจากับด้วยลัน
ดีอย่าแล //
๑๑
อักขรกถาอัคคมหาเสนาธิบดีผู้ใหญ่ทั้งปวง
ท้าวพระยา ๑๒
ขุนพร้อมเหนือหอสนามหลวงในเมืองหลวงพระบางราชธานี
สรีสัตตนาคณหุดอุตตมรตนบูรีรมพรหมจักก
พัตติสีมหานครล้านช้างร่มขาว
มีเจ้าพระยาหลวงเมืองแสนวร
/
สีหราชา
ปถมอัคคมหาเสนาธิบดีเปนเค้า
มีเจ้าพระยาหลวงเมืองจันเปนประธาน
มาวุฒิสวัสดีจำเรินเทิงอัคคมหาเสนาธิบดีพูใหญ่ทั้งปวง
ท้าวพระยา ๑๒
ขุนพร้อมเหนือหอสนามในเชยยนันทเทพพบุรีราชธานี
ชู่ตน /
ชู่คน
ก็ได้แจ้งซึ่งข้อราชการภายมืองพวนนั้นท้าว
เพยเวียนควาน
น
เมืองพวนก็ได้จัดแจงแต่งให้ขุนพนอามาดมุนตรีแลขุนมหาวงสากับไพร่สี่ชือนำเอาสิ่งของเครื่องราชบัณณาการ แลลานบานชีคน
น เมืองพวน ลงมา /
ยื่นกับข้าทั้งหลาย
ขอเปนช้า ...
ราชการ
ฉลองพระเดชพระคุณต่อใต้ฝ่าละอองทุลีพระบาทสมเด็จพระพุทธิเจ้าอยู่หัว
ขึ้นกับเมืองหลวงพระบาง
ข้าทั้งหลายก็ได้เกนราชการกับเขา
เขาก็ได้รับราชการกับข้า
/
ทั้งหลายแล้ว
เจ้าย่ำกระ หม่อมสมเด็จพระเปนเจ้าแห่งข้าทั้งหลาย
ก็ได้ตั้งแต่งชุบย้อมเลี้ยงเกือเขา
ให้ขึ้นไปหาบ้านหาเมืองแล้วซึ่งข้อราชการฝ่ายหัวพันทั้ง
๖ นั้น เขาก็ลงมาแล้ว
หัวเมืองยังบ่มานั้น
ก็จักลงมาตามทีหลัง
ซึ่งข้อราชโองการฝ่าย
๑๒
เมืองแถงนั้น
ข้าทั้งหลายก็ได้แต่งให้พระยาสักกรคอนแสนจันสบนาว
ขึ้นไปประจำรักสาหน้าด่านต่อแดนเมืองแถงเนิน
๒ อยู่มิได้ขาด
ถ้าเขาหากออกมาตั้งบ้านแปงเรือน
หล่อแหลมอยู่นั้น
ข้าทั้งหลายจักได้ยกกองทัพขึ้นไปฟาดตีเสียมิให้เขาตั้งบ้านแปงเรือน
/
อยู่ได้
ซึ่งข้อราชการฝ่ายเมืองเชียงรุ่งนั้น
ก็ยังสงบอยู่ ถ้าแลราชการร้ายดี
ผันแปล มาเปนประการใด
จักได้บอกลงมาแจ้งต่อทีหลัง
อัน ๑ ท่านทั้งปวงได้แต่งให้นายนามโนแลแสนสิทธิ
ขึ้นมาฟังยังกิจจราชการ
กับด้วยข้าทั้งหลายนั้น ก็
/
หากชอบแก่ราชการอยู่แล้ว
ซึ่งแสนสิทธินั้นก็ได้ติดเนื้อต้องความด้วยกระทำมิจฉาจาร
กับด้วยเมียท้าวแพะมหาเลกนั้น
ตามดังรีดคลองทำนองบ้านเมืองแห่งข้าทั้งหลายนั้น
ก็หากควรเอาตัวแสนสิทธิติดจำไว้แล้วจึงชำระ
บัดนี้เจ้าย่ำกระหม่อมสมเด็จ
/
พระเปนเจ้าแห่งข้าทั้งหลาย
ก็เล็งเห็นแต่โบราณทำนองคลองพระราชไมตรีประเวณี บ้านเมืองอันเปนพันธุมิตต
ได้ขอดสารกันมาแต่ก่อนนั้น
จึงซงพระกรุณารับสั่งโปรดใส่เกล้าใส่กระหม่อมให้ข้าทั้งหลายชำระด้วยดี
ข้าทั้งหลายก็ได้พร้อมกันชำระ
/
ยังบ่ตกบ่แห้งเทื่อ
บัดนี้ซึ่งตัวแสนสิทธินั้นก็ได้เข้าไปอยู่กับเจ้าอินเมืองแล้ว
เจ้าอินเมืองกับข้าทั้งหลายก็จักได้พร้อมกันชำระยังโทสานุโทด
ให้เสดสุจจริตแล้วก็จักได้ลงมาตามทีหลัง
ข้าทั้งหลายจึงได้มีอักขรกถาให้นายนามโนกลับไป
(...ไม่ชัด)
/ คนที่ลงมาเถิงท่านทั้งหลายให้ได้แจ้ง
อักขรกถามา น วัน ๔ เดือนยี่
แรม ๖ ค่ำ ปีกัดไจ้ สักกะ ๑๒๐๒
ตัว
๑๓
อัครวรราชกถาสมเดจพระเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวเสษฐขัตติยะ
สุริยะราชวงสาภูมินทรินทราธิบตติ
บรมนามบรมบพิตต
พระมหาราชาธิราชวรสถิตยะพิไสในมหาอุตตมรวงขงสิริสัตตนาคณหุด
อุตตมรตนบุรี /
รมพรหมจักกวัตติ
สรีมหานครราชธาณีล้านช้างร่มขาว
ปกกาสิตยะ สินิทธสิเนหาสังวัณณนาเถิงตายินตาแย
ส่างชือเจ้าในเมืองแมน
เมืองลาแจ้งเทอ ดังในสักกราช
๑๒๐๒ ตัว เดือน ๑๐ ใต้ แรม ๖
ค่ำ ราชทูตามีพระยาเชยย /
สิทธินรฐา
ขุนในราชสำนักเมืองแสวนหวีฟ้า
แลพระยาภมเมืองลา
กับไพร่มีชื่อถืออักขรวรราชกถาอักษรกถาเมืองแสวนหวีฟ้า
งอเทียมแนบนำเอาชาหวีชางเขาแลขุนราชทูตายังกูง แยเลียวแย่
วาง /
แย
ล แย เธอแย พระยาสีปองวองกับเครื่องราชบัณณกาน
ลงมารอดเถิงในราชสำนักเมืองล้านช้างร่มขาว
มีแรกุงตอน ๖ รำ สักหลาดเขียว
๒ วา ปลาย ๒ ไม้ สักหลาดเหลือง
๒ วา ปาย ๒ ไม้ เจียนแดง ๔ ผืน
แขบดอกแร ๔ คู่ คัน /
อยู่มา
น วันเดือน ๑๐ แรม ๑๔
ค่ำจึงได้สองไขเสียนลาย
แลราชกถานั้นเปนใจความว่า
ปี นี้ก็เปนขวบฟ้ากาลดุปีประเวณีลีกุงหวานกุงเข้ามารอดเถิงแล้ว
ให้พระเจ้าล้านช้างร่มขาว
ได้ห้างแต่งราชทูตาสนำจำทุร
๑๔
พระราชสารราชบัณณกานจตุหัตถีญาณมังคล
ช้างหลวงงวงใหญ่ขึ้นไปลีกุงหวานกุงยื่นถวายสักกรบูชา
พระเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่
ขึ้นไปให้เถิงในเมืองว้อง
เดือน ๑๑ เดือน ๑๒ ปีรวงเป้าออกมา
ในเสียนลายว่ามีประการฉันนี้
คันสมเด็จพระเจ้าล้านช้าง
/
ตัดส่องแจ้งแล้ว
ก็มีความโสมนัสสะยินดี
หาจักอุปมาเปรียบเทียมบ่ได้แท้หั้นแล
สมเด็จพระเปนเจ้าล้านช้างก็บ่ให้ขาดเสียยังพระราชทำนอง
คลองพระราชไมตรีประเวณีแต่ก่อน
ครั้นเถิงในวันเดือน
๑๑ ขึ้นค่ำ ๑ สมเดจพระเปนเจ้าล้านช้างร่มขาว
/
ก็ได้ปลงอาชญาบังคับให้ท้าวพระยาเสนาอามาดผู้สัดซื่อหมั้นคง
ออกไปจัดแจงเลือกเอายังช้างตัวดีตัวงาม
ตัวถูกลักขณะ
เปนมังคละต้องราชการในขอบแขวงเขตแดนเมืองล้าน ช้างร่มขาวทั้งมวล
ก็เปนอันพานช้านานอยู่
ครั้นมาเถิง น วันเดือนยี่ขึ้น
/
๒
ค่ำนั้น ดั่งท้าวพระยาฝูงไปจัดแจงเลือกเอาช้างนั้น
ก็จึงได้นำเอายังช้าง
เข้ามารอดเถิงในราชสำนักสมเด็จพระเปนเจ้าล้านช้างร่มขาวแล้ว สมเด็จพระเปนเจ้าล้านช้างก็จิ่งได้ปลงอาชญา
บังคับให้ท้าวพระยาเสนาอามาดกับ
/
ทั้งราชทูตา
ยังฟูแย่ เลียงแย่ วางแย่
ลอแย่ พระยาสีปองวอง
พระยาหลวงสิทธินรธาพระยาพรหมจักเมืองล้า
พร้อมมูลกัน
จัดแจงวัดอ้อมแทกเอายังกายาขนาดช้างตัวถูกลักขณะ
เปนมังคละต้องราชการจีนกุงนั้น
ตัว ๑ ชื่อว่าหัตถีญาณ
๑๕
มังคละปัจเจยยนาเคน
สูง ๔ สอก ปลาย ๔ นิ้ว
งายาวพนไปสอกปลาย ๕ นิ้ว
ตัวใหญ่ ๖ ศอกปลาย ๖ นิ้ว
ตัวยาวได้ ๖ สอก หางยาว ๓ สอก
ตัวถ้วน ๒ ชื่อว่า หัตถีญาณมังคละมหาคีรี
สูง ๔ สอกปาย กำยืน งายาวพ้นไปสอกปาย
๔ นิ้ว โตใหญ่ ๖ สอกปลาย ๕
นิ้ว โต ยาว
๕ สอก /
ปายคืบ
๔ นิ้ว หางยาว ๒ สอก ตัวถ้วน
๓ ชื่อว่าปราบสัตตูอ่อนน้อม
สูง ๔ สอกปาย ๓ นิ้ว งายาวพ้นไปสอก
๑ ตัวใหญ่ ๕ สอกคืบ ๗ นิ้ว
ตัวยาว ๕สอกปายคืบ หางยาว
๒ สอกปาย ๗
นิ้ว ตัวถ้วน ๔ ชื่อว่าเชยยจักกแผ่นแผ้ว
สูง ๔ สอกยอม ๒ นิ้ว งายาวพ้นไปสอกปาย
๘ นิ้ว ตัว /
ใหญ่
๕ สอกคืบ ๓ นิ้ว ตัวยาว ๕ สอกปาย
๖ นิ้วหางยาว ๒ สอกคืบปาย ๕
นิ้วเข้ากันเปน ๔ ช้าง
จิ่งได้เปสนาราชทูตาพระยาหลวงทิพเนด
ขุนในราชจำนัก
กับพระยาเมืองบุญสนำ จำทุรก้านอาดดวงญา
กับไม้แทกช้างแลฝ้าย ออ /
ม(ไม่ชัด)
... บนหัวลำดับราชมคคลังกาน
เข้าเมือสังวัณณนายื่นถวายถึงตายีนตาแย
ส่างซือเจ้าเมืองแมนเมืองลา
พอให้ได้ตัดแจ้งตามงอเทียมราชทูตายังฟูแยเปนเค้าราชประเวณี เปนสำคันก่อนหั้นแล
/
ดังตัวช้างจินกูง
ยังสิงของเครื่องราชบัณณากาน
ได้คบไขวบอริบวรแล้วก็จักได้แต่งให้ท้าวพระยาราชทูตานำเอายังช้างมังคละจีนกูงออกจากราชจำนักเมืองล้านช้างร่มขาวขึ้นไปในท้องเดือน
๔ เปนที่ถนะหมั้นคงแท้ หั้นแล
๑๖
ถ้าแล
พระยาหลวงทิพพเนด
พระยาหลวงเมืองบุรราชทูตาได้นำเอาไม้แทกช้างแลฝ้ายอ้อมช้างนี้
เมือรอดเถิงตายีนตาแยส่างซีเจ้าในเมืองแมนเมืองลาแล้วแล
เยื่องฉันใดไม้แทกช้างแลฝ้ายอ้อมช้างนี้จักเข้าเมือรอดบองเถิงแส
/
นั้น
ถปันนาไว้ในตายีนตาแย เจ้าทั้ง
๒ เปนที่ราชอุปถัมภกสางพีนไหว้สาชูเยื่องชูประการ
สังวัณณนาได้แจ้ง ราชกถามา
น วัน ๔ เดือนยี่ แรม ๑๓ ค่ำ
ปีกดไจ้ สักกะ ๑๒๐๒ ตัว
เจ้ายำกระหม่อมสมเด็จ /
พระเปนเจ้าราชบุตอุตตมโอรสส
(...)
พระราชวังบวรสถานมงคลหอคำฝ่ายหลัง
จักได้ขึ้น ครอบครองเสวยราชบ้านเมืองในปีกัดไค้
เดือน สักราชได้ ๑๒๐๑ ตัว
อยู่มาเถิงสักราชได้ ๑๒๐๒
ตัว ห้อ (ชาย?)
จึงลงมาขอเอาขึ้นไป
/จีนกอง
มีช้าง ๔ ตัว ตัว ๑ ชื่อว่าปัจเจยยนาเคน
ค่า ๒ พันดอก ตัวถ้วน ๒ ชื่อว่า
มหาคีรีค่าชั่ง ๘ ตัวถ้วน
๓ ชื่อว่าผาบสัตตูอ่อนน้อม
ค่าชั่ง ๘ ตัวถ้วน ๔
ชื่อว่าเชยยะจักกะแผ่นแผ้ว
ค่าชั่ง ๗
๑๗
สรีสุภมังคละ
พจนสาราณิสารพิสุทธิยุตติ
กัลยาณวิสิฐคุณณอตุลยวิบุลลวัฒณมนุญา
เนยยวิสุทธิ มหารชาไส
สมเด็จเสฐปรมภูมินทนรินทาธิบัตติ
บรมนาถบรมบพิตต วรสถิตยะภินิไส
ในอุตตมรวงขงสิริสัตตนา /
คนหุดอุตตมรตนบุรีรมพรหมจักกพัตติ
สรีมหานคครราชธาณี
ถวายสัมภารคำชองตูตายิน
เจ้าหอคำทั้ง ๒ ในเมืองแสหลวงตนเปนอุปปคุตตา
ราชเสวกาบลาทมุลิกากอรอุปถัมภกคำหมอนพระราชสมภารคำแห่ง
เอ /
กราชา
พระมหากระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่
ทักขิเณนวิรุฬหกมหาราชา
องเปน ประดุจจดั่งพระยาใหญ่ตนชื่อวิรุฬหทักขิณรักขา
อันรักสายังทักขิณหนใต้
ตนให้แล้วยังราชกิจจการทั้งมวล
แห่งพระยาอมรินอินทราธิ /
บติเทวราชนาถาคตา
ตนเปนที่เพิ่งที่อาไสลรฐปจันตาแห่งท้าวพระยาประเทสราชทั้งมวลหากควรเข้ามาสู่มาหาแล
ให้แล้วยังราชกิจการทั้งมวลแท้หั้นแล
ติดดั่งเมืองล้านช้างร่มขาวก็เปนเมืองกูงกวยพระเจ้าฟ้าว้อง
/
แต่โบรานประเวณีสืบสืบมา
เถิงสักกราชได้ ๑๑๙๓ ตัว
องเรา
พระเจ้าล้านช้างก็บ่ละเสียยังโบราณธำนองคองพระราชประเวณี
ก็จึงแต่งแปงยังราชทูตาจำทูรพระราชสาร
หัตถีญาณปัณณาการ ช้าง ๔ ตัว
นองาแลผ้าขวีดขึ้น
๑๘
ไปจินกุงหวานเสอ
สักกราชบูชายื่นถวายพระมหากระสัดเจ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่
ก็ทือ ชอบแม่นตามราชประเวณีชูประการแล้ว
ก็จึงปงชางยังเครื่องพระราชทาน
แลพระราชสาร มังลงชกีนแลวแรทั้งมวล
อันมีในราชสารลงไปปง /
ทานถึงองเรา
พระเจ้าล้านช้าง มื้อเดือน
๑๑ ขึ้น ๗ ค่ำ วันนั้นก็ได้รับ
พระราชทานสุขย้อนบุญสมพารคำเอกราชา
พระมหากระสัดเจ้าฟ้าว้องหลวงตนบุญใหญ่ชู่ประการแลก็บ่ตกเรี่ยเสียหายสังสักอันหั้นแล
บัดนี้องเรา /
พระเจ้าล้านช้างก็จิ่งได้แต่งให้พระยา(...)
แสนหลวงเชียงรุ่งแล
(ขนาน)
รมชายหัวพัน
เมือง บุนใต้ นายลอง ๕
เปนเค้ากว่าท้าวขุนทั้งมวล
จำทุรพระราชกถาขึ้นมาไขว่สารถึงสำพาลคำชูงตูตายีน
เจ้าหอคำทั้ง ๒ /
ในเมืองแสหลวง
ขอทรงแจ้งชูประการ มา น วัน
๓ เดือน ๔ ขึ้น ๘ ค่ำ
๑๙
สรีโสพัณณาธิกสารมังคลราชกถา สมเด็จเสฐบรมขัตติยะสุริยราชวงสาพระมหาเชยยจักกพัตติ
ภูมินท ชนินทาธิบัตติ
บรมนาถบรมบพิตต พระวรราชนัตตาวรสฐิตยะภินิ
ไสในมหาอุตตมรวงขงสิริสัตตนา
/
คนหุดอุตตมรตน
บุรีรมพรหมจักกพัตติ
สรีมหานครราชธานีล้านช้างร่มขาว
ปักกาสิตยะสิ นิทธสิเนหา
รตินทิวานุสสรมานชาไส
ภัทธไมตีเถิงพระวรปิตุฉา
ตนเปนนาอิสสรรามาธิบัตติภินิไสในอุตตม
/
ระวงขงเชยยนันท
เทพบุรีราชธานี
แจ้งแต่ทุรฐานปัญจายุวัณณาธิ
ธัมมวุฒิ ๕ ประการ ยังค่อยประวัตติเปนไปในกายสัณดานพระวรปิตุฉาหากิจจปัทวอันตรายิกะเยื่องใดบ่ได้ยังค่อยตั้งอยู่ปัตติปัตติในสาสนา /โช ตยภิชุติ
ไปในอนาคตะดังนั้น
ข้าองเปนหลานก็มีปีติโสมนัสสปาโมททยาหาที่เสี้ยงที่ซ้ำบ่ได้แท้แล ดั่งในสักกราช ๑๒๐๑
ตัว ไทยะภาสาว่าปีกุร
เอกสกยกเข้า ในคิมหันตะรดูเดือน
๔ ไตขึ้น ๕ ค่ำ พระยา /
นาไตท้าวคำออน
มหาเลกนำเอาอัครราชกถา
ลำดับมัคคลังการขึ้นไปวุฒิจำเริน เถิงในราชสำนักข้าองเปนหลานก็ได้แจ้งมา
ในอัครราชกถานั้นว่าเจ้าฟ้าหลวงตนเปนน้าบังเกิดบรมราชจิณดาผารมมนาเถิงสองคองกัลยาณสัมภันทมิดสินิ
๒๐
ทธสิเนหา
ราชไมตรีแห่ง ๒
มหานครเจ้าตนเปนน้าแลข้าองเปนหลานเพื่อว่าจักให้ยังวรพุทธสาสนาใน ๒
มหานคครนี้ก้านกุ่งรุ่งเรืองต่อไปพายหน้าตราบต่อเท้าสิ้น
๕ พันพระวัสสา
ว่ามีประการฉันนี้แล้วเจ้าตนเปนน้าจิ่งได้แจกปันยังพระบรมธาตุเจ้าสิบพระอง
/
ตั้งเหนือสีสะมังคละพระยานาไตท้าวคำอร
เชิญขึ้นมาถปัณณาไว้ ให้เปนที่สักการะบูชาไหว้นบในสฐานบ้านเมืองข้าองเปนหลานแจ้งมามีประการฉันนี้ัข้าองเปนหลานก็มีจิตตเจตนาโสมนัสสยินดีหาที่จักอุปมาเปรียบเทียมบ่ได้แท้แล /
ครั้นเถิง
น วันเดือน ๔ ขึ้น ๙ ค่ำ วัน
๔ บริสุดด้วยฤกษ์ดวงดี
ข้าอันเปนหลานจิ่งได้พาเอาญาติพี่น้อง
ขัตติยราชวงสาท้าวพระยาเสนาอามาดไพร่ฟ้าราดซดอรทั้งปวงนิมนพระสังฆสัมมณาแลชายยิงใหญ่น้อยทั้งปวงสามัคคี
รดพอรมูรกัน /
ขึ้นไปสักการะบูชาสาการเชิญเอาพระบรมธาตุเจ้าในสถานสบเชิง
จึงแห่เอายังพระบรม ธาตุเจ้าเสด็จเข้าสู่
บัณฑรบัพพามหาสถาน
ในดอนชายมงคลหลวงที่นั้นแล้วก็พร้อมกันอภิ เสกสักการะมังคละสัมโพด
มี /
กันเทสนาธรรมเบิกบาสรีสลองสิ้น
๓ วัน ๓ คืน ได้ให้ไทยทานถ้วนครบ
๓ วันแล้ว
จิ่งเชิญเอาพระบรมธาตุเจ้าขึ้นเมือถปัณณาไว้ในพระมหาเจดีจอมสรีเจ้าลูกประเสิด
แต่โบราณปเวณีที่สม ควรแล้ว
ข้าองเปนหลานแลญาติการาชวงสาท้าวพระยาเสนา
๒๑
อามาดไพร่ราซดอรทั้งปวง
สมัคคีรดพร้อมมูลกันเปนเอกสันทะจิตตาหาน
แต่งยังเครื่องสัพพบริกขาน
ไธยะทานเปนกันเทสนา ร้อย
๔๐ สำรับ ตั้งมหาเวสสันตรชาดก
เบิกฉลองพระมหาเจติยธาตุจอมสรีเจ้า
สิ้น ๗ วัน ๗ คืน แล
ได้ให้ทานวัตถุปัเจจยชาด
/
ทั้ง
๔ เปนทาน สิ้นครบ ๗ วัน ๗ คืน
มีประหมานเท่านั้น เข้ากันทั้ง
๒ กองเปน ๑๐ วัน ๑๐ คืน
ข้าองเปนหลานจิ่งได้น้อมนำมายัง
กองพระกุสน
เข้ามาสำแดงรอดเถิงในราชสำนักเจ้าตนเปนน้าเปนเค้าแลเจ้าพระยาอุปราชาหอหน้าแลเจ้าพระยา
/
ราชวงสา
ขัตติยราชวงสา
ท้าวพระยาเสนาอามาดแลไพร่ราซดอนทั้งปวง
จงพร้อมกันอภัตตานุโมทนาอุทธิสสะเอาส่วนกองพระกุสน
จิ่มด้วยข้าองเปนหลานชูตนชูคนเทอะ
คัน น วัน เดือน
๕ ขึ้น ๔ ค่ำ แสนหลวงอินทจัก
แสนชินม /
โนราด
ได้นำเอาราชกถาแลอักขรกถา
เข้ามาเถิงข้าอันเปนหลาน
ก็ได้แจ้งทุกประการ
บัดนี้ ข้าองเปนหลาน
มีอัสสญาณมังคละผู้ตอรแชม
มรกดตัว ๑ สุภัณณถันหนัก ๒
หมื่น ชืน ๒ หมื่น มอบอับให้แสน
/
หลวงอินทจักแลแสนชินนมโนราด
นายน้อยคันธะ นายน้อยอชิตตะสอน
แนบนำมาถวายเจ้าตนเปนน้า
พอได้บริโภก ด้วยวรวุฒิ
ราชกถามา น วัน ๔ เดือน ๗ แรม
๒ ค่ำ ปีชวด โทสก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น