วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

ตำนานนิทานเชียงดงเชียงทองเชียงหวาง ฉบับวัดแสนสุขาราม (หน้า ๖๖-๙๓)

๖๖
เจ้าพระยาจิกคำวันนั้น เจ้าพระยาจิกคำยังสั่งมาว่า เขือเจ้าแม่ลูกเมือสร้างบ้านให้เรืองสร้างเมืองให้รุ่งเทิน พี่เราน้องเรายังคึดอันใดไปรุ่งไปเรืองให้ ใช้ผู้ใช้คนมาเถิงเราคำรักคำแพงเราพี่น้องบ่ขาดบ่เสียกันสักเทื่อดาย เราก็ยังให้หมื่นพระนำ เมือส่งรอดพวนบ่อย่า ว่าดังนี้ เจ้าพระยายังให้ขันคำหน่วย ๑ หนัก ๕ ร้อยให้จัน ๑๒ หัว แก่เจ้านางผมดำ ให้ทั้งช้างจำลองตัว ๑ ทั้งแหย่งกับหั้นแล แต่นั้นขาเจ้าแม่ลูกมารอดกันจึงได้ประสบพบกันหั้นแล เมื่อนั้นเจ้านางผมดำจึงถามเจ้าคำกองว่าดังนี้ เมื่อเจ้าเมือตกเมืองสาเมืองพาวพู้น ยังดูรุ่งเรืองบ่ เจ้าคำกองว่า บ่รุ่งบ่เรืองสักอันแล ว่าอั้นเจ้าคำกองเล่าถามเจ้านางผมดำว่าแม่ตก
๖๗
พายดงพายชวาพู้น ยังดูรุ่งดูเรืองบ่ว่าดั่งนี้ เจ้าผมดำจึงว่าพายดงพายชวาพู้นดูรุ่งไรไสงามแล แมไทยูค้าข้ายูขายทั้งหลายยูสร้างเมืองกว้างที่ทำบุญ ดูดั่งจักรอดฟ้ารอดบนแกแมด่ายว่าดังนี้ เมื่อนั้นขาเจ้าแม่ลูกจึงกล่าวต่อซึ่งกันว่า เมืองเราก็บ่มีพระมีธำบ่รุ่งบ่เรือง ถ้าขาแม่ลูกหาคนผู้รู้ผู้ดี เมือไหว้พระยาเจ้าขอคลบคำบานเมืองเล่าขอเอาพระเอาธำหาทั้งผู้รู้ผู้หลักมาสร้างบ้านสร้างเมืองดอมเราแม่ลูกเทิน ว่าดังนี้ เจ้าผมดำจึงว่าเมื่อเจ้าหนีไปตกสาตกพาวยามนั้น แม่บ่รู้ข่าวรู้คราวสักเทื่อ แม่จึงเมือหาเจ้าอาจานผู้ชื่อธัมมกถาให้แปลงชาตาเจ้าจึงทวายว่าเจ้ายังจักคืนมาเปนท้าวเปนพระยาบ่อย่า ว่าดังนั้นแก่แม่นา ราแม่ลูกถาให้เมือ
๖๘
ขอเอาพระเอาธัม ทั้งเจ้าอาจารธัมมกถาเทิน ว่าดังนี้ ขาเจ้าแม่ลูกทั้ง ๒ จึงแต่งหมื่นสองเมือไหว้พระยาจิกคำปางนั้นหั้นแล หมื่นสองเมือไหว้พระยาจิกคำแล้วจึงหาคำกูคำแจะ มาหล่อเปนเบ้าเดียว ตีให้เปนหลาบสุพันนะปัฏฐเปนดังพระยา ๓ แสนไท แลพระยาคำผงปางนั้นแล ถัดนั้นหมื่นสองจึงไหว้พระยาขอเอาพระเอาธัม ทั้งเจ้าอาจานธัมมกถาปางนั้นแล พระยาจิกคำก็ให้อานุยาด จึงเรียกเจ้าอาจารมาซองหน้า จึงว่าแก่เจ้าอาจานอันเปนน้องแก่พี่ บัดนี้เจ้าผมดำ เจ้าคำกองเมือนั่งยูนั่งพวนแล จังคึดใคหาคุณแก้วทั้ง ๓
๖๙
กับทั้งเจ้าอันได้มีคุณแต่ก่อน แก่ขาเจ้าแม่ลูกว่าสดังนั้นหนา เจ้าอาจานจึงว่า ข้านี้หากเปนคนต่างประเทสหากมาเปนข่อยแก่พระยาเจ้าแล้ว มหาราชาเจ้าว่าสมว่าควร ผู้ข้าบ่ไคร่เถียง ขียาอันปูกสาสนานี้ ก็ได้ปูกหมั้นหนักหนาว่าดังนี้ อาจานสูรับเอาความพระยาแล้ว พระยาจิกคำจึงให้นิมนพระเจ้าทองสำริด ๔ อง ทั้งพระสังฆะเจ้า ๔ ตน ธาตุพระเจ้า ๕๒๙ ลูก พระยาจึงสั่งเจ้าอาจานว่า เจ้าเมืองสร้างบ้านแปงเมืองดอมพี่เราน้องเรา ให้รุ่งให้เรืองให้เปนเมืองบุญเมืองทันเทิน ผี้สร้างสาสนาพระเจ้า ยังรุ่งยังเรือง เปนแพงเปนพีมแล้ว จึงสั่งพี่เราน้องเรามาหาบ้านหาเมืองเราพี่น้องเทิน แต่นั้นเจ้าอาจานก็รับโจมคำพระยาแล้วก็จึงสั่งอำลาจากเจ้าพระยา พระยายังให้ผ้าเทด ๔ ผืน จัน ๕ หัว เปนเสื้อคำสุกร้ย ๑ เงินพัน ๑
๗๐
พระยาเล่าเอามาโมทนาดอมพระยาเจ้าแม่ลูก คำ ๒ ร้อยให้เปนเนื้อเปนหนังพระเจ้าในที่สาด (ไม่ชัด ๑ คำ) นั้นเทิน ว่าดังนี้ที่แท้เจ้าอาจานธัมมกฐา มาสร้างสาสนาในเมืองพวนปีกาบยี จุฬสักราชได้ ๗ ร้อย ๙๖ ตัวนั้นแล อย่านั้นบ่นานเท่าใด พระยาจิกคำก็ตายปีนั้น เขาจึงเอาท้าวยูงคอนลูกล้านคำแดง มาเปนพระยาแทนได้ ๘ เดือน ทั้งหลายเรียกบ่ดีเขาปงเสีย ถัดนั้นเขาเล่าเอาท้าวเกิดมาเปนพระยาแทน ๓ ปี เล่าตายเสียในปีเมิงไส้นั้น ถัดนั้นเล่าเอาท้าวลือไชลูกหล้าลูกลูนพระยา ๓ แสนไท เกิดปีรับมด สักราชได้ ๗๗๗ ใหย่มาได้ ๒๓ เข้าได้เปนพระยาแทน ในปีเมิงไส้ จุฬสักราชได้ ๗๙๙ ตัวนั้นแล เสนาอามาดทั้งหลายจึงเสกสาหาชื่อว่า พระยาไชจักกแผ่นแผ้ว นั้นแล เมื่อเจ้าอ
๗๑
าจานธัมมกถาทั้งหมื่นสองเอาพระเจ้ามา พระยาคำกองทั้งนางผมดำไปต้อนรอดเพียงหลวง ยามตาวันเที่ยงนี้ เมือมารอดที่อยู่ที่กินแล้ว ขาพระยาเจ้าจิงตางจึงเสงดอมเจ้าอาจานแลอยู่ ๖ วันจึงให้เจ้าอาจานมาดูเชียงหวางขึ้นเหนือพูเหล็กแช่ห่ม จอมจองหุง? บ้านเมืองแหนที่เขดที่ขวง ๓ แห่ง แห่ง ๑ ที่ภูคาเปนตกลีน แห่ง ๑ ที่หนองอังภูแบกขอนั้นแห่ง ๑ ที่ต้นแหนหลวงนั้น ดูแล้วเมือคอบขาพระยาเจ้าแม่ลูกว่า เมืองนี้ที่ข่วงมี ๓ แห่งเลิย ว่าดังนี้ ขาพระยาเจ้าแม่ลูกจึงว่า เอาเจ้ามาเพื่อให้รุ่งให้เรืองสันใดจักดี บ่ล้ำเจ้ากูแล้วถ้าเยดให้ดีเทิน เมื่อปู่เราเจ้าคำแจะเปนพระยาได้ ๘ เข้าก็ไปสู่ปรโลก เมื่อพ่อเราเจ้าคำรอง เปนพระยาได้ ๑๗ เข้าก็ไปสู่ปรโลกดังนั้นนา
๗๒
เจ้าอาจานจึงว่า พระยาเจ้าแม่ลูกถ้าให้ตีแผ่นเหล็กหนา ๓ จับยาวค่าสอก หลาบทองก็หนา ๓ จับยาวสอกชู่อัน แล้วจึงใส่อาคมทั้งมวลแล ยันชื่อกงทอรนีปถวีไชยแล เจ้าอาจานจึงมาตั้งเรือน ใกล้กกต้นแหนหลวงนั้น จึงเอาไม้ดวนมาขัดตาแหลวให้ใบกึดซึงน้ำเพียงน้ำพางคบกันนั้นแล้ว เจ้าอาจานจึงเข้าไปหนองออพายวันหนี ๔ ตัว ตัว ๑ ล่องน้ำ ตัว ๑ ขึ้นน้ำ ๒ ตัวขึ้นห้วย ขีมารอดที่ทางเขาจึงเหนทง ๒ ขึ้นเมือภูท่าดงได้ ๗ วัน เขาจึงไปดูที่แหลวลวดเหนพายวันตัว ๑ คาแหลวตาย เจ้าอาจานจึงตัดแข้วแหลมอันใสงาม ใส่กับท่อขวานฟ้าเมือถวายแก่เจ้าคำกอง ขาพระยาแม่ลูกจึงให้เอาเงินมาให้แก่เจ้าอาจาน ๙ ร้อย คำ ๙ บาท ดาบมาดดวง ๑ เจ้า
๗๓
อาจานจึงให้คนทั้งหลายกนต้นแหนเสียหมด ขนดินเกินใส่หนองออนั้นให้ราบให้เพียงงามแล้ว จึงใส่ชื่อว่าลาง ? ซถานเพียง ? แห่งนั้นชื่อว่าแท่นคูนเปน พระยาเหนือสุวัณปาลังกาเจ้าอาจานธัมมกถาปึกสาหาชือแล้ว ถัดนั้นจึงเอาหลายเสียนทองขวานฟ้า อันลงสาดตะสินไปยอยกกินเมือง? ที่พูคานั้น จึง ...(ไม่ชัด)...เท้าปลายลินกอกเสียน เหล็กไว้แล้ว เจ้าอาจานจึงให้คนทั้งหลายขูดตัดปลายลินภูคาเสีย เมื่อขูดนั้น คนทั้งหลายว่านะโมพุทธายะว่าดังนั้น จึงใช้ื่อด้วยมัตติคนทั้งหลายว่า?ทาย เพื่ออั้นแล ปีลูนสักราชได้ ๗๙๗ ตัว ปีรับเหม้า เดือน ๑๒ ออก ๖ ค่ำ มื้อกาบซงา วัน ๓ สามยามมัดชิมมะ ยามปาทสายาคเอกลักขณาทิวาเสสัง แล จักตั้งวัดกลางสถานนั้น เจ้าผมดำเจ้าคำกอง อาจานธัมมกถา ถือ
๗๔
ดินจีแลคนแลก้อน ทั้งมวลเปนเก้าก้อน จึงตั้งก่อนทั้งหลายเจ้าอาจานเอาแก้วลูก ๑ เท่ากิ่วแข้งชื่อวชิละ เปนแก้วปัดหลอดแพงค่าเมืองนึง เอาแต่ลังกาทวีปมา ทั้งหลายจึงก่อพื้นวัดก่อนแล้วปีรวายสันวันอาทิต ถะปันนาธาตุพระพุทธเจ้าเข้าสู่ไหลายน้อย ธาตุได้ ๕๒๕ อง ชินนะธาตุ ๓๓ ลูกอันประเสริฐ ๒ อง เท้าฟั่นผักกาด ผี้ใส่น้ำในไตยอธิษฐานใคร่ให้ฟูก็ฟู อธิษฐานใครให้จมก็จม ธาตุเจ้า ๒ ลูกนี้เอาแต่ลังกามา เอาดอมพระเทพพหาเทพพโมลี ในวัดลังกาพู้นมาแล เจ้าเจ้าผมดำมีจิตตสัทธาแปงพระบางคำ ๑๐ อง เจ้าคำกอแปงพระบางคำ ๙ อง เจ้าอาจานแปงพระบางเงินอยอง แลเจติยะแก้ว ๑ อูบบัด ๑ เจ้าคำกองแปงทองขวานฟ้า เปน
๗๕
เจติยะนึงเล่า พระแก้วใส่ในกวดทอง ๑ เล่าทาราคเจ้าคำกองเอาแต่เมืองสา มาใส่รองใหลายน้อย ธาตุอรหันตาเจ้าคันนนาบ่ได้ ไหลายหลวงชินธาตุ ๔ อง พระบางคำซาว ๙ พระ คำตันหนัก ๒ ร้อย คำสุกแก้วแตคำแจะ ไว้แก่คำรองมาคำกองชื่อนินละคันที ใส่ผ้ายขาวก็ดำใหย่เท่าไข่ไก่ ผูนีหอหลวงมีคำ ๓๕ หอซายมีคำ ๓๐ แห่ขวามีคำ ๓๐ แห่เหนือมีคำ ๓๐ แห่ใต้มีคำ ๓๐ มีจิตตสันทามาให้เปนแผ่นพันนะปฐะใส่ชื่อเจ้าคำกอง เจ้าผมดำ เจ้าอาจานทั้งขุนกวานทั้งหลายผู้สร้างทั้งชาตาพูทธรูปเจ้าแล ท่อนี้ใส่ไหลายหลวงแล พระคำตันนั้นพระยาจิกคำให้เอาคำมา จิงหล่อแล วันเอาโสมพระพุทธรูปเจ้านั้น ยามพอตาวันเที่ยงนี้ เจ้าอาจานลงมากินงายแล้ว ขา
๗๖
พระยาแม่ลูก ออกจากอารามมากินงายนั้น เห็นเถ้าผู้ ๑ เข้าวัด เขาแล่นไปไขปัดตูดูก็บ่เห็นไผ เห็นท่ออูบคำอันนึงท่อแม่มือนี้ หนักบาท ๑ ตั้งไว้หัวเข่าพระเจ้ากล้ำซ้ายดูหน้าพระเจ้าลวดงามบริสุทธเสี้ยงเลย เจ้าพระยาคำกองแล่นมาไขอูบ ลวดเห็นเกศธาตุพระเจ้า ๒ เส้น อยู่ในอูบหั้น จึงว่าดังนี้ เกศธาตุพระเจ้าอันนี้มีก้ำซ้ายไหใส่หัวพระพุทธรูปเทิน ว่าดังนี้ ขาพระยาแม่ลูกลวดยินดีเจ้าอาจานยินดี จึงรีบใส่พายหมีดเพียงหางตาซ้ายนั้น ยามเมื่อผงใส่เกศธาตุนั้น ฝนตกลง ๔ ยามเล่าเอิ้น เล่าลมสะหน้อย ไมวอมเหมือนดั่งลมหลายนั้นแล เมื่อพุทธพิเสกเบิกพระเนกพระเจ้านั้น ยามเที่ยงคืนนั้นหอมประดุจจดังเผาประธูปนี้ ในพุทธาย
๗๗
นั้นจึงก่อไว้ชินะธาตุ ๒ ลูกใส่กระออมอูบพระบาง ๑๖ อง ธาตุอรหันตา ๕๐๐ ในเชียงเหนือจึงก่อธาตุอรหันตา ๗๐๐ พระบางซาว ๙ อง แลน้ำเที่ยง ท่อมีในวัดกลางสระฐานนั้น ๗ ทะนาน พาวใหย่แล น้ำนั้นประเสิดดาย วัดกลางสระฐานนี้เปนเงินเปนคำแล้ว เจ้าผมดำอันเปนแม่พระยาคำกองรักสามหาเถรเจ้าชื่อสารีบุตร ตนทรงวิไนยะวรเปนเจ้าวัดกลางสระฐาน ได้ ๒๙ วัดสาการ ตนน้องได้สิบ ๙ วัดสาชื่อมหาโมคคัลลา ก็เปนพระหูสูด ให้เมือรักสาภูทายตนนึงชื่อมหาอานนธะได้ ๒๖ วัสสา ชาวลานนำจบปิตตกะทุกตนให้รักสาเชียงเหนือ พระพุทธเจ้าทองสำริดอยู่เชียงเหนือ ๒ อง อยู่ภูทายอง ๑ อยู่วัดกลางสระฐานอง ๑ แล้วก็เปนเมืองบุญเมืองทานอยู่หั้นแล ยามนั้นพระยาไชเปนพระยาได้ ๓ ปีแล้วเจ้าอาจาน
๗๘
มาอยู่ได้ ๖ เข้า จึงให้แหซ้ายเมือสั่งอำลาคลาจากขาพระยาเจ้าแม่ลูกหั้นแล ขาพระยาเจ้าแม่ลูกจึงให้เรียกหาเจ้าอาจานเมือชองหน้าจึงว่าขอแก่เจ้าอาจานกอน(?) อยู่วัดเผือผู้พี่ผู้หลาน ก่อนว่าดังนี้ เจ้าอาจานจึงว่า ขอแก่พระยามแม่ลูกขาก็มาได้ ๕ เข้า ๖ เข้านี้ แล้วน้องเจ้านางแก้วอนุชายังใส่เสียนใส่สารมาหาข้า ให้ผู้ข้าอำลาคลาจากพระยาเจ้าแม่ลูกทอน ว่าดังนี้ขานา เมื่อนั้นขาพระยาเจ้าแม่ลูกว่ายังจักให้หอหลวงแลหมื่นสอง เมือขอแก่พี่เจ้าพระยาไชก่อน ว่าดังนี้ จึงให้หอหลวงทั้งท้าวกิงทั้งหมื่นสอง เมือไหว้ยังแต่งขันเงิน ๑ ขันคำ ๑ ทั้งเครื่องกับพอมทังความเถิกควายแม่ ไปยอเผือนเขาแกเจ้าพระยาไชยะจักกะแผ่นแผ้วให้หมั้นบ้านหมั้นเมือง แล้วจึงขอเอาเจ้าอาจานกับนาง

๗๙
แก้ว อนุชามาหั้นแล เมื่อนั้นพระยาจึงว่าดังนี้ เมื่อน้องเราพี่เราให้มาขอเอาเจ้าอาจานดอมพี่เราเจ้าพระยาจิกคำ ยามนั้น ท่อว่าให้เมือปลูกสาสนากี้ดาย บัดนี้เล่ามาขอเอาไว้ดังนี้ เราบ่มักไคร่หื้อดีหลี เหดว่าพี่เราเจ้าพระยาเจ้าจิกคำณุ้ว่าเปนพงเปนนามเจ้าสียดธยาก็จึงขอราธนาสึก จึงให้น้องเราเจ้าแก้วอนุชาดาย ผิว่าน้องเราแลยังจักมักเอาไว้แท้ ก็ให้มีคำแก่นคำสาน ให้กูณาแท้เราจึงให้น้องเราเมือแล ว่าดังนี้ เมื่อนั้นหอหลวงจึงคืนมาครอบขาพระยาแม่ลูกจึงให้หมื่นสอง อยู่แลพระยาแม่ลูกจึงเอาจิตตสัดทา จักให้ทานบานกัวแก่เจ้าอาจานธัมมกถา เหดว่าเจ้าอาจานมาปลูกสาสนาแลชำระบ้านเมืองที่ร้ายให้เปนที่ดีแล เมื่อลูกเมื่อหลาน

๘๐
บ้านหลอดก็จักวุทธิจำเรินหมั้นยืนแล ชั่วลูกกูชั่วลูกกูเจ้าอาจาน ชั่วหลานตูชั่วหลานเจ้าอาจานเท่าทานเหลนบานหลอด ไผอย่าถกไผอย่าถอน เผือแม่ลูกนี้หากเปนใหย่กว่าลูกหลานทั้งหลายแล ผี้ลูกหลานกูแลลูกหลานเจ้าอาจาน หากยังผิดกันพอที่ล้มที่ตายก็ดี ให้ส่งคืนขื้นเมือรอดดงรอดชวาเทิน ไผบ่ฟังความเผือแม่ลูกอย่าให้วุฑิจำเริน ว่าดังนี้ ขาพระยาแม่ลูกปรารถนาเห็นหน้าอริยะเมตไตยอันจักมาเลียงลัดตัดสัพพัญญู เปนพระพายหน้านี้อย่าชูดอย่ากาย ว่าดังนี้แล้วเจ้าคำกองถือพงนำเจ้าผมดำถือคังนำ (?) เจ้าอาจานหงายมือเบื้องขวา ขาพระยาเจ้าแม่ลูกจึงเทใส่หั้นแล แผ่นดินหนา ๒ แสน ๔ หมื่นโยชนะ อันนึงนางธรณีจื่อจำคำตงหมันเทิน อับบายทั้ง ๔ อย่าให้ได้รู้ได้เห็น
๘๑
สักเทื่อเทิน ว่าดังนี้แล้วพระยาเจ้าแม่ลูกให้ทานบานกัวเท่านี้แล แรกแต่พระยาจิกคำตายได้ ๓ ปี ปลาย ๔ เดือน ขาพระยาแม่ลูกจึงให้หอหลวงนำคำเมือถวายแก่เจ้าพระยาไช พระยาก็อะนุโมทนา ดังขาเจ้าแม่ลูกแล้วอยู่ ๒ วัน จึงสั่งเจ้าพระยา พระยายังให้ผ้าเทดคนผืน เงินคน ๒ ร้อย เสื้อแพรคนผืน อูบคำคนอัน เล่าให้เอามาแกขาเจ้าพระยาแม่ลูกนั้น ขันคำคนอันแลอันหนัก ๔ ร้อยผ้าเทดคน ๔ ผืน จันคน ๔ หัว แล้วจึงให้นางแก้วอนุชามาหาเจ้าอาจาน พระยาไชยจักกะแผ่นแผ้วจึงสั่งว่า เจ้ายังคึดเถิงดงเถิงชวายามใดมาแล จึงพัดเมือ อย่าคึดใอย่น้อยคอยแก่พี่เนอ สั่งแล้วจึงให้คำสุก ๔ ร้อย เงิน ๒ พัน จัน ๖ หัว เคื่องนุ่งเทด ๘ ผืน ข่อยยิง ๑๐ ข่อยชาย ๙ ช้างทั้งควาน ละแอ อัน ๑ ม้าเถิก ๑ ชื่อพลหก
๘๒
แต่นั้นนางก็หนีจากดงจากทอง มารอดเมืองพวน เจ้าอาจานก็จึงยินดี แล ต้นพระสรีมหาโพธิเจ้านั้นอันมหาสารีบุตตเอาแต่ชวาใส่บาตรมา เมื่อเสกสาพระพุทธรูปเจ้าแล้ว จึงปลูกเมื่อลูนแลธาตุทั้งมวลได้ ๕๒๙ ลูกอยู่วัดกางชะถานแล ขาพระยาเจ้าแม่ลูกให้เขตแต่ป่าลังเมือหน้า ๖๗ วาดามพายซ้าย เอาฝั่งน้ำเปนแดน พายขวาเอาพีมทางเปนแดน พายหลังเจ้าอาจานเอาเงินเลียนร้อย ๑ เมือขอขาพระยาเจ้าแม่ลูก ก็ให้แกเจ้าอาจานแล ขาพระยาทั้งสองว่าเขตวัดสัดฝูงจักเสียชีวิตมาเขตพระพุทธเจ้าอย่าเอา เผือแม่ลูกกับทั้งเจ้าอาจาน ก็ให้ทานแกมหาสารีบุตตเจ้าแล ในภูทายนั้นเมื่อสร้างแล้วจึงให้เขตเบื้องขวาแต่พีมทางเมือ
๘๓
เทงเบื้องซ้าย แต่ร่องน้ำเบื้องท้ายแต่ร่องคูเบื้องหน้า แต่ฝั่งคูเปนแดน แล้วให้ทั้งบ้านลาบลานกับวัด เล่าให้ทั้งบ้านอยางแล บ้านหนอง กับมหาเถรเจ้าตนเปนเจ้าวัดแล ในวัดเชียงเหนือ เมื่อสร้างแล้ว ขาพระยาเจ้าแม่ลูกจึงให้เขตแลพายแล ๕๖ วาดามแล เมื่อหน้าลูกหลานยังมีสัดทำจั่งให้ตื่มเทิน พายหน้าแต่นั้นมาได้ ๗ เข้า ๘ เข้ายังมีผู้ ๑ ชื่อว่า อ้ายมูย อยู่เวียงจัน หากใจคดแก่เจ้าพระยาไช จักชิงช้างขวี่ที่กินเจ้าพระยาไชจึงให้นายปลืมทั้งล่ามเอิก มากล่าวแก่พระยาคำกอง ให้เอาริพลไปช่อย พระยาคำกองจึงแต่งหมื่นแสน เอาคนไปสองพันไปม้างเวียงจันเสียจึงมา เมื่อนั้นพระยาไชก็มารอดเชียงไคเชียงคาน ยังให้นานยปลืมทั้งล่ามเอิก เอาหลาบสุพันนะปัฎฐคำหนัก ๓ เบี้ยมาหาพระยากองมา
๘๔
ตาร่วมสุขร่วมทุก ร่วมร้อนร่วมเย็นกัน เปนดั่งเสื้อผืนเดียวผ้าผืนเดียวกัน ไข้ก็พาไข้รำก็พารำ ว่าดังนี้ ยังให้เสือลานเคือมาทั้งอูบเหมี้ยงหนัก ๓ เบี้ย มาที่นั้น ก็ใชคำบ้านคำเมืองหากัน บ่ขาดหั้นแล พระยาไชเปนพระยาได้ ซาว ๖ เข้า จึงให้ท้าวหลอย กินเมืองลอ ทั้งทิดเทพภรด เอาเครื่องราชาภิเสกมา มหาสามียังให้เชียงหงมากวานหมู่เข้าให้เจ้าแสนมา พระยาหมื่นใหลานพานเทรามาเจ้าขวาให้หมื่นกังมา หมื่นหลวงให้ล่ามคำ มาราธนาเถรเจ้าเทพโร จึงมาเปนประธาน จึงอุบพิเสกเจ้าคำกองขึ้นชื่อพระยาว่าราชาสุวัณณราสี ในปีก่ามด เดือนเอ็ดขึ้นสี่ค่ำ มื้อเมิงเหม้า วัน ๗ ยามอาทิต พระยาไชให้เอาเครื่องมานั้น ช้างตัว ๑ ชื่อว่าทุระจำประสัด ขันคำ เต้าปูน ชองภู อูบเหมี้ยง
๘๕
กีบนวดคำร่มคันเงินคันคำ แกวงคันคำ เสื้อทาวผ้าทาว ม้าวแขนแหวนมือ เชิดหัวคำ เครื่องพอมทุกอันแล้ว ให้ทั้งถึงขามเถ้าที่สบคาน เปนกวานเปนสานให้ทังบ้านสานชองทาลานเชียงรัง ให้เปนท่าเรือไทพวน ในปีก่ามด พระยาคำกองตอบพระยาไชจึงให้บ้านโคบ้านชิง ให้บ้านโกดหลวงแก่นางพระยา ให้บ้านโจยอยายแก่เจ้าแสนรักหมื่นหลวงจัน ให้บ้านสังบ้านสาวเท่านี้ ให้ตอบคุณพระยาไชแล จุลลสักราชได้ ๘๒๕ ตัวนั้นแล แรกแต่นั้นมาได้สิบ ๔ สิบ ๕ ปี พระยาไชจึงให้ไปราดธนา พระบางเจ้าที่เวียงคำใส่เรือมา เพื่อให้เปนที่ไหว้ ที่นบครบบูชาแก่คนแลเทวดาทั้งหลายแล เขาเอาพระบางเจ้าขึ้นมารอดแก่งจัน เรือหล้มเสีย คนทั้งหลายก็คืนมาเล่าแก่พระยาไชว่า เรือพระบางเจ้าหล้มเสีย พระบางเจ้าพระบางเจ้าก็จมเสียแล ว่าดังนี้ พระยาไชจึงว่าโอ
๘๖
นอ อันนี้บุญสมพารเราหากน้อยบ่เคยได้ไหว้นบครบบูชาพระบางเจ้า ดีหลีนอ อันหนึ่งรอยจักเปนอุบาทอันตรายแก่บ้านแก่เมืองแห่งเราฦๅ ว่าดั่งนี้ ก็บ่ให้เปนโทดแก่ผู้ใดหั้นแล ที่นั้นเทพดาก็เอาพระบางเจ้าก็ออกจากน้ำที่นั้นไปทอดไว้ในวัดเก่าเวียงคำพู้นหั้นแล เล่าแล ในคืนนั้นเทพดาสังหรแก่กวานวัด ให้ฝันว่าพระบางเจ้ามาอยืนอยู่เทงหัวแห่งมันแลกล่าวว่า ดูรากวานวัดกูเล่าพัดคืนมาอยู่ดอมมึงนี่แล้ว ว่าดั่งนี้ ยามนั้นกวานวัดตื่นแล้วมันคนิงในใจว่า มีคาว่าอนตรายอันใดมีพระเจ้าเล่าคืนมาดังกูฝันนี้ลือ มันคนิงใจไจ้ ๆ คั้นรุ่งเช้ามันรีบชำระเนื้อตนมันดีแล้ว จึงเข้าไหว้พระเจ้าในวัด ลวดเห็นพระบางเจ้าไสยาดอยู่เหนือแท่นหั้นแล มันจึงรีบไหว้มหาเถรเจ้าในกุดีแล้วจึงเมือเล่าแก่พระยาเวียงคำแล้วคนทั้งหลายจึงมากทำสักกละ
๘๗
บูชามากนัก แล้วจึงปุกจึงยอพระเจ้าตั้งไว้ดังเก่า เล่าบังเกิดอัสสจันแก่คนทั้งหลาย อันอยู่ในเมืองล้านช้างปางนั้นมากนักแล ปีลุนนั้นแกวบัวกวาง ให้มาซื้อเอาช้างตัว ๑ ดอมพระยาคำกอง พระยาคำกองจึงใช้ไปคอบพระยาไช เมื่อนั้นพระยาไชว่าอย่าให้แกวดายดอก ให้น้องเราห่อขี้ช้างให้แก่เขา ว่าดังนี้ พระยาคำกองลวดห่อขี้ช้างพันใส่ในกางของให้เขาเอาเมืองรอด บัวจึงไขดูเห็นขี้ช้าง จึงเคียดหลกหมีดออกปอย ๑ เท่านิ้วมือ ลวดเอาคนมาห้าแสน มล้างทั้งเมืองล้านช้างทั้งเมืองพวนเสียหมด ในปีกัดไค้นั้นแล สักราชได้ ๘๔๑ ตัวนั้นแล ที่นั้นพระยาไชจักกะแผ่นแผ้วหนีไปอยู่เชียงไคเชียงคาน เท่าแกวหนีก็ลวดตายในปีนั้นหั้นแล พระยาไชเปนพระยาได้ ๔๒ เข้าลวดตาย เจ้าคำกองยังให้เจ้าแสนคำมาทังหมื่นคำเมือส่งสะกานแล้ว สักราชไปเปนปีกดไจ้
๘๘
ทั้งหลายจึงเอาท้าวสุวัณณปาลังเปนพระยาแทนพ่อ ในปีกดไจ้ จุฬสักราช ๘๔๒ ตัวนั้นแล จึงขึ้นเมือสร้างเชียงดงเชียงทองดังเก่า เขาจึงเปิกสาหาชื่อว่าพระยาแท่นคำแล เมื่อเจ้าแสนแลหมื่นคำจักมานั้น พระยาแท่นคำยังสั่งว่า เมื่อพ่อกูแลอากูรักกันสิบส่วนซาวส่วน กูจักรักอาวกูลื่นนั้นร้อยส่วนพันส่วนว่าดังนี้ จึงให้เมืองชึงเมืองชาน เชียงคอบ เมืองขมังเมืองปะกับปากละพวนรักดอนจาวปากเนียกปากคอก ให้ทั้งช้างขวัรทาลาม้าขวางราว แก่เจ้าพระยาคำกองปางนั้นแล ปีลูนคอบถ้วนฟัดตัดตานพระยาแท่นคำ ยังคึดรักอาวท่านเจ้าคำกองยังให้หอ (หอก?) บีดทั้งกวานพี เอาดาบโกดดาบกานทั้งช่างเพกปาลังมาทั้งบัดน้อยส้อยคอ มาแกชาวงอนชาวภู ให้รักสาขอกริมขาเจ้าอาวหลานรักกันถ้วนหมกถ้วนใจ บ้านเมืองก็รุ่งเรือง พระยาแท่นคำเปนพระยาได้ ๗ เข้าก็
๘๙
ตายในปีรวายซะงา ทั้งหลายจึงเอาท้าวหล้าแสนไก ลูกพระยาไชมาแทนพี่ตนปีนั้น จุฬสักราชได้ ๘๔๘ ตัวนั้น ปีลุนชาวสียุทธยาจึงนำเครื่องราชาพิเสกสาพระยาหล้า จึงขึ้นชื่อว่าพระหล้าสีไขแต่นั้นแล พระยาคำกองยังให้พวกหลวงไปไหว้หลานท่านเจ้าพระยาหล้ายังให้เอาช้างจงใจรัก มาแกอาวพระยาคำกอง อยู่สองเข้าเล่าให้นายหลวงไปไหว้พระหล้า ยังให้ทั้งกวานเยียเสาทองมาเอาดาบฝักคำ ทั้งช้างยุเมืองบานมาทั้งเครื่องประดับกับช้างชู่อันมาที่นั้นแล เมื่อนั้นพระหล้าสีไขก็รู้ว่าพระบางเจ้าตนสักสาดยังอยู่ในเวียงคำ ก็จึงให้ไปราธนามามีดตาใส่สีวีกายก็หาบมาทางบก รอดเมืองชวาแล้วก็เอาพระเจ้าไปไว้ในวัดเชียงกลาง ที่สบดูกนางสีไวอันเปนลูกสาวพระยาไชหั้นก่อนแลเมื่อบุนพระหล้าจึงสร้างวัดมโนรม แล้วจึงราด
๙๐
ธนาพระบางเจ้าไปไว้หั้นแล พระหล้าเสวยราดได้ ๑๑ เข้าก็ตายในปีรวายสีแล เขาจึงเอาท้าวชมพูลูกพระยาหล้าเปนพระยาแทนพ่อปีนั้น เมืองพวนพระยาคำกองเปนพระยาได้ ๗๖ เข้านับแต่ชาดมาได้ ๘๙ ก็ล้มพรากจากเมืองพรมในปีรวายสีนั้น ขาเจ้าอาวหลานตายปีเดียวเดือนเดียวกัน เดือนยี่พวนมื้อกาบซะงา ใจพระยาหล้าขาดมื้อรับมด ใจพระยาคำกองขาดทั้งหลายจึงเสกสาเจ้าแสนคำสัดทา อันเกิดมาได้ ๓๖ เข้า เปนพระยาแทนพ่อในปีรวายสีนั้น จุลสักราชได้ ๘๕๘ ตัวนั้นแล ถัดนั้นพระยาคำสัดทายังให้ภูมไก?ไปสู่ขวัญพระชมภู ยังอยู่คางอยู่รึมในดงในชวา พระชมภูยังให้เมืองคาด ผู้เปนหมื่นหลวงมาทังภูมหลังเชียงใต้ หอไชเชียงลอ ทั้งล่ามพวนทั้งเจ้าเรียมเจ้าลอ เอาเครื่องราชาพิเสกมายกมายอเจ้า
๙๑
คำสัดทา ให้หมั้นบ้านหมั้นเมืองเอาช้างมาตัว ๑ ชื่อว่าจอมใจเหล็กก้า ทั้งช้างพังตัว ๑ มาแกนางพระยา เอาม้ามาตัว ๑ แกเจ้าแสนในปีกัดมดนั้นแล เมื่อนั้นพระยาคำสัดทายังแต่งหลาบคำสุวัณณปัฎฐะอันนึง หนัก ๕ เบี้ย ทั้งน้ำเงิน ๒ เต้าแลเต้าหนัก ๑๐ เบี้ย ใส่น้ำเทียงน้ำพาง เทียนเงินเทียนคำ ให้ภูมใต้จิกทังแห่เทียมเอาไปถวายแก่ชมภู ให้กล่าวคำเสงบัดเสงชือ แล้วจึงหลั่งน้ำตกแผ่นดินเชียงดงเชียงทองแล้ว เมื่อนั้นภูมใต้แลแห่เทียม จักมาพระชมภูยังสั่งมาว่าแก่อาวกู เรินราผู้หลาน ในดงในชวาพี้ก็ให้เปนดังเรือนอาวเราในเชียงหวงเชียงหวาง ก็ดีก็ให้เปนดังเรินเราผู้หลานดีหลีแล ว่าดั่งนี้ ยังให้ช้าง (ช่าง?) เหมือนนิลมาขวางเขินขวางราว เอาทั้งดาบฝักคำมาเถี่ยน ๑ ด้ำก็คาดคำ
๙๒
แล้วจึงตอกลายใส่ฝักดาบมาตาว่าซื่อต่อกัน เมืองพวนเมืองชวาเปนแผ่นทองทิพอันเดียวกัน ไปยูรามายูทาน ว่าดังนี้ พระชมภูยังให้ทั้งหอเพิน ทั้งหอสีมาเจ้าหมื่นหลวงให้หอไชมาที่นั้นแล ปีถ้วนฟัดตัดตานแล้ว พระยาคำสัดทาเล่าให้แห่ซ้าย ทั้งเจ้าเมืองเชียงเกียว เอาสวยบูรานไปไหว้พระชมภู จึงให้แปงขัวข้ามสบโรบ ชื่อว่าขัวช้างอย้าน ขาแแปงแล้วจึงมา พระชมภูยังให้เอาช้างแม่โขง มา ๔ ตัวแกอาวท่านพระยาพวน พระยาจึงให้ไปโขงยังได้ช้างเถื่อน ๓ ตัว จึงขึ้นเมือเมืองชวาที่นั้นแลอยานั้นปีลุนถ้วนฟัดตัดตาน พระยาคำสัดทาจึงให้แห่เทียมทังกวานเด็กชายเชียงคานกลาง เอาแพสูรำ ๑ ทั้งเขาไกอัน ๑ แสงเสือคู่ ๑ แว่นแก้ว ๖ ด้านอัน ๑ งามนัก ทั้งร่มดวง ๑ ไปแกพระยาชม
๙๓
ภู ทั้งควายเถิก ๑ ไปเบิกบาสีพระชมภูก็ขอบใจหนักหนา จึงให้นางแท่นมาแต่งท้างส้างเมืองดอมพระยาคำสัดทา ให้ทั้งเมืองสุย กระแตกระทองพูนควางซึ่งชานเหมี้ยงปันท่าคอกท่าเรือมาอมเมืองพวนที่นั้นหั้นแล ขาแห่เทียมแลกวานเดกชาย จึงให้มาส่งข่าว แก่พระยาคำสัดทา จึงให้ไปต้อนรอดเพียงหลวง จึงนำมาเปน นางแทนแผ่นดินในปีกัดมด สักราชได้ ๘๖๑ ตัวนั้นแล ปีลูนอยู่ ๒ เข้า พระชมภูเปนพระยาได้ ๖ เข้าลวดตายในปีรวงเร้า นั้นแล สักราชได้ ๘๖๓ ตัวนั้นแล วันเมืออูบ พิเสกเจ้าโรดชะกุมมารนั้น ฟ้าเหลื้อมประเทิองเรืองรองทั่วอากาด แม่นว่าอินนูก็ผ่านอากาด เหดดังนั้นคนทั้งหลายเอาเปนปะวัตตินิมิดจึงใส่ชื่อว่าพระวิชุลละราชาทิปัตติ สีสะตะนาคณะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น