วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

ตำนานนิทานเชียงดงเชียงทองเชียงหวาง ฉบับวัดแสนสุขาราม (หน้า ๙๔-๑๑๘)

๙๔
หุตตะหั้นแล พายหน้าแต่นั้นมา ได้ ๑๒ เข้า พระวิชุลลราชะเจ้าจึงรำเพิงเถิงคุณพระบางเจ้า จึงสร้างอารามลูก ๑ ชื่อว่าวิชุลละอารามในปีเต่าสัน สักราชได้ ๘๗๔ ตัวนั้น แล้วจึงราธนาพระบางเจ้าแต่วัดมโนรมมาไว้ในวิชุลลอาราม จึงริจจนาเครื่องบัวรโพกทั้งมวล แล้วด้วยเงินคำถวายไว้บูชาพระบางเจ้าตราบต่อเท้า ห้าพันวัสสาแล ในเมืองพวนนั้นนางแท่นมาอยู่ ๖ เข้า จึงสร้างวัดหัวเชียง ในปีกาบไจ้ สักราชได้ ๘๗๖ ตัวนั้นแล จึงราธนาเถรเจ้าตน ๑ ชื่อว่าเถรนครมาเปนเจ้าวัดหัวเชียงนั้นแล จึงให้เขดเบื้องพูนั้นแต่เหมืองนำเปนแดน เบื้องใต้เอารีมทางเปนแดน เบื้องจำหนองเปดจึงให้ทังนาตีนวัดนั้นเปนนาเรินวัด แดนนาแต่ร่องมาหาน้ำหลวงนั้นเล่า
๙๕
ให้บ้านโหลกับนางแท่นจึงให้ข่อยทั้งลูกขุนมาอยู่รักสา ที่นั้นนางหมื่นนา อันเปนเมียอาจานธัมมกถา เล่าสร้างวัดกลางนา ก็ปีกาบไจ้นั้นแลนางแท่นมาอยู่ได้ ๑๒ เข้าก็ตายในปีกดซะงานั้นแล ถัดนั้นพระยาคำสัดทา จึงสร้างวัดภูคำ ในปีรวงมดนั้น สักราชได้ ๘๗๓ ตัวนั้นแล จึงราธนามหาเถรเจ้าเชียงม่าน มาเปนเจ้าวัดภูคำนั้น จึงให้หอม่านอยู่ตีนภูจึงมาเปนกวานวัน จึงให้นาชำเขิงทั้งบ้านจันกับกวานวัด เล่าให้นาสวนลุ่มวัดนั้น เปนนาเข้าพระเจ้าทั้งบ้านซายนำรูกับพระเจ้าแล เขตทั้งมวลเอาแต่ตีนภูทุกเบื้อง เทงพายหน้าแต่แคมกองทางหวายนั้นแล แต่นั้นมาได้เจ็ดเข้า ปีเมิงเปล้าจุฬสักราชได้ ๘๗๙ ตัวนั้น เสิกเมืองกระ

๙๖
บองลวดมี พระวิชุรนราชจึงให้พระยาแสนไปอาสา จึงให้มากล่าวแก่พระยาคำสัดทาว่าให้ไปอาสาช่อยพระยาแสน งาช้างให้เพียงงาเรือ ว่าดั่งนี้ พระยาคำสัดทาไปบ่ทันชูดเสิกเสียว่าดังนี้ จึงถอดบ้านเมืองคืนที่นั้นแล ลุนมาปีเปิกยีนั้น พระยาแสนลวดให้มาสืบเอานางเสือออน เมียพระยาคำสัดทาเพื่อขับเจิง ม่วนว่าดังนี้ พระยาก็บ่ขีนลวดให้เมือเล่ายังมีลูกสาวผู้ ๑ ชื่อว่าเจ้าแกนนาง ก็ให้เมือดอมจึงให้หมื่นโสยทั้งนายหลวงเถ้าไปส่งขาแม่ลูกที่นั้นแล พระวิชุลนราชเปน พระยาได้ ๒๐ เข้าตาแต่ชาตติมาได้ ๕๔ เข้าก็เถิงอนิจจะธัมมะ ในปีกดสีนั้นแล ทั้งหลายจึงเอาเจ้าโพธิสาละกุมาร อันเปนลูกพระวิชุลลราช ใหย่มาได้ ๑๕ เข้ามาเปนพระ
๙๘
ยาแทนตน ในปีนั้นแล สักราชได้ ๘๘๒ ตัวนั้นแล พระยาแสนจึงเอาเจ้าแกนนาง อันเปนลูกพระยาคำสัดทาเมือถวายพระโพธิสาละราช จึงให้เปนนางทาวหั้นแล พระยาคำสัดทายังเล่าแต่งเจ้าเสมทาทั้งพันแสนไวยังเผือนเขาเหลาควายแก่พระเจ้าปางนั้นแล แต่นั้นมาได้ ๓ ปี พระยาคำสัทธาเปน พระยาได้ ๒๗ เข้านับแต่ชาดมาได้ ๖๒ เข้าก็เถิงอะนิจจะกำในปี เต่าซะงานั้นแล ทั้งหลายจึงเอาเจ้าสุวัณณะบูรลัง ไทว่าคำเคา อันเปนลูกพระยาคำสัทธาอันเปนหมื่นหลวง มาเปนพระยาแทนพ่อตน ในปีเต่าซะงานั้นแล สักราชได้ ๘๘๔ ตัวนั้น ปีก่ามดพระโพธิสานราชจึงแต่งเครื่องราชาพิเสกมา เปนต้นว่าช้างคูรเมืองตัว ๑ ชื่อแถมสมพาร ม้าตัว ๑ ชื่อซาวคำหยาด ตัว ๑ ชื่อแก้วอินถะแหลง
๙๗
ทั้งเครื่องพร้อมทุกอัน ให้จ่าหมื่นหลวง ทั้งหมื่นล่ามหัวขาว ทั้งหอจันมาพระสามีเจ้าให้เถรเจ้ายานวัดสวนแถนมา จึงนำเครื่องราชาพิเสกมาเปนสองอัน อันนึงให้เปิกสาพระยาคำเคา อันนึงให้เสกสาเจ้าคำผู้เปนพระยาอาวนั้น ให้ว่าพระยาอาวดังนี้ พระยาบ่เข้าใจก็ผิดกัน อาวพระยาก็หนีเมือตกเมืองล้านช้าง ปีก่ามดนั้นแล ถัดนั้นมาพระเจ้าล้านช้างจึงรำเพิงเถิงคุณแลโทด ในกำมะ ๒ ประการ คือว่ากุสสละและอกุสะละกำอันกทำยัญจะ คือว่าอันผอกผีพระลีแถนทั้งหลาย ว่าโทดดังนั้นเจ้าจักให้เปนประโยชนะแก่คนทั้งหลาย ก็จึงให้ม้างให้ลีดเสียมิสสาทิดถี คือว่าผีอย้าวผีเรือนแลผีเสื้อ อันอยู่ในกวานขีนแถนนั้นแล้ว ก็จึงตั้งมหาวิหารหลัง ๑ ในเชียงดงให้เปนที่พุทธสาสนาใน
๑๐๐
ปีเมิงไค้นั้น สักราชได้ ๘๘๙ ตัวนั้นแล ถัดนั้นมาเถิงปีเต่าสี จุฬสักราชได้ ๘๙๔ ตัวนั้น พระเจ้าจึงแต่งกวานบ้านลุมมาอยู่รักสาเมืองพวน เขางานนัก พระยาคำเคาขาเข้าเสียหมด จึงผิดใจพระเจ้าล้านช้าง จึงแต่งท้าวพระยาทั้งหลายถือพลมารบหั้นแล พระยาคำเคาให้ไปเลวบ่แพ้ จึงหนีไปอยู่บ้านไผ่ผางัว น้องพระยาเปนแสนบ่หนี ลาวจึงปูกให้เปนพระยาในเมืองพวน ปีเต่ายีนั้นแล ปีก่าไส้พระยาคำเคาคืนมาเซาครัวอยู่วัดภูคำแลจึงล่องทางพวนน้อย เมือไหว้พระเจ้าล้านช้าง ในเวียงจัน พระเจ้าล้านช้างกูณา จึงให้นางป่าห้วยหลวงเปนเมีย ไป่ทันมา เสิกชาวใต้มาประจญเวียงจัน พระเจ้าล้านช้างให้ท้าวพระยาทั้งหลายไป
๙๙
เลวที่ห้วยโสก เเสิกถอยแล้วพระยาคำเคาจึงลุกหนีมาเพื่อมีคนส้อ พระยามารอดเมืองละงานแล้ว พระยาน้องดูร้าย จึงเรียกเมืออยู่เมืองสูย ในปีก่าไส้นั้นแล ปีกาบซงาพระเจ้าล้านช้างเล่าไปเสิกเวียงพระงาม ปีรับมดพระยาน้องไปชักแกวมมาเลว ในท่งชันปีรวายสันพระเจ้าล้านช้างให้มาโอมนางแก่นคำ พระยาว่าบ่ให้ พระเจ้าล้านช้างลวดแต่งกวานมาเลว พระยาจึงให้ไปต้อนที่ขัวพวงแพ้ลาวจึงได้ช้างเขาที่นั้นแล ปีเมิงเร้าพระเจ้าล้านช้างเล่าให้พระยาเชียงม่วนมาเลว พระยาเล่าหนีไปตกแชภูมชนานกาง พระยาพัดคืนมารอดแควนพูน สักราชได้ ๙๐๐ ตัว ปีเปิกเสด จึงให้นางพระยาแลหมื่นหลวง เอานางแกนคำไปถวายพระเจ้าที่นคร ที่นั้นพระยานองเล่าพระ
๑๐๒
ยากางพอกัน หากแต่งเมืองกะซิบมา พระยาจึงวางครัวไว้ภูคำจึงหนีไปไหว้บัว ไปรอดเมืองกะดงไหว้บัวแล้วจึงคืนมาอยู่เมืองพาว ที่นั้นหมื่นขาหมื่นคำ ทั้งหมื่นขาเหนือ ทั้งสองออกหาลาว เจ้ากะซิบก็เอาแม่พระยาทั้งนางพระยา หนีเมือไว้เมืองสูย พระยาอยู่ปีกัดไค้ ปีกดไจ้ บัวให้เมืองโมแก่พระยา พระยาจึงคืนมาอยู่เมืองโม จึงให้มหาสามีเจ้านัดตาไปหาพระเจ้าล้านช้างว่าดังนี้ ข้อยบ่ได้ผิดพระเจ้าหนา ดังรือเมืองกระซิบมารือครัวข้อยหนีเพื่อใด ขอพระเจ้ากูณาว่าดังนี้ พระเจ้าจึงกูนาให้แม่พระยาทั้งนางพระยาคืนมา พระเจ้าจึงติเจ้ากระซิบแล้วลวดเสียเมืองนั้นหั้นแล ที่นั้นพระยาไป่ทันมาเชียงข่อยพระยาลักหนี ๔ คน เอาเงินพระยาหนีหมื่น ๑ เล่าแหวนลูก ๑ เท่าแค่ แต่ขุนบูรม ไว้ถือค่าเมือง
๑๐๑
ขอดคำทั้งสอง เงินเปน ๔ ร้อย คำสุกเขาเอาหนีเมืองสา พระยาสาลวดข้าเสีย แล้วลวดเอาของเขาหมด พระยาให่ไปนำเขาลวดจูมน้ำเสียที่เมืองสาหมดดังนั้น พระยาว่าเหลือใจจึงให้ชายเขยพัดไปไหว้ปัวปัวจังว่าให้เมืองโมเปนค่าของพระยาในปีกดไจ้ สักราชได้ ๙๐๒ ตัวนั้นแล ปีร้วงเปล้าพระยาจึงคืนมาเชียง ปีเต่ายีหมื่นขาหมื่นคำแลทูบสง เล่ามาเลวพระยาเล่าหนีไปตกเกลียม ที่นั้นพระเจ้าให้มาปูกพระยาทั้งหลายจึงมาเปนพระยาปีนั้น อยู่ปีก่าเหม้า ปีกาบสีพระยาคืนมารอดเมืองโมสักราชไปเปนปีรับไส้ จึงเอาครัวมาไว้เมืองเนียก จึงไปไหว้พระยาเจ้าล้านช้างในเวียงจัน พระเจ้าจึงว่าให้กินแต่ลูมภูล่องเมือใต้ พระยาจึงคืนมาหั้นแล ปีนั้นชาวเชียงใหม่มาขอ
๑๐๔
เอาพระอุพระโยอันใหย่มาได้ ๑๒ เข้า เมือเปนเจ้าเชียงใหม่หั้นแล ปีรวายซงา พระยาปลาจีนล่องเมือไหว้พระเจ้าลวดตายปีนั้น พระเจ้าจึงไว้เมืองทั้งมวล แก่พระยา พระยาจึงมาเชียงหวางปีนั้นแล ปีเมืองมด พระยาเล่าไปไหว้พระเจ้าในเมืองชวา ที่นั้นแขกยวนทั้งชาวใต้มาเฝ้าช้างเถื่อน ก็มารอดพระโพธิสารไปคล้องช้างต่อหน้าแขก เชือกช้างรูดขาป่วยร้ายนัก พระยาจึงให้สังมา จึงกูนาให้มาเปน พระยาปีนั้นแล พระเจ้าโพธิสารราช เปนพระยาได้ซาวเอ็ดเข้า ตาแต่ชาดมาได้ ๔๒ เข้า ก็อนิจจะธำไปเติม (?) ในปีเมิงมดนั้นแล้ว จึงปูกลูกผู้ ๑ ไว้เปนเจ้าแผ่นดินแทน ปีเปิกสันพระอุปพระโยอันเมือเปนเจ้าเชียงใหม่นั้น ล่องมาลวดข้าน้องเสีย แล้วลวดเปนเจ้า
๑๐๓
แผ่นดิน จึงขึ้นชื่อว่าพระไชยะเชษฐาราชาทิบัตติ ในปีเปิกสัน สักราชได้ ๙๑๐ ตัวนั้นแล ปีกัดเร้าพระไชยเชษฐาขึ้นเมือเชียงใหม่ ชาวเชียงใหม่บ่ให้เข้าเวียง จึงเซาอยู่เชียงแสน ปีร้วงไค้ พระยาคำเคาก็ไป่เติมอะนิจจะกำหั้นแล ทั้งหลายจึงเอาท้าวคำดอนลูกพระยาคำเคา ผู้กินเมืองชวนมาเปนพระยาแทนพ่อตน ในปีร้วงไค้นั้น สักราชได้ ๙๑๓ ตัวนั้นแล อยู่ได้ ๘ เข้าพระไชยะเชษฐาจึงลงมาปีกดสัน พระยาคำดอนจึงไปไหว้ แลถวายช้างขวัญหลวง จึงขอเอาไทพวนอันอยู่เมืองล้านช้างนั้น พระเจ้าก็กูนา จึงให้นางขาวเพงมาเปนเมียพระยาคำดอน ในปีกดสันสักราชได้ ๙๒๒ ตัวนั้นแล แต่นั้นมาได้ ๓ ปี พระยาก็รำเพิงเห็นโทด ในกำมะอันเปน มิดสาทิษฐิ ก็จึงให้ละเสียยังมิจฉาทิษฐิ
๑๐๖
ทั้งมวล เปนต้นว่าผีอย้าวผีเรือน ผีฟ้าผีแถนทั้งมวล ทั้งตัวพระยาก็บวชเปนผ้าขาวปีเต่าเสด สักราชได้ ๙๒๔ ตัวนั้นแล มหาสามีเจ้าธัมมขันธะสร้างวัดบุรกอง ปีนั้นแล พระมหาสามีเจ้ายังแต่งเงินร้อย ๑ เมือซื้อเขตดอมพระยาจึงให้คาคูออมนั้น เมือลูนเล่าแต่งร้อย ๑ เมือขอนา จึงให้นาห้วยท้าวท้าวปีนั้นแล ปีกาบไจ้พระเจ้าล้านช้าง ไปเอานางชาวใต้ รอดหนองหานไป่ทันมา เสิกหงสาลวดมาตกเมืองล้านช้าง เมื่อเดือน ๘ ออก ๓ ค่ำเขาไล่ลูกครัวไปตกนคร เจ้าอุปราชจึงออกหาเขา ยังผงไล่หาเจ้าล้านช้างบ่จวบ พระเจ้าจึงพัดคืนมารอดท่งกะสอน พระยาผ้าขาวจึงใส่เจ้าแสนไปต้อน จึงราธนามาอยู่เชียงหวาง พระยาเล่าไปรักสาด่านทางพวนน้อย ที่นั้นพระเจ้าล้านช้างให้เจ้า
๑๐๕
แสนกินเวียงคำ จึงขึ้นชื่อว่าอนุราดนั้นแล สักราชไปเปนปีรับเปล้า เสิกลวดขึ้นแต่นคร มาทางเมืองซัน เขาลวดได้หมื่นชันแล้วลวดขึ้นมารอดเชียงหวาง เมื่อเดือนเหลือแรมค่ำ ๑ พระเจ้าล้านช้างออกหนีทางเมืองกัง ข้าเสิกไปนำจึงทันหมื่นไชแลแสนอนุราชที่กังหนี ลวดได้หมื่นไชแลแสนอนุราช จึงเอาไปนำเจ้าล้านช้าง บ่ได้พระเจ้าล้านช้าง โงจึงเอาหมื่นไชแลแสนอนุราชหนีเมือหงสา ปีรับเป้านั้นแล ปีรวายยีสักราชได้ ๙๒๘ ตัวนั้นแล โงจึงให้หมื่นไชคืนมารอดเมืองล้านช้างปีนั้นพระเจ้าล้านช้างให้ไปเทียวนางแกวมา พระเจ้าจึงมาต้อนรอดเมืองเนียก แล้วจึงมาทันเอาพระยาผ้าขาวแลหมื่นแสนทั้งหลาย ไปรอดพ้อมกันแล้วจึงว่าดังนี้ เมื่อยามโงมานั้น สูออกหาโง
๑๐๘
แล้วจึงเอาโงมาไล่กูดาย ว่าดังนั้นจังเอาหมื่นแสนทั้งหลาย หนีเมือเมืองล้านช้าง จังข้าพระยาผ้าขาวแลภูมใต้เสีย ผู้บ่ข้าจังเอาค่าหัวทุกคนหั้นแลพระยาผ้าขาวเกิดปีกดซงา อาทิด ๔๖ อยู่กุม ๒ อยู่สิง ๓ อยู่มีน ๗ อยู่ดอน ๘ อยู่ประจิก ๙ คนาอยู่มังกร ฦกษ์ ๑๐ ลูกได้ ๔๒ เปนพระยา เปนพระยาได้ ๑๕ เข้า นับแต่ชาตติมาได้ ๕๗ ไทตายปีรวายยีหั้นแล ปีเมิงเหม้าสักราชได้ ๙๒๙ ตัวนั้น พระไชเชษฐาจังปูกหมื่นไช ผู้น้องพระยาผ้าขาวชื่อว่าคำลูน มาเปนพระยา เล่าให้ลาวมากินเมืองซัน ชื่อว่าพระยาสุกาน จึงเล่ากินเมืองหมื่นหลวง หมื่นเนียก หมื่นซันปีนั้น พระเจ้าไปเลวเวียง ๒ แคว ทั้งพระยาพวนก็ไป บ่ได้เวียง ๒ แควจึงคืนมาปีนั้น ปีเปิกสี สักราชได้ ๙๓๐ ตัว เล่าพัดไปเลวก็บ่ได้ ปีกัดไส้สักราชได้ ๙
๑๐๗
๓๑ ตัวนั้น พระเจ้าล้านช้างเล่าไปเมืองยุดธยา ทั้งพระยาพวนก็ไป โงเล่านำมาเลวบ่ได้ โงจังหนีปีร้วงมด สักราชได้ ๙๓๓ ตัวนั้น พระไชเล่าไปเลวเมืองรามลัก ทั้งพระยาพวนก็ไป พระไชลวดจมน้ำเสียที่ใดบ่รู้ พระยาพวนเขาก็ได้ พระไชเกิดปีกาบซงา ๑๔ อยู่ธนู จันอยู่กัน ๓๖ อยู่ประจิก ๕ อยู่มังกร ๗๘ อยู่กรกด ลักขนาอยู่มีน ฦกษ์ ๑๓ ลูก ๑๕ ได้เปนเจ้าล้านช้างเล่าได้ซาว ๒๔ เข้า นับแต่ชาดได้ ๓๕ เข้า ลวดตายในปีร้วงมดนั้นแล ยังท่อพระยาแสนพระยาจัน คืนมาขาเล่าผิดกัน พระยาแสนจึงข้าพระยาจันเสีย พระยาแสนจึงเปนเจ้าล้านช้างปีนั้นแล สักราชได้ ๙๓๔ ตัว ปีเต่าสัน พระยาพวนจึงหนีไดมารอดเมืองพวน สักราชได้ ๙๓๖ ปี กาบเสดโงเล่ามาเลว พระยาแสนผู้เปนเจ้าล้าน
๑๑๐
ช้างลวดได้พระยาแสนแล้วจึงใส่อุปปราชเปนเจ้าล้านช้าง สักราชได้ ๙๓๘ ปี รวายไจ้นั้น ไฟไหม้วัดใหม่ ปีเมิงเปล้าจึงแบ่งวัด สักราชได้ ๙๔๐ ตัวปีเปิกยี พระอุปราชมาเมืองพวน ว่าจักเลวพระยาพวนจึงชางบุรแกวไชสังกาด เลวนอนเลว อุปราชจิงจิงหนี สักราชได้ ๙๔๑ ปีกัดเหม้า เอดตะปลืมาเรียกว่าพระไชว่าดังนี้ ท้าวพระยาทั้งหลายไปดูทั้งพระยาพวนก็ไปชู่คนว่าเรียกแม่นพระไชเลว ว่าดังนั้น พระอุปราชจึงใช้ไปหาเจ้าฟ้าจังให้อุปราชามา ไป่ทันรอดพระอุปราชพ่ายหนีเรือล่มตายเสีย ๙๔๒ อุปราชาเล่าใส่พระยาแสนเปนเจ้าล้านช้าง แล้วเล่ากวาดเอาลูกครัวชาวล้านช้างหนีเมือหงสา เอาทั้งพระยาพวน ๒๐ วันจึงคืนมา สักราชได้ ๙๔๔ ปีเต่าซงา พระยาแสนเปนเจ้าล้านช้าง
๑๐๙
นั้นตายเสีย เขาจึงใส่พระยานครน้อย ลูกพระยาแสนนั้นเปนเจ้าล้านช้าง บ่แม่นใจท้าวพระยาทั้งหลาย เขาจึงไหว้เจ้าฟ้าให้มาทันเอาพระยานครทั้งหลายไป พระยาพวนก็ไปเอาทั้งพระมูรละไมตีไป เมืองพวนเอาพระสังฆราชาทูรกองไป ทั้งพระสามีเจ้าหัวเชียงไป ในปีก่ามด อยู่เดือน ๑ จึงคืนมารอด ๒ แคว จังประสูตลูกพระยาผู้ ๑ จังใส่ชื่อว่า เจ้า ๒ แคว จุฬสักราชได้ ๙๔๕ ปีเต่าสีไปเลวเมืองล้านช้างทั้งพระยาพวนก็ไป ๙๕๖ ปีกาบซงา พระยาไปเวียงจันปีรับมด พระยาจึงมาปีไฟไหม้โรงเชียงกาง ๙๕๘ ปีรวายสัน
๑๑๒
พระหน่อตายเสีย พระหน่อเปนพระยาได้ ๖ เข้าตาจังใส่พระวงสาลูกนาพระหน่อ อันเกิดมาได้ ๑๔ เข้า ขาพ่อลูกจังเปนพระเจ้าหั้นแล ๙๖๐ ปีเปิกเสด พระยาเล่าไปเวียงจัน ไฟจึงไฟม้วัดใหม่วัดภูคำ ลูนหลัง ๙๖๑ ปีกัดไค้ ลูกพระยาเจ้าราชบุดลุกหงสามารอด พระเจ้าตนพ่อจึงใส่ชื่อว่าพระยาหลวงราชธาลี (ณี?) ปีนั้นขาพระเจ้าพ่อลูกเลวกัน ๙๖๒ ปีกัดไจ้ พระเจ้าตนพ่อเมือกินเมืองนคร พระายจังคืนมายังไว้ลูกพระยาผู้ ๑ ชื่อว่านรินอยู่ ๙๖๓ ปีร้วงเป้า หลาพระเจ้าตนพ่อเล่าคืนมา พระยาพวนจังไปต้อนรอดปากน้ำ สักราชได้ ๙๖๔ ปีเต่ายี พระเจ้าตนพ่อเล่า ขึ้นเมือรอดเวียงจัน ขาพ่อลูกเล่าผิดกัน พระเจ้าตนลูกจึงเคียดแก่พระยาพวน เพื่อพอมตนพ่อจึงไหมเอาเงินแสนคำหมื่นแล้วพระยา
๑๑๑
ยาจึงคืนมาปีนั้น พระเจ้าเล่าให้มาทันเอาพระยาธาณีบ่ไป พระเจ้าจึงมาทางเมืองกายเมืองชอง จักเลวพระยาพวนผู้พ่อจังหนีไปอยู่เชียงคง ๙๖๘ปีก่าเหม้า จังคืนมาเอาคำเมืองให้ขวาพวนเอาเงินหมื่นคำพันไปถวาย พระเจ้าจังหนีเมือเมืองชวา พัดมาพระเจ้าตนพ่อบ่ให้เข้าเวียง ลวดรบกัน พระยาพวนพอมพระเจ้าตนพ่อ จังไปอยู่เมืองเนียกแล้ว ให้พระยาพวนไปเลวเมืองสูยมาเลวเล่าให้หาพระเจ้าตนพ่อพร้อมกัน ลวดเลวพระเจ้าตนลูกบ่แพ้ จึงออกหาพระเจ้าตนลูก ๙๖๖ ปีกาบสีพระยาตนพ่อจึงขึ้นมาเชียงหวาง พระเจ้าเล่าให้เอาเงินแสนคำหมื่น ๑ แล เดือน ๙ พวนออก ๑๓ ค่ำ วัน ๔ พระยาพ่อลวดตาย ๒ ยามกางวันแล เมื่อพระยาตนพ่อตาย พระเจ้าให้พระยาราชา รักสามาเอา
๑๑๔
เงินคำทั้งนางนักสนมหนีหมด พระยาคำลูนเกิดปีรวายสัน ๑๔ อยู่ประจิก ๕๒ อยู่มีน ๓๖ อยู่ธนู ๗ อยู่สิง ๘ อยู่เมถุน ลัคนาอยู่กรกด ๓๒ เข้าได้เปนพระยา เปนพระยาได้ ๓๘ นัยแต่ชาดชาดมาได้ ๖๙ ก็เถิงอนิจจกำ ในปีกาบสีนั้นแล ๙๖๗ ปีรับไส้ เดือนเอดขึ้น ๓ ค่ำวันเสา เสกสาเจ้า ๒ แคว ลูกพระยาคำลูนผู้น้องเปนพระยา แล้วพระเจ้าเล่ามาทันเอาไป ๙๖๘ ปีรวายซะงา พระเจ้าปลงเจ้า ๒ แควเสีย จึงปูกพระยาธานี ลูกพระยาคำลูนมาเปนพระยา จึงใส่ชื่อว่าพระยาหลวงอุดไทยยะราชธานี จึงมาเข้าเชียงหวาง เมื่อเดือน ๗ พวนออก ๓ ค่ำ วัน ๖ อยู่ได้ ๑๓ เข้านับแต่ชาดมาได้ ๕๖ ปีเปิกซงา สักราชได้ ๙๘๐ เดือน ๗ พวน ก็เถิงอนิจจะกำหั้นแล สักราชได้ ๙๘๑ ปีกัดมด พระเจ้า
๑๑๓
จึงผูกพระยาทิพมนตรี ผู้น้องพระยาธาณี มาเปนพระยาแทนพี่ รอดเชียงหวางเดือนยี่แล อยู่ได้ ๓ เข้าสักราชได้ ๙๘๓ ตัวนั้นแล พระธัมมิกราชาธิราชจึงเอาลูกเมียกับริพลขึ้นเมือเมืองชวา เพื่อว่าจักไหว้พระบางเจ้า รอดเมืองชวาแล้วลวด มีคนส่อแก่พระธรรมมิกราชาดังนี้ ลูกพระเปนเจ้าผู้ชื่ออุปปยูจักคดแก่พระเปนเจ้าดาย ว่าดังนั้น พระยาทัมมิกราชว่ามีคาว่าลูกกูจักเคียดแก่กูแท้รือ คนผู้ส่อจึงว่าขอแก่พระเปนเจ้า มีแท้แล พระธรรมมิกราชาคิดจักปองข้าลูกเสีย ปางนั้น พายลูนอุปปลูตนลูกจึงรู้ว่า พ่อจักข้าตัวเสียดังนั้น อุปปะยูจึงเอาคนซันลักหนีคืน พระยาธรรมมิกราชตนพ่อ จึงแต่งหม่อมไช ทั้งพระยาพวนกับริพลนำรอดบ้านขวาง ทันอุปปยูที่นั้น เขาเลวกันเสียคนหลาย
๑๑๖
เติบ ก้ำพระยาพวนผู้มีชื่อมีเสียง เสียหมื่นเชียงผู้ ๑ เสียหมื่นโมนองแทนผู้ ๑ เสียหมื่นหนาผู้ ๑ เสียหมื่นกวานผู้ ๑ อยานั้นพระอุปปยูจึงเอาเสนาหนีรอดเวียงจัน หม่อมไชทั้งพระยาพวนเอาริพลนำรอดวัดปากน้ำโมง พระอุปปยูเอาวัดปากน้ำโมงเปนเวียง หม่อมไชพระยาพวนเอาริพลไปรบบ่แพ้ จึงให้คนทั้งหลายมล้างกำแพงวัดปากน้ำโมง ดานน้ำเสียหมด อุปปยูดูร้ายจึงกวาดเอาลูกครัวทั้งมวลลงไปตั้งอยู่เมืองคูก หม่อมไชดูบ่ดี จึงเอาริพลหนีคืนเมือเมืองชวา พระยาพวนก็หนีเมือเมืองพวน อยานั้นผู้ใดบ่รู้ก็จูดเวียงจันเสียหมดเล่า แต่นั้นพระธรรมมิกราชจึงเคียดว่าดั่งนี้ ดังรือลูกอุปยูนั้น มันมาคดแก่กูสังจาว่าดังนั้น พระธรรมมิกราชดูร้าย จึงอว่ายช้างหนีคืนมารอดพระลานไช จึงหลั่งน้ำตกแผ่นดินว่าดังนี้ อุปปยูนั้นมา
๑๑๕
ชิงบ้านชิงเมืองกู ว่าดังนี้ ชั่วมันอย่ารีปีมันอย่ากว้าง แหงนเมือเทงให้ฟ้าผ่า ไปป่าให้เสือกิน ตกน้ำให้เงือกกิน ย่ำดินให้แผ่นดินแตกสูบเอาไปไหม้ในนารก ว่าดังนี้ จึงเอาหม่อมไช ผู้เปนลูกกับทั้งพระยานูชิดแลลูกท้าวหวายนำของเขียววันคืนหนีไปรอดชือเชียงแดง อุปยูให้พระยาเวียงเอาริพลนำทันที่เชียงแดง เขาก็ข้าพระธัมมิกกราชแลหม่อมไชทั้งพระยานูชีดกับลูกท้าวเสียหมดหั้นแล อยานั้นพระยาเวียงจึงคืนมารอดเมืองคูกที่อุปปยูอยู่นั้น จึงใส่ชื่อพระยาเวียงให้เปนแสนที่นั้นแล พระอุปยูเสวยราชได้ ๖ เดือน เกิดปีเปิกเสด ได้ซาว๕ ปีเปน พระเจ้าล้านช้างสักราชได้ ๙๘๔ ตัวตายปีเต่าเสดหั้นแล ทั้งหลายจึงเอาพระยามหานามผู้เปนพระยานครมาแทน
๑๑๘
จึงขึ้นชื่อว่าพระโพธิสารราช ในปีเต่าเสดนั้น พระโพธิสารเสวยราชได้ ๕ เข้าก็ตายในปีรวายยีนั้น สักราชได้ ๙๘๘ ตัวนั้นแล ทั้งหลายจึงเอาพระหม่อมแก้วผู้เปนน้องอุปปยู มาแทนเปนเจ้าล้านช้างในปีเมิงเหม้า สักราชได้ ๙๘๙ ตัวนั้นแล
// กล่าวพื้นตำนานนิทานเชียงดง เชียงทอง เชียงหวางแล ๓ แสนไทไตยะอุปปะอุมมะนาทิประติสตนาคณหุด อุตตมบุรีสีล้านช้างก็บรบวร //

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น