ลิ้งต้นฉบับ http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/7655#1
รายละเอียด มปจ / อักษรธรรมลาว / ๗๔ หน้า / วัดสีทอง บ้านนาคำ เมืองไชพูทอง
แขวงสะหวันนะเขด
เนื้อหาสรุป
๑
นโมตัสสภควโต
อรหโตสัมมามัมพุทธัสสะ
นโมพุทธายโลโกปะการะสัมปัตติ
อันนี้เราไหว้คุณแก้วทั้ง
๓
ก่อน เราจักไหว้ประตัยปรเมสวร
ทั้งเจ้ารัสสี
๘ พระองค์ อันมาตั้งจักกวานทั้งมวล
แต่ปถมกัป ...(ไม่ชัด)
…/ ทั้งมวลชุอัน
ที่นี้เราจักกล่าวตำนานแต่เมืองล้านช้าง
ไปต่อเท้ารอดเชียงใหม่
ผี้จักไปทางเมืองนาน
ตราบต่อเท้าเมืองขวามที่ท่าน้ำคงที่ท่าฝั่งย่อมจักเมือทางเหนือ
แต่เชียงแสน ออกไปเชียงใหม่แสน
๔ หมื่นวา แต่ /
เชียงใหม่ไปขว้ามท่าฝั่งน้ำคง
ก็แสน ๔ หมื่นวา
แต่ท่าในน้ำคงไปรอดเมืองทางอันเปนเค้าทางจักไปเมืองหงสา
ไปก้ำซ้ายจักไปตองอู
ไปก้ำขวาอันเมืองตองอูนี้เเปนเมือง
โทกะพราหม ทํเอาโออัน ...ธาตุมา
/
ถปันนาไว้เปนมหาเจดีบัดนี้
แต่เมืองตองอูมาเมืองหงสา
ทางบก...
รอด..ล่องมาทางน้ำตองอู
หากเปน … น้ำแม่ …
เมืองตองอูไปรอดเมืองอ่างวะ
สิบ ๕ วันจึงรอด เมืองก้ำอางวะ
แต่อางวะจักไปให้รอดเมืองห้ออันเปน
…
๒
เมืองลุ่มฟ้านั้น
๖๐ วัน จังรอดเมืองแส
แดนเมืองแสแลเมืองโกสัมพี
… กันหั้นแลแดนเมืองนายเมืองเสียวป้อ
เมืองบ่แสงเมืองมิด
๔
เมืองนี้
แดนติดแดนติดอ่างวะ
แต่เมืองอ่างวะนี้เปนทางหลวงรอดเมืองเยียวชุแห่ง
เท้าแดนเมืองแสพู้นแล
ยังมีเมือง
๔
อันเปนขอบด่าน
/ห้อด่านเยียวติดกัน
อันนึงชื่อว่า
...
อัน
๑
ชื่อว่า
(เมืองวังสัน?
อัน
๑
ชื่อเมืองทัน?
อัน
๑
ชื่อว่าเมือง
แขน?
) ๔
เมืองนี้เปน
?
ด่านห้อด่านเยียว
อันนี้ทางบกเท้าเมืองห้อแล
แต่เมืองอ่างวะ
ขึ้นทางน้ำอาจิระวดีเมือ
๑๐ วัน คืนจึงรอดท่าสา
ที่นั้นมหาโมคคลีบุตติสสเถรอยู่หั้นแล
/
ที่นี้พ่อค้าห้อ
พ่อค้าเยียว
ทั้งม่านเมงทั้งมวล
ก็มาซื้อมาขายดอมกันที่ท่าสาหั้นแล
อันนี้ฟากน้ำอจิระวดีก้ำขวาเมืองขึ้นมาฟากในน้ำอจิระวดีนั้นชื่อว่า
ท่าเมืองพวน ?
เมืองแล
ออกแต่นั้นไปสิบคืน จึงรอดเมือง
/
คองเมืองยางสองเมืองนี้
๓๖ เจ้าฟ้า แดนเมืองก้ำเหนือติดห้อหลวง
แดนเมืองก้ำใต้ติดละเขิน
อันเราว่าเมืองพาราณสีนั้นแล
ชาวเมืองคอนเมืองยางฝ่าย
๑
เขาตกท่ายมมนา
หัวน้ำยมมนานั้นหางเมืองปล่องท่าน้ำรายชายคำหั้นแล
เขาชาวเมืองนั้น
๓
เปนเยียวทั้งมวล
อันว่าพระเขานั้นชื่อว่าขาอนา
โชอนา
?
เขานั้นบ่องหูสองแห่ง
แห่ง
๑
ใส่ทอง
แห่ง
๑
ใส่ดอกไม้
ผ้าอันเขานุ่งนั้น
ลวงกว้างและยาว
๓
สอก
แม่ยิงผู้ชายนุ่งสิ่งกัน
อันนี้ก้ำเหนือเท้าแดนห้อ
ก้ำตาวันตกรอดเมืองละะเขิน
ที่นี้จักกล่าวแต่เมืองอ่างวะ
ล่องน้ำอะจิระ
/
วดีเถิงเมืองอันนึงชื่อว่าเมืองตาลุปะ
แต่ตลุปะรอดกูมกาม
ที่เมืองกูมกามนั้น
พระสีทัมมอโสกราชาตั้งสาสนาที่นั้นแล
พระยา
๓ ตาก็ตั้งที่นั้น
พระยามุลินทาแลพระมหานาคเสนเจ้าก็ตั้งที่นั้น
น้ำมันดินอัน
/
พระยาอินทานิรมิดให้แก่สังฆะเจ้าให้เอาขึนไว้ธัมมพระเจ้าที่นั้นแล
อันนี้เปนก้ำชาวลังกา
อันนี้เปนก้ำชาวชุมพูทวีป
พระยาอินทาจึงนิรมิดให้เพื่อดั่งนั้นหั้นแล
แต่นั้นล่วงมารอดเมืองแ
/
ประทีนั้นเปนที่ซื้อที่ขาย
แลกทองแลกเงินกัน
สาสนาพระยาที่นั้นก็โอรารึกนักแล
แต่นั้นล่วงมารอดธาดสัก
อันเมิงว่าตละนั้นแล
น้ำสมุดหากไปรอดหั้นแล
แต่นั้นเท้าแม่น้ำกวงตะเหมิอะ
เมือรอดหงสา
คืน
๑
เปน
๒
๔
วัน
รอดเวียงหงสาหั้นแล
แต่ธาตตะกุ่งนั้นแล้วไป
๙ คืนรอดเมืองอัน
๑
ชือว่าเมืองโปตกสิมา
เมืองอันนั้นเปนท่าสะเพาเมืองเทดทั้งมวล
เปนต้นว่าฝารั่งเมืองพัน
สะหลวงแกแสพันคาอะวัย
เมืองเทดทั้งมวล
ฝูงนี้ตกท่าสะเพาที่
๑
ที่ตกเมืองตะนาวสีที่
๑
ตกเมืองโปกะสีมมา
/
เมื่อก่อน
พุ้นเขาว่าเมืองกุสินารายที่พระเจ้านิพพาน
แต่ท่าหัวเรือไปตาวันออก
รอดป่าไม้รัง
ที่พระเจ้านิพพาน
๕
พันว่าแต่นั้นจักไปเมืองประตามหายทองนั้น
เทียวทางบก
๑๐
วันแล
แดนเมืองฝูงนี้
หากติดแดนเมืองหงสาแล
ท่า
/
เมืองโปกะสีมมานั้น
ไปเมืองลังกานั้นทางบกบ่มี
เท้าไปทางสะเพา
เมื่อลมดี
๒๕
วันก็มี
๓๐
วันก็มี
จึงรอดท่าลังกา
อัน
๑
ชื่อว่านาราด
อันนี้เปนท่าห้อจึงก็มาหันเมืองตักกสีลา
ก็มาหันเมืองนาราย
ก็มาหันเมืองสังคิบ
/
พระลี
ก็มาหันมืองรายพระนาสวร
ก็มาหันเมืองทั้งมวลนี้ก้ำตาวันตก
ก้ำเหนือ
พ่อค้าสำเพาทั้งหลายเปนต้นว่า
ห้อหลวงทังเมืองพาราณสีอันเขาว่าละเขิง
ก็มาด้วยสำเพาอันซื้ออันขาย
?
ท่าโลนราดหั้นแล
ท่าที่นั้นดังดินแดนเปนดั่งหางสำเพาเอา
๕
มาขายเขาเรียกว่าหางบ่หั้นแล
แต่นั้นออกไปทางบกรอดเมืองเทวตาแลเมืองอันเปนหากขอบเมืองลังกาแล
แต่นั้นไปรอดกางทวีปลังกาคาว
๓
วัน
แต่ลังกา
เวียงลังกานั้นไปก้ำใต้
๘
คาว
รอดน้ำสมุดแล
แต่กางเวียงไปก้ำตาวันตก
๔
คาว
น้ำสมุดในเมือง /
ลังกาทั้งมวลนี้
ภูดอยบ่มีราบเรียงเพียงงามนัก
ชาวลังกานั้น
เขากินน้ำสระน้ำหนองน้ำห้วยน้ำสมุทรอ้อมเมืองทั้ง
๓ ด้าน ก็บ่รอดก้ำ เหนือ
เขาจึงเรียกว่าเกาะลังกาเพื่ออั้นแล
มหาเจติยหลวงอันพระพุทธิเจ้า
/
ทั้งหลาย
๔ ตน ไว้ธาตุแลไว้ปริกขารทั้งหลายนั้น
อยู่เหนือประสาดพระยาลังกานั้น
๔ ร้อยวา ทักขิณสากขานั้น
อยู่ชื่อตาวันออกยังไกเจติยหลวง
๕ ร้อยวา เขาแปง เปนทางหลิ้นมโหสด
บูชานักขัตตรึก แต่ปัก /
ตูคุ้มหลวงพระยาลังกา
รอดเจติยะหลวง
รอดมหาโพธิอันนี้หากเปนมหาสบกับชาวเมืองแล
ที่มหาโพธิเจ้านั้นมีมาน
อยู่ดานเหนือชาวเมืองอยู่ตาวันออก
ชาวพูลาอยู่ก้ำใต้ ชาวลังกาอยู่วันตก
แม่นพระสังฆเจ้าทั้งหลายอันรักสามหา
๖
โพธิเจ้าก็อยู่ฉันเดียวนั้น
แม่นคนทั้งหลายอันรักสามหาเจติยหลวงนั้น
ก็ฉันเดียวต่อเท้าบัดนี้แล
เขาทั้งหลายนั้นรักสานั้นมั่งมีเปนดีนักแล
แต่เวียงลังกานั้นจักเมือเมืองอนุราดนั้น
ไปทางบก ๒ คาว จึงรอดท่าสะเพาที่
๑ ว่าท่าชะพอยพันหั้นเมือก้ำด่านทักขิณ
สาขา /
ไปก็รอดท่าแล
หั้นเราเรียกว่าท่าชุมพูทีปเขาว่าท่าชะพอยแล
ที่นั้นเอาลุกมหาโพธิ
...ไว้เหล้น
ชาวค้าทั้งหลาย มาบูชาหั้นหึกหนา
แต่นั้นจักเมือเมืองอนุราด
ทางบก ๑๐ คาวรอด หนทางทังมวลนั้นเขาแปง
/
แต่บุรานเปนอันราบเรียงเพียงนัก
หัวเมืองอนุราดก้ำเหนือ
ไกลนักบ่มีแม่น้ำใหย่ ?
ก็ท่อมี(น้ำ)น้อย
บ้านเมืองทัด (เปนเมืองเทด)
ทังมวล
มีเขดขงอนุราดก้ำเหนือนั้นบ่มีแม่น้ำใหย่ขัน?
ท่อบ่อน้ำน้อยบ้านเมืองเทดทั้งมวล
เขดขงอนุ /
ราด
เมืองลังกาหั้น
หลายบ้านหลายเมืองนัก
ย่อมเปนเมืองนักบุญขุนค้า
แม่น้ำยมนานั้นอยู่ก้ำซ้ายเมืองอนุราด
แต่เมืองอนุราดไปแม่ยมมนานั้น
๔๐
คาว
เมืองก้ำตาวันตกอันนี้ขางเมืองลังกาแล
เมืองอนุราดเปนอันเดียวกัน
เบื้องตา
/
๗
วันตกแล
แต่นั้นเมือพูรเปนดอย
อันใหย่ย่อมมีเผดมียักทั้งหลายมากนัก
พระพุทธเจ้าเทียวโผดสัดทั้งหลาย
ย่อมไปแต่ลังกา
เมืองอนุราดแวน?มากดีหลีแล
สมัทธเสีย?
แต่ใต้ท่าซะกอยกันพู้นแล้วเข้ามาในแม่น้ำคงคานั้น
สิบคาวจึงถึงท่าสัมเภาอันชื่อว่าคามะ
/
ปัตตะนั้นหั้นแล
ที่นั้นเขาแปงผาสาดหินหลัง
๑ มีพืน ๗ ชั้นเล่า
เอาลุกมหาโพธิอันมหินธเถรเจ้าเอามา
ในลังกานั้น
พระยาลังกามาปลูกไว้ที่ท่าปราสาทหินหั้น
๓ ต้น พระสังฆเจ้าทั้งหลาย
ยังอยู่รักสาหั้น /
ทั้ง
๔
ด้าน
ด้าน
๑
ชาวลังกา
ด้าน
๑
ชาวเทด
ด้าน
๑
เมง
แลชาวลังกาม่านเมิงนี้เปนชุมพุทวีป
อัน ๑ เขาใส่หนังสือในหลักเสมาหินหั้น
ไว้เปนตำนานบ้านเมืองทั้งมวล
แต่มหามหินธเถรเจ้าเอาทักขิ
/
ณสขาไปจอดนั้นแล้วเมืองเทดทั้งหลายว่าแม่น้ำอันนั้นเปนแม่น้ำคุงคาแล
ลวงกว้างพันวา เขาหากใส่ตำนานไว้ดังนั้น
ไกท่า ?
๕
คาว แต่ท่านั้นไปเมืองเทดอัน
๑ ชื่อว่าปะริกะชาด เมืองอันนั้น
?
แปลงแก่สังกาดแล
คตะฝาลังแลกีรำ
๘
มะยิแล
แกสระปทังมวลหั้นแล
แต่นั้นไปเมืองทิพราด?
(ไม่ชัด)
สิบคาว
เมืองอันนั้นเขาเอาขนนก
มากระทำเปนผ้าหลายสิ่งหลายอัน
ขายกินแล แต่เมืองอันนั้นไปเถิงกจนบุร
๒
คาว
เมืองอันนั้นรู้หล่อแก้วหล่อ
?
ทั้งมวลแล
แต่นั้นไปเถิงท่าเมืองรัตนมณี
๖
คาว
ท่า
/
อันนั้นแปงแก้วเปนสัพพรูปทุกอัน
แต่นั้นผิจักออกไปทางบกรอดเมืองอนุราดก็ดี
จักไปให้รอดทักขิณสขาหั้นก็ดี
ออกทางบกเทียวไปเถิงท่ามหาพุทธโคสาจาร
ลุกแต่ชุมพูทีปเรา ?ธาแล
ไปจอดท่านั้น
/
เขาแปงอุมมุงอันนี้ให้มหาเถรเจ้าอยู่หั้น
บัดนี้เขาว่าท่าอุมุง
ที่นั้นก็เปนที่ซื้อที่ขายทั้งมวล
แต่นั้นจักเมือเมืองกปิลพัดก็ดี
เมืองพาราณสีก็ดี
ชุมพูทวีปเราพี้ก็ดี
หลายแม่น้ำคงคาก้ำตาวันออกรอดชุ
/
แห่งแล
ขึ้นแต่นั้นไป
๑๕
คาวจึงเถิงเมืองอัน
๑
ชื่อว่าแชวตอ
เขาบ่องหูแลเบื้องแล
๒
แห่ง
แห่ง
๑
ใส่เงินใส่คำ
แห่ง ๑ ใส่ต่างแก้วแล
๒
ดัง
๒
แห่งใส่ดอกไม้ทั้ง
๒ แห่ง เขานั้นปากเปนชุภาสาแล
พ่อค้าทั้งหลายหากเปนภาสาตกแล
๔ แห่ง แห่ง
๙
หนึ่งใส่ต่างแก้ว
แลใส่เงินใส่คำ แลดัง …?
ที่
… เขาหั้นแล้ว ?
หินชุบ้านชุเมืองแล
หาท่าสระเพาไปบ่ได้
เหดว่ามันมีหินผาอยู่กลางแม่น้ำคงคาหลายนัก
เลาเปนภูเปนดอยสูง
เหนเมืองเขาพุรขาชองตอทั้งหลายนั้น
ทอเอาทุงไว้เหนือปายดอยพู้น
เพื่อให้พ่อค้า
/
สัมเพา
เห็นอยู่
ให้หลองนำน้ำสมุทธแลแม่น้ำคงคาแล
พ่อค้าสระเพาจึงเอาของวางไว้ที่ชอบ
อันเขาแรนมาเอาหั้นแล
แต่นั้นจึงหลายสระเพาเนลันชรจึงเถิงเมืองอัน
๑ ชื่อว่าโทณพราหม เมืองอันนั้นมี
/
เคื่องจิงทุกแห่งแล
แก้วทุกสิ่งแล
แต่นั้นเล่าเลียบแม่น้ำเนลันชรขึ้น
๒
วัน
จึงเถิงท่าอัน
๑
ชื่อวาลุกะ
อันเจ้าระสีทั้งหลายมาเอาใบไม้ตักเอาซายเมื่อก่อนไปไว้ที่ใกล้ไกล
?
มหาโพธิหั้นแล
แต่
๒ /
วาลุกะนั้นเมือรอดเค้ามหาโพธิต้นพระเจ้าตรัสสัพพัญญู
เปนพระนั้นไกล
๔
พันวา
ต้นมหาโพธินั้นใหย่
๓
อุม
สูงแต่เค้าต่อเถิงปัญจสักขานั้น
๕๐
วา
แต่ปัญจสักขาขึ้นเมือยอด
๕๐
วา
มหาโพธิเจ้าต้นนั้นลำอันขาวนัก
ทักขิณ
๑๐
สาขาอันมหามหินทเถรเจ้าเอาไปปลูกในลังกานั้น
เค้าง่าอันยังติดลำนั้น
๓
สอกเบิกอยู่
สองสอกเบิกบ่หมดนั้น
สอก
๑
แล
อันตำนานมหาโพธิเจ้านี้
นักปราดเจ้าทั้งหลายยหากสักไว้ในหน้าหินทั้ง
๔
ด้านเปนถ้อยเปนคำอันมากแล
ที่นี้เท่าว่าสังเขดเนยะแล
/พระสังฆะเจ้าทั้งหลาย
อันยังอยู่พิพักรักสานั้นก็ยัง
๔
ด้านแล
ด้าน
๑
ชาวชุมพูทีป
ด้าน
๑
ชาวพาราณสี
ด้าน
๑
ชาวกุลา
ด้าน
๑
ชาวลังกาทีปแล
เขายังอยู่อุปถากแก่มหาโพธิเจ้าต่อเท้ากาละบัดนี้
/
แล
นฐกกายิกาตินานา
อังคนัฐคารกาเจวนฐกคันธัพกาจวาจายกายิกาเจวบาณิสสราติเยสุสิทธิ
ตาบาณิณเลสรันติ
นฉันติบาณีสสรา
นามเตกิรณ
/
กาเล
อันนี้ตำนานเมืองล้านช้างตางแต่เมืองลังกาทวีปแล้วเท่านี้ก่อนแล
(กล่าวตำนานลุกแต่เมืองล้านช้างไปลังกาทีปแล้วเท่านี้ก่อนแล)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น