ชื่อเรื่อง ขุนบูลมลาชาทิลาด
ลิ้งค์ต้นฉบับ http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/637#3
รายละเอียด จศ. ๑๒๒๒ / อักษรธรรมลาว / ๕๐ หน้า / วัดทาดหลวง
บ้านทาดหลวง เมืองหลวงพระบาง
เนื้อหาสรุป
จุลสักราด
๑๒๒๒ ตัวปีกดสัน เดือน ๙ ขึ้น
๘ ค่ำ วัน ๓ ริจจะนาแล้วยามแถ
หมายมีสมเด็จพระยาทเจ้าหอคำฝ่ายหลัง
ตนเปนคนิษฐาพระบรมมเมฐาธิบติ
พระมหาธัมมิกกราชาธิราชเจ้า
องสนิทสถิตนัจจรภินิไสยใน
/
ระวงขงสรีสัตตนาคณหุดอุตตมบูรีรม
พรหมมจักกภติ มหานครราชธานีที่นี้เปนเคล้า
กับทั้งเจ้าราชกญาราชโอรสสาราชนัตตาขัตติยราชวงษามีภิรมมชยาไสในพระราชหรึไ
/
ทเหลื้อมใสในวรพระสาสนา
พระมหากรุณณาธิคุรเจ้าเปนยิ่ง
จึงมีพระราชสัทธาพร้อมกันสร้างพระสัทธัมมคัมภิรพระพิมพ
๘ หมื่น ๔ พันขัน ดวงยอดยิ่ง
จึงจักให้ไว้โชตนาเปน
มุลวรพระพุทธสาสนา /
สืบไปภายหน้า
เพื่อว่าให้กว้างขวางในเมืองหลวงราชธานีสรีล้านช้างร่มขาวที่นี่เปนเค้าตราบต่อเท้า
๕ พันพระวัสสสา นิพานํปรมํสขํ
สาธุนิจจํ
๑
...แต่นั้นางกาก็จึงหนีมาตั้งบ้านอยู่ที่ชื่อว่างอนพูสี
...(ไม่ชัด)...
ชอรอยุ่หั้นแล
นางเทวีจึงให้ไปเอาพระยาปากห้วยหลวงมาเปนพระยาได้
๘ /
เดือนจึงขอหนีไปอยู่ป่าห้วยหลวงดังเก่า
ได้ขวบ ๑ จึงตายเสีย เขาจึง
...เสียปากห้วยหลวงก้ำเหนือ
จึงสร้างวัดหลวงชื่อว่าวัดสบกระดูก
พระยาปากห้วยหลวงและนางเทวีให้
/
มาเอาเพียงขวาประสักเมือเปนพระยาแทน
บ่มักมายังมีผู้ ๑
ชื่อว่าหมอมนมันเอาข่อยจีของพระยา
๓ แสนไทเปนเมีย มันจึงมีลูกดอมผู้
๑ ชื่อว่า ท้าวคำเกิด
มันผู้ เมียจึงบอกชื่อช้างชื่อม้าเสนา
/
มุนตีทั้งหลาย
เข้าของอันใดก่ดี
มันก่บอกลูกมันไว้ให้จื่อไว้ชุสิ่งชุอัน
มันจึงว่าลูกกูนิพระยา ๓
แสนไทมาเกิดดาย ความอันนั้นลวดชารอดมหาเทวี
จึงให้ล่องมาเอาเมือเปนเจ้าแผ่นดิน
เหดเพื่อว่าทั้งหลายรัก
๒
พระยา
๓ แสนไทเจ้า
คันไปเกิดที่ใดทั้งหลายก่นำเอาเพื่อสิงน
ได้มาเปนเจ้าแผ่นดินแล้ว
จึงสร้างวัดหลัง ๑ เหนือสวนแถนหั้น
นางเทวีจึงใส่ชื่อว่าวัดสีเกิด
มันเปนเจ้าแผ่นดิน ได้ ๒
ปีปลาย ๒ เดือนมันเปนรูง /
ท้องแตกตาย
นางเทวีแลหมอมนผู้เปนพ่อจึงมาสร้างวัดสบกระดูก
ที่ใต้บ้านเจ้าแมกาหั้น
จึงใส่ชื่อว่าวัดมนหั้นแล
นางเทวีนั้นมันร้ายก้าแขงเพื่อมันเอาลูกปู่เลี้ยงพระยาฟ้าเปนผัวมันมัน
/
ใส่ชื่อว่าแสนหลวงเชียงลอ
ทั้งหลายจึงว่าขานี้บ่ชอบโลกชอบธำดีหลี
เสนาทั้งหลายจึงเอาจ่าโรงเชียงทองไปข้าเสีย
ที่ผาเดียวฟากในเชียงทองหั้นแล
ยามเมื่อนางเทวีตายนั้น
อายุ /
ได้
๙๕ แมกาจึงมาขอเอาคาบดอมเสนาทั้งหลายเมือเผาเสียบานทาง
จึงสร้างวัดหลัง ๑
สบกระดูกมหาเทวีจึงใส่ชื่อว่า
วัดแมกาหั้นแล
เจ้าแมกานี้เปนพี่เลี้ยงมหาเทวีแล
บัดนี้จักเล่าพงแมกา
๓
ก่อนแล
แมกานี้มีลูกผู้ ๑ เปนนาง
๒ หมื่นไต นางนั้นมีลูกสาว
๒ คน ผู้พี่อ้ายได้เปน
พุมเหนือ...(ไม่ชัด)...
เมืองปางพระวิชุรนราดเจ้านิแล
เจ้าพุมเหนือนั้นได้เอาน้องพระวิชุรเมียจึงมีลูกผู้
๑ ชื่อว่า พระ ๒ เมือง /
อันทั้งหลายว่าพระเรียมนั้นแล
แม่พระ ๒ เมืองตาย
เจ้าพุมเหนือผู้ชื่อว่าเจ้าชายนั้น
จึงมาเอาพี่เอื้อยพระยาพางทั้งเปนพี่เอื้อยตนพระเชยยะเสษฐาทิราชเจ้านั้นแล
๓ ตนเจ้านี้เปนลูก /
พ่อเดียวแม่เดียวกัน
เชื้อพระยาจิกคำเจ้าพุมเหนือจึงมีลูกนำผู้
๑ ใส่ชื่อว่าบุญสานอันได้เปนแสนเมืองล้านช้าง
จึงใส่ชื่อว่าอุปราชาหั้นแล
อันนี้พงเจ้าแมกาแลพระยาจิก
/
คำเปนโคดคงวงสาอันเดียวกันหั้นแล
จาพงพันแมกาก่แล้วเท่านี้ก่อนแล
แต่นี้ไปภายหน้าจักจาพงพันนักปราชก่อนแล
นักปราชเจ้าอันมาแต่เมืองนครหลวง
เปนต้นว่านรสิง มีลูก ๒ ชายผู้
๑ ชื่อว่านระ
๔
สิงผู้น้องชือว่านรราย
ขาเจ้าทั้ง ๒ นั้นจบเตยยะเพดทั้ง
๓ อันมีกำลังเรวแรงยิ่งนัก
มีประยาปัญญา ทะยานขึ้นเมืออากาดกลางหาวได้
๒๒ สอก ได้ ๑๘ สอก ได้ ๑๖ สอก
อันนี้เปนปักกติ นรเดชมีลูกชาย
/
ผู้
๑ ก่จบเตยยะเพดทั้ง ๓
นรสาดก่มีลูกชายผู้ ๑
ก่จบเตยยะเพดทั้ง ๓ ริดทีเรวแรงแล
ผยาปัญญาก่สิ่งเดียวกัน
กำลังเขาเจ้าแลคนนั้น
คนเรานี้ร้อย ๑ก่ดี พันก่ดี
/
จักกุมต่อมือเขาเจ้านั้น
แขนหักมือหักก่หัก
หัวเข่าแตกออกดังนานก่บ่อาดจักกุมเอาได้แล
อันเชิงหอกแลเชิงดาบเขานั้นพันคนเมือต่อเถิงหมื่นก่เจบก่ตาย
บ่อาดจัก เอาได้แล
นัก /
ปาดทั้ง
๓ อันเปนพ่อเขาทั้ง ๔
นี้ก่ตายไปด้วยสีสวัสดีตามกำเขาเจ้าทั้ง
๓ หั้นแล ...(ไม่ชัด)...
ทั้ง
๓ จึงใส่ชื่อว่า วัดหัวของเชียงกาง
พระมหาป่าสมันเจ้าก่ตาย
พระมหาเทพพลังกา
๕
เจ้าแลพระมหาสามีเจ้าวัดแก้วก่จุติไปตามกรรมจึงมาแปงเจดีย์ดวง
๑ ต่อหน้า …(ไม่ชัด)...
ชื่อว่าธาตุพระพี่น้องทั้ง
๓ หั้นแล แต่นั้นบ้านเมืองลวดเส้าสูนเสียหาท้าวพระยาบ่ได้
เถิง ๓ ปีนัก /
ปาดทั้ง
๔ และเสนาอามาดทั้งหลาย
พร้อมกันจึงมาเอาพระมหาสทวาทิโกกเปนมหาสามีเจ้าวัดแก้ว
จึงมาเอาสมุดทะโคดเจ้าเปนมหาสามีเจ้าวัดป่าขหมัน
จึงได้ชื่อว่าพระมหา /
สามีเจ้าตนพี่ตนน้องปางนั้นแล
จึงจักได้ชื่อว่าราชครูเจ้าแผ่นดินเมืองล้านช้าง
หล้างมี ๒ ตนแล
นักปราชผู้จักเปนที่เสงที่ถามหล้างมี
๔ มี ๒
คนทั้งหลายอันเปนข้าเจ้าแผ่นดินจึงสุขกระเสิมมาเพื่อดังนั้นแล
บัดนี้จักจาพงพระยาฟ้าและพระยา
๓ แสนไทก่อนแล พระมหาสามีเจ้าทั้ง
๒ และนักปราชทั้ง ๔
และเสนาอามาดทั้งหลาย
จึงพร้อมกันไปราธนา พองขวาประสัก
มาเปนเจ้าแผ่นดินเชียงดงเชียงทองโรงทาน
๖
อยู่ต้นเดื่อห่างที่เวียงจันหั้นแล
เจ้าก่ขึ้นมาตามนิมน
จึงมารอดเมืองชวา พระมหาสามีเจ้าทั้ง
๒ นักปาดทั้ง ๔
กับทั้งเสนาอามาดทั้งหลายพร้อมกันยอให้เปนเจ้าแผ่นดิน
จึงใส่ ชื่อว่าพระยาเชยยะจักกพัตติแผ่น
/
แผ้วหั้นแล
เจ้าจึงมายอพระมหาสมุดเจ้า
เปนธัมมเสนาให้อยู่วัดมโนรม
จึงเอาพระมหายานคำพีระเจ้า
เปนสังฆเสนาให้อยู่วัดโบสดกลางเมือง
จึงให้อาดยาอับไพยะ ชีวิด
/
แก่สัดทั้งหลาย
โดยดังบูลานนั้นแล
เจ้ามาเสวยราชมีลูกชายผู้
๑ ชื่อว่าท้าวเชียงลอ
ให้เมือเปนแสนเมืองแก่พ่อ
จึงมีผู้น้องให้เมือกินเมืองพระบอง
จึงใส่ชื่อว่าพระยาหมื่นเถ้า
ลูกชาย ๑ ชื่อว่า /
เจ้าตนหล้าให้ไปกินเมืองแก
ผู้ ๑ ชื่อว่าวิชุรลราชาให้ไปกินเวียงคำทังทาวหลาพันหนอง
ผู้ ๑ ชื่อว่า คำเรือ
ให้เมือกินเมืองชายและเมืองชอง
จึงใส่ชื่อว่า เจ้าชายชองผู้
๑ ชื่อว่าคำพา ให้เมือกินเมืองขวา
จึงใส่
๗
ชื่อว่าขวาเทพา
จึงให้พ่อเลี้ยงผู้ ๑
ให้เมือเรดตาง ใส่ชื่อว่าขวาลุงชางตัว
๑ เมือแขงเมืองขวามี
...(ไม่ชัด)...
นั้นลวงสูงได้
๙ สอก แต่เกาหูก้ำขวามาเถิงเกาหูก้ำซ้ายได้
๓ สอก จึง /
ใส่ชื่อว่าไชยะบอกทอง
ตัวนี้ชางตนเจ้าขวาเทพาแล
เท่านี้ลูกชายพระยาเชยยะจักกพัตติแผ่นแผ้วหั้นแล
ลูกยิงผู้๑ ให้กินเมืองหมื่นหนา
ผู้น้องยิงให้กินเมืองหมื่น
/
แพงพระยาเชยยะจักกพัตติแผ่นแผ้ว
มีลูกชาย ๔ คน ลูกยิง ๒ คน
อันทั้งหลายว่า
บ่ชอบจึงแต่งให้เหลกน้อยและนายหลวงทั้ง
๒ ล่องไปเอาข้าเสียที่ดอนจัน
เมือมันหลิ้นน้ำ /
หลิ้นไก่หั้นแล
เขาจึงเอาไปเผาเสียที่ ๑
จึงสร้างวัดหลัง ๑
ใส่ชื่อว่าวัดไตหั้นแล
อันว่าวัดประสักนี้พระมหาป่าสมันเจ้าแลนักปราชทั้ง
๓ เอาตำนานแต่เมือง นครหลวงพู้นมาว่า
มหารัสสี
๘
เจ้าตนนตังหลักไม่จันทังหลักแก้วหมายบ้านหมายเมืองไว้ที่นี้แล
พระมหาป่าสมันเจ้าผู้ให้ตั้งอารามทังพุทธรูปเจ้าไว้ในที่นี้เทิน
พระว่าให้เมือเอาพระบาทเจ้าขึ้นมาเซาหั้น
๗ วัน จึงออก /
มาเวียงคำหั้นแล
เมือสร้างแล้วจึงใส่ชื่อว่า
วัดประสักหั้นแล
พระยาเชยยจักกพัตติแผ่นแผ้วเจ้าจึงพิจารณาดู
จึงได้หลานผู้ ๑ มีอายุได้
๓๕ ปี มันเปนหงอแต่หนุ่มมีลูก
๒ ชาย จึง /
ให้มากินเมืองเวียงจันแต่พะนรุงมาเหนือเท่าเขดเมืองชายแลขอบด่านทั้งมวล
ไว้อาจยาให้แต่งหั้นแล
เขาจึงว่าพระยาจันหน่อแดน
?
เขาว่าเจ้าตนนี้แล
แต่นั้นมาปี /
๑
ยังมีพระยาตน ๑
ชื่อว่าแก่นท้าวได้ช้างเผือกตัว
๑ มาถวายแก่พระยาเชยยจักกพัตติแผ่นแผ้วเจ้าหั้นแล
ช้างตัวนั้นสูงได้ ๗
สอกรูปโสมงามนัก จึงแปงโรงหลัง
๑ ไว้ลุ่มพูเขากาแคมน้ำคาน
๙
หั้นแล
พหมอช้างผู้ ๑
จึงทวายว่าช้างตัวนี้อยู่เมืองใดได้ถึง
๗ ปี เมืองนั้นก็จักวายแล
...(ไม่ชัด)...
หมื่นชางคำรอน
อันเปนปูหมื่นดานคอนแก้ว
อันเขาเปนพระยานครคางมูมนั้นแล
/
ได้ช้างเผือก
๓ ปีความชารอดบัวหลวง
จึงให้มาขอขงเมือดู
พระยาเชียงลอเอาขี้ช้างเมือให้บัวหลวงดู
พระยาบัวก็เคียดมากนัก
จึงปาวพลได้ปี ๑ ปีลูนนั้นมาทางเมืองขวา
๓ /
ล้านให้เสนาก้ำขวาชื่อว่าคกกงมาผู้
๑ ไตหนึงผู้เปนหลานมาทางเมืองชวา
มีคน ๕ ล้านขนจักชนช้างเผือกเจ้าเชียงลอ
เสนาผู้ ๑ ถือพล ๓ ล้านชื่อว่ากางกง
มาทางเมืองชาย เสนาผู้ ๑
ชื่อว่าจุถว /
ายไตวางเปนหลานเจ้าบัวชนะขันชนช้างหมื่นจันตัวชื่อว่า
พิมานคำ ให้เสนาผู้ชื่อว่า
กงกางถือพลมา ๓ ล้าน
มาทางพระนำรูงเชียงสา
ให้เสนาผู้ ๑ ชื่อว่ากงผูแสด
ถือพลมา ๓ ล้าน มาทางเมืองพระบอง
แกวหลวงมาตกเผน
๑๐
เมืองล้านช้างปางนั้น
๒ ตื้อหั้นแล พระยาเชียงลอถือพล
๒ แสนให้นรสิง นรนาราย นรเดช
นรสาด ๔ เขาเจ้านี้มีคนล้านพัน
พันหลวง ๔ หมื่นไปรบแต่ตีนพุมูงเมืองมาแกว
ตายล้าน ๑ เถิงคำเขาคำกุมกันลงจากพุมูง
/
เมืองมานอนตีนพูพุหั้น
ไตหนึงก็นอนที่หลักหมัน
พอยามเที่ยงคืนผีแถนมาเอิ้นบอกแก่ไตหนึงว่า
ความแกวว่าทานจักตายวันหนาที่กางเมืองชวาหั้นแล้ว
เลามาเอิ้นบอกพระยาเชียงลอว่าให้ดาพระยาไช
/
เจ้าล่องหนีทอนพระยาเชียงลอก่จักได้ชนช้างแกววันหน้า
แล้วบ้านเมืองก่จักวายวันหน้า
แล้วผีแถนมาเอิ้นบอกว่าสิ่งนั้น
รุ่งเช้าแล้วก่ดาช้างอันจักชนตอนหนาช้างเผือกนั้น
๔ ร้อยตัว คน ๘ หมื่นหมื่นหลวงหมื่นบุร
/
ขี่ช้างอายตาขาวถือพล
๘ หมื่น ช้างตัวจักชนดอม ๘
ร้อยออกมาทางงอนหมื่นหลวง
… ไตหนึง ...(ไม่ชัด)...
งาก้ำซ้ายลอกกงาได้
๔ กำ สูงได้ ๙ สอก ขวาลุขี่ช้างแดงตัวว่า
เชยยะ
๑๑
ปอมทองชุมชางหันได้
๘ ร้อยคน ๘
หมื่นอยู่ทางผาเผิ้งพนหลวงทั้งมวลตังนาเข้าจ้าวที่อันสร้างวัดวิชุร
บัดเดี่ยวนี้แล เขาเจ้าทั้ง
๔ ขุนคือว่านรสิง เปนต้นถือพลออก
๔ หมื่น ไปตั้งนามุงคุร
รบมาเถิงนาไร่เดียว
พระยาเชียงลอก็มาตั้งนา /
ไร่เดียวหั้น
หมื่นหลวงลัดหลังไตหนึงก่มารอดหั้นขวาลุชนก่มารอดหั้น
ไตหนึงยังตั้งอยู่นาเข้าจ้าวไป่มาเจ้าหมื่นหลวงทังขวาลุถือพลมีช้าง
๒ พัน คน ๒ แสน เขาเจ้าทั้ง
๔ คนนี้ คือว่า นรสิง /
เปนต้น
รุมชนแกวแต่ยามตาวันเที่ยงเท้ายามแลง
แพ้แกว ๔ เทื่อ คุงไตหนึงหั้นแล
คน ๒ แสนช้าง ๒ พันเลว แกว ๕
ล้านขาก่บ่แพ้แทงก่บ่แพ้
ช้างพาควานเลงหนีไปกินนำแผ่นดินบ่ได้
/
อยำทออยำแตแกวหั้นแล
แต่นั้นไตหนึงเขามาชนช้างเผือกขวาลูวาง
เชยยะบอม ทองไสกอนเบิงบัวหลวง
มารุม ๓ ตัว ไชปอมทองเอาท่าวหมดทั้ง
๓ ผู้ ๑ ว่าดึกองมาก้ำซ้าย
ไตหนึงชุมช้างมัน ๔
ตัวหมื่นหลวงหมื่น
๑๒
บุรวางอายตายขวาไสทองทั้ง
๔ แกวก่ตายทั้ง ๔
โหนยกำขวาไตหนึงชื่อว่ากาชุม
ช้างมันมี ๖ ตัว
วางมาก่อนไตหนึงข่อยพระยาเชียงลอผู้
๑ ชื่อนายหลวงเหนือ มัน ขี่ช้าง
ตัว ๑ ขื่อว่าอ้ายหมากหยาทังไชบอมทอง
ลอยน้ำของหนีผู่วา /
นายหลวงเหนือนั้น
แม่นปู่เจ้าพุมเหนือรืทาวเจงพอทาวบุรอันเปนพระยาแสนนั้นแล
แต่นั้นพลก้ำลาวเราก่บกบางไปหั้นแล
แต่นั้นไตหนึงก่เอาพลทั้งมวลเข้า
/
มาชนช้างเผือกพระยาเชียงลอ
ทั้งหมื่นหลวงหมื่นบุร
ชนไตหนึงที่น่าไร่เดียวหั้น
ช้างเผือกเอาช้างไตหนึงท่าวลง
มันก็ตายไปหั้นแล ช้างเราทั้ง
๒ พันนั้นลางตัวก่ตาย
ลางตัวก่ลอยข้าม /
น้ำคานหนี
ลางตัวก่ข้ามน้ำของหนีหมื่นหลวงหมื่นบุรเอาทั้งหลายควรรบชนกันหั้นท่านก่ตายช้างก่ตาย
… ขุนทั้ง ๔ เปนต้นว่า นรสิง
นรนาราย นรเดช นรสาด
เขาเจ้าทั้งหลายนิ
แกวก่กุมเอาได้ทั้งเปน
มาเสียบหลักเสียที่
๑๓
นาเข้าจ้าวที่สางวัดหัวขัวหั้นแล
ตัวพระยาเชียงลอก่เจบก่ป่วย
จึงขี่ช้างเผือกหนีมารอดโรง
...จึงลงช้างไปเข้าเรือเหล้ม
๑ ชื่อว่าเพโลกาเรือลวดจมที่ท่าเชียงทองหั้น
เจ้าก่ตายหั้นแล /
แกวมาเมืองลาวปางนั้น
มีช้าง ๕ พันมีม้า ๒ หมื่นคน
๕ ล้าน ...หลวงเขาอันเปนเจ้าช้าง
๔ ร้อยกับทั้งไตหนึงก่ตายหมดมื้อเดียว
อันพระยาเชียงลอได้ชิงที่นาไร่เดียวหั้น
/
แล
เขาก่วางช้างวางม้าวางเครื่องเสียหมด
ยังมีผู้๑ ...พาขื่อว่า...วางเอาริพลทั้งหลายอยู่
๓ วัน จึงหนีเมือโรงดุพ้นที่เมืองลาบได้คน
๒ แสนหั้นแล เขาจึงเมืออยู่ฟากน้ำม้าอัน
/
เขาโรมพลเอากอนหินมากองไว้นั้น
เมื่อเขาขึ้นเมือเมืองเขา
เอาก้อนหินขึ้นแลคนก้อน
คอมได้ ๕ ล้านเสียคนตื้อปาย
๕ ล้านนายผู้ใหย่มาปางนั้น
๔ พันยังถึง ๖ ร้อยเสีย ๓
พันปลาย ๔ ร้อย ยอมเปนโดย
๑๔
ผู้ใหย่ทั้งมวลยอมเปนลูกเปนหลานเปนเชื้อเดียว
เจ้า ...(ไม่ชัด)...
เมืองล้านช้าง
เมืองพี่เมืองน้องกันแต่ชั่วปู่ขุนบูรมม
/
ราชาธิราชหากได้กินได้แช่งไว้
เราจึง...จึงวาด
… อย่าให้ไผชวนกันเมือเมือง
/
ลานช้างสักเทื่อ
ไผยังมาชวนให้ดุนำเมิกที่หน้าผาหั้น
...(ไม่ชัด)...
แม้นเมืองล้านช้างแต่บูรานเขดก้ำใต้เอาแต่เมืองมีร้านกวาน
/
มีเสาแต่หนีสุมเส้าน้ำเก้าแกวไม้เส้าเขดเมืองล้านช้างตาม...(ไม่ชัด)...แกวก่อนแล
มหาสามีเจ้าวัดแก้วตนชื่อว่ายานสมุด
กับทั้งพระธัมมเสนา
๑๕
เจ้าแล
เจ้าเหียวร้อยปายตนอยู่วัดแกวทั้งวัดปาขมัร
อยู่วัดสวนแถนสีเกิด
ทั้งวัดโบสดกางเมือง ๕ วัด
...(ไม่ชัด)...ทั้งลาวผู้เถ้าผู้เบียวฝูงนี้เบ่าหนีก่อยู่ดอมแกวก่เบ่าเรดสัง
แกวฝูงเจบฝูงป่วยนั้น /
พระก่เอามาปัวดีแล้ว
ก่หนีผู้มักหนีเขาก่หนี
ผู้มักอยู่เขาก่อยู่
แกวจึงมีในเมืองลาวตาบต่อเท้าบัดนี้
พระมหาสามีเจ้าวัดแก้วจึงให้พระธัมมเสนาเจ้ากับชาวเจ้า
๓ สิบตนทั้งคน /
ฝูงอยู่ดอมนั้น
ล่องมาราธนาพระยาเชยยะจักกพัตติแผ่นแผ้ว
มาเสวยราชเปนพระยาดังเก่า
เถิง ๓ ทีเจ้าก่บ่มา
จึงไปราธนาพระยาหล้าแสนไกตนกินเมืองแกนั้น
มาเปนเจ้าแผ่นดิน /
เจ้าก่มาตามนิมนพระมหาสามีเจ้าและพระสังฆเจ้าทั้งหลาย
ทังตามความพ่อตนหั้นแล
คันว่ารอดเชียงดงเชียงทองแล้ว
พระมหาสามีเจ้าทั้งพระยาเชยยะจักกพัตติแผ่นแผ้ว
จึงให้ไปราธนาเจ้าวิชุลลกุมมาน
ตนไป
๑๖
กินทาราพันหนองทังเวียงคำนั้นมาเปนแสนเมือง
เจ้าตนนั้นมีช้างตัว ๑
เปนมุงคุร นักชื่อว่าช้าง
… เจ้าก่ขี่มาทางบกรอดเวียงคำหั้น
จึงมาตั้งคำปราถนา
ต่อพระบาทเจ้าหั้นว่า
ภาหน้าผู้ข้าหากยังเมือรอดเชียงดงเชียงทอง
/
แลยังแล้วคำมักคำปราถนา
ข้าจักแปงวิหารหลัง ๑ ลวงกว้าง
๑๐ วา ลวงยาวซาววา
จักราธนาสัพพัญญูเจ้าเมือโผด
อัน ๑ ข้อยก่นิมนไว้นิข้อยแล
แต่นั้นเจ้าก่ขึ้นมาทางบก
รอดเมืองชวาหั้น /
แล
พระมหาสามีเจ้าตนพี่ตนน้อง
ทั้งพระเจ้าตนหลานแลชีเมืองเจ้าทั้งหลาย
จึงยอให้เปนเสนาเมือง
ให้ไปอยู่เชียงลอหั้นแล
พระเจ้าตนหลาน มาเปนเจ้าเชียงดงเชียงทองปี
๑ พระยาเชยยะ /
จักกพัตติแผ่นแผ้วจึงตายที่เชียงคานหั้น
จึงแปงหีบเงินใส่ไว้
จึงใช้ไปเลา(?)
แก่
พระยาสียดทิยา
ปางนั้นพระยาไ...
เปนเจ้าเมืองสียดทิยาจึงแต่งโลงคำลูก
๑ โลงไม้จันลูก ๑ พึงพันเพ
๕ ร้อย ให้
๑๗
ขุนสีราชโกษามาส่งชกานพระยาเชยยะจักกพัตติแผ่นแผ้วมีอายุได้
๘๓ ปี จึงตายจึงเผาเสียที่เชียงคาน
จึงสร้างวัดสบกระดุกหลัง
๑ ที่เชียงคานหั้น
ขุนสีราชโกษาจึงคืนเมือคอบพระยาสี
/
ยดทิยา
ปีลูนนั้นพระยาสียดทิยาจึงแต่เครื่องราชภิเสกให้ขุนอิน
ขุนพรหม ขุนสีราโกษาดาเครื่องทั้งมวล
ขึ้นมาพร้อมกับมหาสามีเจ้าทั้ง
๒ แล ชี /
เมืองเจ้าทั้งหลายจึงอุสสาพิเสกเจ้าตนหล้าให้เปนเจ้าแผ่นดิน
เจ้าวิชุรลกุมมานให้เปนแสนเมืองหั้นแล
เมืองยดทิยาเมืองล้านช้างก่เปนอัน
๑ อันเดียวกัน /
แต่นั้นมาพระเจ้าตนหลาน
จึงมีปัตติยานว่าเมือใดพี่เราเจ้ายดทิยา
ยังไคร่ได้ไคร่ เอาอัยใดให้แต่งคนมาที่แดนเมืองหั้น
เราก่จักแต่งไปส่งให้เปนต้นว่า
ครั่งและยาน พายเบื้องเรายังจัก
๑๘
เอาผาเทดผาจัน
ก่จักให้ชาวค้าและเสฐีทั้งหลาย
เอาไปที่แดนเมืองหันกำพูรมาให้เซาที่ชนาปีแลห้วยประหวัดหั้นกอนกำนิไปจักให้เซาที่หนองบัวหั้นกอน
แมนจัก เปนคำบ้านคำเมืองก่ดี
/
แม้นจักเปนคำซื้อคำขายก่ดี
จึงให้มาต้านมาจากันที่แดนเมืองหั้น
จึงใช้ชื่อว่านาสองรักเพื่อสันนั้นแล
พระยาหล้าแสนไกเจ้าเปนเจ้าแผ่นดินสัง
กาด ๘๕๓ ตัว ปีร้วงเป้า เดือน
๕ ขึ้น /
๑๓
ค่ำ วัน ๒ ยามกองงายแล
เจ้าเสวยราชได้ปี ๑
มหาสามีเจ้าตนพี่ตนน้องก่ตายไปหั้นแล
เจ้าแผ่นดินก่เลิกซากส่งสะกาน
แล้วจึงราธนามหาเถรเจ้าคำภีระเปน
/
มหาสามีเจ้าตนพี่อยู่เปนเจ้าวัดแก้ว
เล่ายังมหาเถรเจ้าสัดธัมมวังให้อยู่เปนเจ้าวัดป่าสหมัน
เล่ายังมหาเถรเจ้าเทพพหลวง
เปนธัมมเสนาให้อยู่วัดมโนรม
พระเจ้าตนหล้าให้อาดยาแกพระเจ้าพี่
๑๙
น้องทั้ง
๓ เปนอันสิดอันคม
คันว่าผิดตนก่ดีผิดอาดท้าวพระยาฝูงอื่นก่ดี
เปนใจจุดเลาเผาบ้านก่ดี
ข้าเจ้าของก่ดี
หลิ้นชู้กับเมียท่านแลลักราชสมบัติก่ดี
โทดทั้งมวลฝูงนี้
คันเขาได้เข้าเขตพระเจ้าพี่น้องตนใดตน
๑ ก่ดี ก่บ่ให้ผูกให้ข้าให้
/
เสียชีวิตแล
ท่อให้บอกให้สอนเขา
เมือหาเวียกหาการเขาดั่งเก่า
สัดทั้งหลายปางนั้นมีสุขมากนักแล
นับแต่พระเจ้าหล้าเสวยราดได้
๔ ปี นับแต่เจ้าเกิดมาได้
๗๒ (?)
เจ้าจึงได้นิพพานหั้นแล
จัวนางแทนผู้ /
เปนเมียพระเจ้าพี่น้องทั้ง
๓ และเจ้าวิชุลลอันเปนแสนเมือง
จึงมาส่งสกานเผาเสียที่งอนโรงเชียงคานหั้นแล
จึงสร้างวัดสบกระดุก...จึงใส่ชื่อ
...(ไม่ชัด)...สอมพาม นั้นแล
จึงราธนามหาเถร /
เจ้าตน
๑ ชื่อว่าสุเมทามาเปนเจ้าวัดหั้น
ใส่ชื่อว่าสังฆเสนา
ทั้งเอาท่านอาจานน้อยมาอยู่หั้นแต่งให้สอนธำจั่วเถน
(?)
ให้เขาปี
๖ แสนเงินเดือน ๖
ร้อยหมากเกือขึนเทียมเหมี้ยงให้ทานชุเดือน
ท่านมีประหยาปัญญาจบเตยยเพดทั้ง
๓
๒๐
หั้นแล
ทั้งหลายทำบุรส่งทางไปหาพระเจ้าตนหล้าบรมวลแล้วทั้งหลายจึงเอาลูกพระเจ้าตนหล้าผู้
๑ ชื่อพระเจ้าชุมพู
เจ้านั้นมีอายุได้ ๒๕ ปี
เสียตาก้ำ ๑ เจ้านั้นมีรูปโฉมงอันงามนักแล
เจ้าเสวยราชแทนพ่อได้ ๓ /
ปี
ลวดตายจึงเอามาเผาเสียที่หน้าวัดบวมพามหั้นแล
จึงให้พ่อเลี้ยงผู้ ๑
ชื่อว่าหมื่นหนา สร้างเจดีลูก
๑ ที่เผาหั้นจึงใส่ชื่อว่า
เจดี ...(ไม่ชัด)...
เพื่อดังนั้นแล
ดังพระชุมพูเจ้าจัวนางแทนผู้เปนเมียเอา
/
ใส่อูบคำ
๒ ลูกมาใส่วัดสบที่ห้วยหลวงหั้น
จึงให้กองขอย ๒ ร้อยให้เขารักสา
จึงใส่ชื่อว่าวัด
...พระยา...พระชุมพูหั้นแล...(ไม่ชัด)...
เอาไปสร้าง
… ปากชวยดอม กองขอยหั้น
ให้เขารักสากับดูก /
พระชุมพูหั้นแล
อยู่ได้ ๔ เดือน ลูกยิงพระเจ้าตนหล้าผู้
๑ ชื่อว่านางสีเวยยกาก่
…(ไม่ชัด)...
ใต้วัดมโนหั้น
จึงสร้างวัดสบกระดูก
จึงใส่ชื่อว่าวัดเชียงกาง
จึงให้เมือง ๑ ชื่อว่า
เมืองบางอยู่ดินเมืองสุยทังให้นา
๒๑
๔
เผียกทังให้ท่านเสตถีสินกับหมู่ชุมทั้งมวล
ให้คำคงวัดเชียงกางหันนานมาได้ปี
๑ จั่วแถนแมพระเจ้าตนหล้า
แลมหาสามีเจ้าเปนประทาน
และพระสังฆเจ้าทั้งหลายกับเสนาทั้งมวล
และชาวเมืองทั้งหลายพร้อมกันจึง
/
มายอเจ้าวิชุลลราชอันเปนแสนเมืองนั้น
มาเปนเจ้าแผ่นดินแทนพี่ตนหั้นแล
เจ้าวิชุลลราชาได้เปนเจ้าแผ่นดินปี
๑ ปีลุนนั้นให้ไปราธนาพระบางเจ้า
มาทางบก /
มาไว้ที่วัดมโนรมหั้นก่อนเปนเจ้าแผ่นดินได้
๓ ปียังมีนางผู้ ๑ อยู่ลุ่มวัดสีเกิดหั้น
แม่นางนั้นเปนชาวสีเกิดพระเจ้าเชียงลอเอาเปนเมีย
จึงมีนางนั้นใหย่มาพระวิชุลลราชาไปฟัง
/
ธำวัดสีเกิดแลเห็น
จึงถามเชื้อถามโคดดูว่าแม่นลูกพระเจ้าเชียงลอจึงเอาเมือเปนเมีย
จึงใส่ชื่อว่าจั่วนางพันตีนเชียงหั้นแล
เมียเค้านั้นทั้งหลายปูกสาให้เปนปัวแทนเมีย
พระวิชุลลราดเจ้า มี ๒ คนนี้แล
พระวิชุลลราชเสวยเมือง
๒๒
ได้
๗ ปี ๑ ดอมนางพันตีนเชียง
ใหย่มาได้ ๓ ปีแลตาย
เอาไปเผาเสียลุ่มวัดแมกาหั้น
จึงสร้างวัดสบกระดูกหลัง
๑ จึงใส่ชื่อว่าวัดอโสก
อยู่ปีสุนจั่วแทนอันเปนเมียเค้านั้น
ตายเอาไปเผาเสียที่งอนลีน
/
แสนเส้าหั้น
จึงสร้างเจดีลูก ๑ ที่เผาหั้นแล
แต่นั้นอยู่ได้ ๓ ปี
จัวนางพันตีนเชียง ฝันเห้นไม้รังต้น
๑ ใหย่นัก มีง่ามีใบมีดอกงามยิ่งนัก
รุ่งเช้าจึงเล่าแก่พระวิชุลลราชา
เจ้าจึงให้หา /
มาอันอาจานน้อย
อาจานธัมมจุลลา อาจานสารพันมาขาเจ้าทั้ง
๓ นี้หากเปนเชื้อเปนชาดกันแต่นครหลวงพุ้นมา
จึงทวายว่าเจ้ากูจักมีลูกชายผู้ประเสิด
อันเปนที่ เพิ่งแก่คนทั้งหลายแล
/
อยู่ได้
๗ วันนางก่ทรงคัพเถิง ๑๐
เดือน จึงประสูดออกมาก่เปนผู้ชายแท้แล
ออกปีรวายยี พระวิชุลลยินดีดอมลูกชายมากนัก
อันนี้ก่หากได้ดั่งคำปราถนากู
ยามเมื่อจากเวียงคำมาเปนแสนเมืองนั้นแล
ได้ปรารถนาดอม
๒๓
พระบางเจ้าบัดนี้
คำปราถนากูก่ได้ดั่งคำมักหั้นแล
บัดนี้กูจักสร้างเจดีอันใหย่
๑ ทั้งวิหารหลังใหย่ ๑
และเอาพระบางเจ้ามาไว้ให้บูชาเทิน
จึงราธนามหาสามีเจ้าวัดแก้วและอาจานทั้ง
๓ แลชีเมือง /
ทั้งหลายมาต้านจาถามดูที่อันจักตั้งเจดีวิหารให้เปนไปในสถาน
พระมหาสามีเจ้าวัดแก้วและอาจานเจ้าทั้ง
๓ จึงเอาตำนานอันพระมหาป่าสมันเจ้าเอาแต่
/
เมืองนครหลวงมานั้นอ่านดู
ตำนานจึงออกว่ายังมีที่ ๑
ว่านาเข้าจ้าวที่ก้อน ๑
กว้างได้
๑๖ สอก ยาวได้ ๑๘
สอกอยู่ใต้สบห้วยช้างอย้านหัวนาเข้าจ้าวลุ่มภูเขากาหั้นแล
พระ /
พุทธเจ้าทำนายไว้ว่า
ก้อนหินหน่วยกูนั้นนิจักมีพระยาตน
๑ อยู่ชอบโลกชอบธำ
จักมาตัดสาสนาที่นี่แล
ตำนานว่าฉันนี้นา
พระวิชุลลราชเจ้ากับนางเทวีก็ยินดีมีใจพิรมมากนัก
จึงตก
๒๔
แต่งให้เสนาทั้งหลายเปนต้นว่าหมื่นหลวง
และเจ้าขวากุมไต้กุมเหนือ
หมื่นจันหมื่นแก ให้หาไม้อันจักแปงวิหาร
… แทนตีนเชียงสีคัน (?)
จาเรินขุนพองขุนหอพองขอยทั้งหลาย
ให้หาดินกี่อันจักตั้งเจดีพอม
/
ก้อนหินอันออกในตำนาน
ว่าพระพุทธเจ้านั่งนั้น
มหาเทวีคำสางเจดีพระวิชุลลราดเจ้าสร้างวิหารหลวงก่อเจดีทั้งสางหาหลวงนั้น
ปีเต่าสันเดือน ๓ ออก ๒ ค่ำ
วัน ๗ สร้าง /
ปีปลาย
๗ เดือน จึงแล้ว รูปพระพุทธเจ้าทั้งเจดีหลวง
ลวงสูง ๒๓
วาจึงให้สร้างเมืองไร่นากับแตทางหลวงขัวแจตายกับแทงเมือเทาลินแสนเสา
เลาะดอมห้วยหัน /
เลาะนั้นมาตกน้ำมาว
ล่องมาตกสบมาว
ล่องน้ำคานมาเท้าท่าควายจึงไปดอมทางหลวง
รอดหอง ...(ไม่ชัด)...
เถิงทางขวางหลวงให้เปนเขตเจดี
ทั้งเขตวัดโบสดหลวง
อันนี้เปนดินตีนแท่นแต่บูราน
๒๕
กูเปนเจ้าแผ่นดิน
กูก่ให้เปนทานกับวัดโบสดหลวงชองหน้ามหาสีเจ้าทั้ง
๒ และนักปาด
...(ไม่ชัด)...เสนาอามาดทั้งหลายทั้งมวลนี้แล
อันนี้ เปนเขตโบสดหลวงเท้า
๕๐๐๐
วัดสาหั้นแล แต่นี้จักให้เปนเขดวิชุรกำ
/
ใตเอาฟากทางหลวงก้ำลุ่ม
เอาไปดูมคันเหมืองรอดแจก้ำใต้
แต่นิเปนเขตวิชุรก้ำใต้แต่ประตูขงกางเมืองวันออก
เท้าสบห้วยหัวขัวช้างฝาน
เลียบขึ้นเมือเท้ารอดทา ควาย
/
แต่นี้เปนเขตวิชุรหลวง
แต่สบห้วยช้างฝานก้ำใต้
ล่องมาเท้าทางหลวงข้างวัดอไภไปดอมทางหลวง
เถิงทางเก้วภูเขากา
ลงเมือรอดกำแพงวิชุรก้ำใต้
เลียบกำแพงวิชุร /
เบื้องวันตกไปตาบต่อเท้า
๕๐๐๐ วัสสาแล
จึงไปราธนามหาเทยหลวงเจ้าดอมมหาสามีเจ้าวัดแก้วมาเปนธัมมเสนาเจ้าตนพี่จึงราธนามหามุงคุรลสิทธิเจ้า
วัดมโน มาเปนธัมมเสนาตน
๒๖
น้องให้อยู่วัดโบสดหลวง
จึงราธนาพระบางเจ้าที่วัดมโนมาไว้วิชุรอารามราชมหาวิหารหลวง
จึงให้กองขอย ๘
ครัวให้ทานชางพระหาดคานทั้งชางพระเชียงทอง
เปนพันวัดวิชุรให้ถือกองข่อยอุปปถากพระ
/
บางเจ้าทั้งวันทั้งคืน
เปนดังรักสาเพียเสาทองทังโรงเชียงนั้นแล
สิ่งใดให้...กองขอยกูตีกองตีค้องอุปถากรักสาพระบางเจ้า
สิ่งนั้นจึงให้บ้านให้เมืองเปนต้นว่าหาดคาน
และ /
เมืองผาน้อยบ้านเมืองไร่นาทั้งมวลเขตแดนก่หากใส่ในหลาบคำ
อันเผาให้ ...(ไม่ชัด)...
ในหลาบเงินนั้นกองขอย
๘ ครัวเบ่าให้ไปเสิกไปเวียกลากไม้โรงไม้สาน
เบ่าให้เสียสนามผามใหย่ท่อ
/
ให้ทานชางพระเชียงทองแล
เมือหาดคาน ๒ ขานิ ผู้ ๑
กูให้เปนพันวัด (?)
ผู้
๑ กู ให้เปนหมื่นวัด
ขอให้ ...(ไม่ชัด)...
เครื่องของบูชาพระบางเจ้าทั้งมวล
อันใส่ในหลาบทองนั้น
เขตดินอันกับพระกับสังกับกับกองขอยอันเขาอุปถากนั้น
๒๗
กูหากใส่ในหลาบทองแล
จุมหั้นอันเปนอันกว้างอันขวางนักแล
ตำนานขุนบูรมมอันนี้มหาเทพหลวงเจ้า
อันเปนธัมมเสนาเจ้าตนพี่ตนน้องอยู่วัดวิชุลลทั้งมหามุงคุรลสิทธิเจ้าตนเปนธัมมเสนาเจ้าตนน้อง
ทั้งเจ้าแผ่นดินแล
/
เสนาทั้งหลายพร้อมกันแปงไว้
ให้เปนไปตราบต่อเท้า ๕
พันวัสสา แต่นั้นเจ้าแผ่นดินตนชื่อว่าวิชุลลราชา
กับทั้งราชเทวีตนเปนแม่โพธิสารราชกุมมาน
จึงลังน้ำหยาดหมายทาน /
แพไปรอดเพาพงวงสา
แต่ขุนบูรมมราชาทิราดมาเถิงพระยา
๓ แสนไท ทั้งพระยาเชยยจักกพัตติแผ่นแผ้ว
ตนเปนพ่อผู้ข้าทั้งแม่ผู้ข้าและญาติกาวงสามาตราบต่อเท้า
/
มาเถิงจัวเทนอันเมียตนแลตาย
จึงมาสร้างเจดีแลวัดโบสดหลวงนั้นมาตราบต่อเท้าเถิงมื้อนี้วันนี้
อยู่ในทุกข์ให้พ้นจากทุกข์
อยู่ในสุขเรงให้เถิงสุขเทิน
ว่าดั่งนั้นเสนามุนตี
ผู้ใดได้สร้างได้แปงดอมกันก่อยาดน้ำหมายทานไปแล
๒๘
ปราถนาตามใจมักแห่งเขาหั้นแล
แต่นี้ไปภายหน้าพระวิชุลลราชเจ้าแต่งบุรบ้านเมืองให้แก่เพาพงทั้งหลายกินบ้านกินเมือง
ตามคุรเขาอันกับตัวเขาผู้คุรมีหลายให้กินหลาย
ผู้คุรมีน้อยให้กินน้อย
ผู้รุคุร /
อันใดให้กินย้อนคุร
อันนั้น
บ่ห่อนให้เสนามนตรีเอาเงินซื้อบ้านซื้อเมืองกินดอมเจ้าแผ่นดินสักเทื่อ
ผู้ใดหากมาแต่งเบี้ยเงินไหว้สาเจ้าแผ่นดิน
กินบ้านกินเมืองเลา(?)
ใส่โทด
แก่ /
มันผู้ไหวนั้นดีหลีด่าย
ประการ ๑ อันเขาแต่งเบี้ยแต่งเงินแต่งคำมาขอที่ขอดิน
อันจักสร้างเจดีวิหารก่ยังมี
คันสร้างแปงแล้วแลของเขาก่ขืนให้แก่เขาให้ไปคำคงสาสนา
/
ที่นั้นอันนี้หากเปนรีดเปนคองมาแก่เจ้าแผ่นดินสืบสืบไปหั้นแล
//
ที่นี้ไปภายหน้า
จักจาอันปูกอันแปงก่อนแล
จึงให้น้องยิงผู้ ๑
ชื่อว่าแม่เหียวเจ้านางหมื่นหนาให้
เปนเมียเจ้าชายผู้ว่าท้าวแจงนั้น
ให้กินพูม
๒๙
เหนือ
ให้น้องยิงผู้ ๑
ชื่อว่าแม่เหียวเจ้านางแพนให้เปนเมียลูกนางป่าห้วยหลวง
ผู้ชื่อว่าท้าวก้อนคำ
ขาเจ้าทั้ง ๒
นั้นมีรูปโฉมอันงามเปนที่ลำหลิงดุแก่คนทั้งหลาย
จึงให้ไปกินเมืองกระบอง
จึงใส่ชื่อว่าพระยาหมื่นกระบองจึง
/
ให้น้องเมียผู้
๑ เปนหมื่นหลวงจึงว่าหมื่นหลวงนา
จึงให้นางมหาเทวีไปกินเมืองแกสีหมื่นบ่มาขึนแถนและผิดอาดยามันอย้านและหนีเมือชาวใต้มันให้บาคำหอมาข้าหมื่นแกน้องมหาเทวี
/
เสีย
จึงเอาดูกมาไว้ที่งอนงะก่แปงวัดสบกระดูกหั้นและให้
พี่เลี้ยงผู้ ๑ เมือกินเมืองขวา
แต่นั้นบ้านเมืองพระวิชุลลราดเจ้าอยู่เยนเปนสุขมากนักแล
แต่นั้นอายเจ้าได้ ๖๐
เจ้าหมื่นพระบองบ่มาไหว้
/
บ่มาขึ้นแถน
จึงให้กุมเหนือผู้ชื่อว่าเจ้าชายไปเอาบ่ได้
ปีลุนให้เจ้าขวาผู้พี่เลี้ยง
ไปเอา
ได้รบกันที่แก่งระโงกจึงแกพระยาหมื่นพระบองไล่ไปเถิ่งพูกาหลง
จึงได้พระยาหมื่นพระมวงขอบวชก่ให้บวชแล้วจึง
๓๐
เอาขึ้นมาอยู่หอใต้พอดกกางหนองวัดแก้วหั้น
ดอมมหาสามีเจ้าวัดแก้วหั้นก่อน
อยู่นานปี ๑ ก่ยอเจ้าขวาให้เปนแสนเมือง
ชื่อว่าแสนสุรินทลือไช
นับแต่อายุพระวิชุลลราชเจ้าเกิดมาอายุได้
๗๗ ปี เจ้าก่ได้เถิง /
อนิจจธำตามกำตามบุญตนหั้นแล
พระสังฆเจ้าเปนประธานและมหาเทวีเจ้า
และเสนาเปนต้นว่าเจ้าแสนและหมื่นหลวง
จึงเอาเจ้าแผ่นดินมาเผาที่ใต้วัดวิชุลหั้นแล
จึงสร้าง /
วิหารหลัง
๑ เปนโบสถกับวัดวิชุลหั้นแล
มหาทีจึงให้ไร่นาบ้านเมือง
กับท้องกองข่อยชุม ๑ ชื่อว่า
ถินชางกาย ๑๐ ครัว
ให้เขาส่งหมากพูบูชาพระพุทธเจ้าแลอยด
อยาวัดที่หักที่ /
เพตัวเขาก่ให้อุปถาก
ตำนานทั้งมวลอันราชเทวีเจ้าและชีเมืองเจ้าทั้งหลาย
ให้เขตแดนบ้านเมืองไร่นา
ก่หากอยู่ไหหลักหินและหลาบทองแล
ตั้งแรกแต่นั้น มหาสามีเจ้าวัดม
๓๑
โมมหาธัมมเสนาเจ้าวิชุรหลวง
ทั้งธัมมเสนาเจ้าโบสถหลวงตนน้อง
และพระยาแสนสุรินทะรืไชและเสนาอามาดทั้งหลาย
พร้อมกันมายอราชพิเสกพระโพธิสาราชเจ้าแผ่นดินในปีกาบสัน
เดือน ๔ ออก ๑๓ /
ค่ำ
วัน ๖ นับแต่อายุเจ้าเกิดมาปีรวายยีได้
๑๙ ปี จึงได้ราชาภิเสกเปนเจ้าแผ่นดินได้
๓ ปี ยังมีผู้ ๑ ชื่อว่าบัวควางเชียว
ลูกบัวหลวงมาเพิง มันมีหมู่ชุม
๒ พันผู้ ๑ ว่าพงกวาง มีหมู่พัน
๑ /
เปนเสนากวางเสียว
๒ เสนานี้ มีหมู่ ๓ พันหั้นแล
แต่นั้นยังมีมหาเถรเจ้า ๒
ตน ตน ๑
นั้นเชิวโคดอยู่วัดมันได้เมือเรียนหนังสือในเมืองเชียงใหม่มา
จบไตรเภททั้ง ๓ ปัตติบัดนัก
จึงราธนาเมืออยู่วัดอโสก
/
อันราชเทวีเจ้าสร้างนั้นแล
ยังมีพระตน ๑
ชื่อสีจันโทได้เมือเรียนหนังสือดอมสังฆ ชาเจ้าวัดสรบุนเรืองเมืองนาน
จบเตยยปิดกทั้ง ๓ ปัตติบัดดีนัก
พระเจ้านี้เปนเชื้อเปนโคดชายหมากนาวแควเจ้าแผ่นดินโพธิสาราด
๓๒
ราธนามาอยู่รักสาเจดีวิชุลหลวง
เอาทั้งมหาอโสกเจ้า
ทั้งมหาสังฆราเจ้าสีจันโท
๒ ตนนี้เปนคูหั้นแล
พระเจ้าพี่น้องอันเปนคูแก่พระวิชุรราชเจ้านั้น
ก่หากเข้าเมือสู่ นิพพานชุตนตัวหั้นแล
แต่ /
นั้นมหาอโสกเจ้าทั้งสังฆชาเจ้าสีจันโท
สัางสอนเจ้าแผ่นดินไปจึงเหลือมใสในคุณแก้วทั้ง
๓ แล้วจึงมาม้างกวางขึนแถนเสีย
ตั้งวิหารหลัง ๑ กอม
จึงใส่ชื่อว่าสีสะห วันเทวโล
/
กาหั้นแล
บ้านเมืองไร่นาผู้คนทั้งมวล
กับฟ้ากับแถน
ผีมดผีหมอทั้งมวลก่ให้ทานกับแก้วทั้ง
๓ หั้นแล แต่อันตั้งวิหานวัดสวัรเทวโลกแล
ปีเมืองไค้อยู่ได้ ๖ ปี
พระยาพวนลวกขัดบ่มาเสียส่วยเชา
จึง
/
แต่งให้เสนา
๓ คน ผู้ ๑ ว่าพระยาป่าห้วยหลวง
ผู้ ๑ ว่าพระยาไชเบง (เปน?)
พุมเหนือ
ผู้ ๑ พุมใต้ ๓ เจ้านั้นไปเอาได้
๒ ปี จึงได้ แต่นั้นเจ้าแผ่นดินจึงอยู่เวียงจันพู้นแล
ยังมีเชื้อพระยาชาวใต้ผู้
๑ ชื่อว่าเอกราชามาเพิ่งสมพาน
๓๓
แต่นั้นพระยาชาวใต้ชื่อว่า
พะอาทิดจึงเคียดพระโพธิสาราดเจ้า
ยอพลไป ๖ แสนช้าง ๖ พันตัว
ตัวเรียงตัวชัง (ชน)
แม่พังและพาย
๕ สอก สูของไปบ่นับม้า ๔
พันตัวไปรอดเวียงพระงาม
พระยายดทิยาเหนดุหลายกว่า
/
เขา
เขาท่ออย้านบ่ออกมารบมาชน
พระยาเอกเขาก่บ่เอาเปนเขาเจ้าแผ่นดินเราอยู่เวียงพระงาม
สิบวัน แล้วจึงคืนมาเวียงจัน
อยู่ปีลุนชาวใต้เอาพลมารอดเมืองคุกเจ้า
/
แผ่นดินเขาชื่อว่าพระอาทิด
ตั้งอยู่ที่สาราคำหั้น ๔
วันแลถอยหนี พระยาแสนหลวงล้านช้าง
และน้องเจ้าแผ่นดินชื่อว่าพระชางนำไบลูกพระยาแสนหลวง
กินเมืองนครถือพล ๓ แสนช้าง
๒ /
พันไปไล่รบพระยายดทิยาตายกับหัวช้าง
ตัวพระยายดทิยาถืกปืนไฟหนีเมือรอดเมืองจึงตาย
ช้างที่พระยายดทิยาตัวชื่อว่าขวัรงาคำเราก่ได้
แต่นั้นเขาอย้าน เลาบ่มารบชนสัก
๓๔
เทื่อหั้นแล
พระโพธิสารราชเสวยบ้านเมือง
จึงมีลูกชาย ๑ ดอมนางใหย่ผู้
๑ ชื่อนางหอสูง ตนนางนั้นเปนเชื้อพระยาจิกคำ
ทั้งเปนเชื้อนางน้อยออนสอ
ลูกชายตนนั้น แม่นพระไชยเสฐาทิราชเจ้านิแล
จึงมีลูกชาย /
๑
ดอมนางหอขอ (ขอก?)
ชื่อว่าพระล้านช้าง
นางตนนั้นเปนเชื้อเปนพงนาแก้วฟ้า
ลูกพระยายดทิยาจึงมีลูกดอมนางใหยชาย
๑ ชื่อว่านางหอกาง
นางตนนั้นเชื้อพระยาหล้าแสนไกยังมีลูกยิง
๒ /
คนผู้
๑ ชื่อว่า พระนาง จึงมียิง
๑ นำนางสนมชื่อว่าพระคำไข
จึงมีดอมนักสนมชาย ๑
ชื่อว่าพระขาเรือ
แต่นั้นบ้านเมืองล้านช้างก่มีสุขสำรานมากนักแล
พระยาเมืององกานและพระยาจำปาทิ
/
ราดก่เอาช้างและเครื่องบันนาการมาถวายมากนัก
ก้ำตาวันออกเจ้าบัวหลวงทั้งบัวกางลาน
ทั้งองกุหวา ทั้งบัวจุชวาย
เขาทั้งหลายก็แต่งเครื่องของเปนต้นว่า
ไม้กำพัด เกสนาแลวแรแพรจีน
มา
๓๕
ถวายขอเอางาช้าง
ก้ำเหนือเปนต้นว่า เมืองห้อว้อง
แต่เมืองแสเมืองชงโกสามพี
เมืองพองหลวง เมือง
...(ไม่ชัด)...มาฟ้าดอย
เมืองแลบ เมืองเขมแสนหวีฟ้าเชียงรุ่ง
เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินทั้งมวลนี้
ยอมแต่งม้ามาให้ /
ทั้งอานเงินอานคำ
ทั้งบัวนางทั้งรำแพแรจีน
เปนต้นว่า ช้างและสานทวานสานหู
มาไว้มาถวายแก่เจ้าแผ่นดิน
ตนชื่อว่าโพทิสาราชเจ้านั้นแล
อยู่นานมาได้สิบปี /
จึงมีเสนาเมืองพิงเชียงใหม่เจ้าแผ่นดินเขาชื่อว่า
พระยาอ้ายโกอยู่บ่ชอบโลกชอบธำ
เขาเอาข้าเสียจึงเอาลูกชายผู้พี่
มาตั้งปี ๑ เขาเอาข้าเสีย
จึงเอา /
ผู้น้องชื่อว่า
โอรดสาทิราชามาตั้งไว้
ว่าบ่ดีเอาไปข้าเสีย
เขาจึงเอาแสนขวามาตั้งไว้ได้
๗ เดือนเขาไปเขาข้าเสีย
แต่นั้นพระสังฆเจ้าทั้งหลายทั้งสวนดอกทั้งป่าแดงแลชีเมืองทั้งมวล
เปนต้นว่าพระยาแ
๓๖
แสนหลวง
พระยา ๓ ล้าน พระยาเชียงแสน
พระยาเชียงราย พระยาฝาง
พระยาพยาว พระยาน่าน พระยานคร
พระยาแพร่ เขาเจ้าทั้งหลายพร้อมกัน
จึงมาราธนา นิมนขอเอาพระโพธสาราชเจ้า
เมือเปนเจ้าแผ่นดินในเมืองพิง
/
เชียงใหม่ถึง
๒ ที ๓ ที ก่จึงเมือตามนิมนเขาหั้นแล
เมื่อจักเมือนั้นเอาพลทั้งมวล
…(ไม่ชัด)...
เมือดอม
๓ แสน ช้าง ๒ พัน ...(ไม่ชัด)...
เฝ้าเมือง
๓ แสน ชาง ๓ พันเลา ?
ตั้งเสนา
๒ คน ผู้ ๑ ชื่อว่า พระยาเวียง
/
ถือพล
๒ แสน ช้าง ๒ พัน ผู้ ๑ ชื่อว่าแสนนคร
อันเขาว่าพระยาขวา..(ไม่ชัด)...นั้นแล
...ถือพล
๒ แสน ช้าง…พัน ...ให้ไปเอา
เวียง …ก่ได้เวียงกระบึน?
ได้ทั้งตัวเจ้าเวียง
ได้ช้างตัวน้อยตัวใหย่ /
พัน
๑ ได้ครับ ๒ หมื่น เจ้าแผ่นดินตนชื่อว่า
โพธิสาราชขี่ช้างเพาหลวง
ขึ้นเมือเมืองล้านนา
...(ไม่ชัด)...
เมือดอมปางนั้น
มีเสนาใหย่ตน ๑ ชื่อว่าพระยากาง
เจ้าตนนี้เปนพี่ชาวนางหอสูง
๓๗
เสนาตน
๑ ว่าพระยาสีสัทธำมไตรโลกเจ้านั้นเปนลูกหมื่น
..เสนาตน
๑ ชื่อว่า อรชุร … ผู้นี้เปนนักปาด
เสนาตน ๑ ชื่อว่าพระยานครเจ้านั้นแนวชือหมืนดาบ
?
คอน แควตน
๑ ชื่อว่าพิชิตตสงคราม ตน
๑ ชื่อว่าพระยาสุรเตชะ
มันกินพุม /
เหนือ
ตน ๑ ชื่อว่าพระยาทขินขาลาย
กินเมืองขวา ตน ๑ ชื่อว่ายด...(ไม่ชัด)...
ชอร
(ถือ
?
ขี่?)
ชุมชานในทังมวล
ขุรบาดแลขุเสิกทั้งมวลฝูงนี้
ค้ำชูเจ้าแผ่นดิน /
เข้าเมือเปนเจ้าแผ่นดินเมืองพิงเชียงใหม่ปางนั้นแล
เจ้าฟ้า ไ ...สาม
… (ไม่ชัด)...เจ้าฟ้าทั้งหลายฝูงนี้ก่แต่งหลานมาไหว้มานบ
เจ้าแผ่นดินเมือเสวย /
ราชในเมืองพิงเชียงใหม่หั้นแล
แต่นั้นเจ้าฟ้าตองโงจึงไสมันเจียมาขอเปนมิด
เปนสะหาย...(ไม่ชัด)...
ไปเอาเมือง...หงสาทังชวรไปเอาเมืองยดทิยาหั้นแล
พระเจ้าแผ่นดินจึงให้ผู้
๑ ว่าหมื่นขวา ผู้เปนพ่อนางพระยา
๓๘
พวนบัดนี้แล
จึงให้ผู้ ๑ ชื่อขนานแอยู่วิชุร
ให้เปนนายพระเทียม ไปดอมมัน
… รอดเมืองตองโงอ่างวะพู้น
… (ไม่ชัด)...
รู้ถ้อยรู้ความเมืองโงเมืองม่านเมืองเมง
แต่นั้นมา แต่ก่อนบ่ห่อนได้เหนอันชื่อว่าโงว่าเมงนั้น
/
สักเทื่อ
เขานี้ใช่เชื้อใช่แนวขุนบูรม
และพระยาฟ้าทั้งพระยา ๓
แสนไทแล ...(ไม่ชัด)...
นี้เขาหากเปนโคดก้ำเมืองลังกาทวีปพู้นด่าย
บัดนี้จักจาพระสังฆเจ้าทั้งหลายและนายเมือง
/
พิงเชียงใหม่
ขอราธนาพระอุวญูเจ้าอยู่เปนเจ้าแผ่นดินเมืองพิงเชียงใหม่
...(ไม่ชัด)...ลุงพี่แม่?
พระอุ
… ยูวราชเจ้านั้น
ไว้เปนแสนเมืองในเมืองเชียงใหม่
/
เจ้าแผ่นดินก่ให้ลูกอยู่ตามอันมักแห่งเขา
จึงเอานางผู้ ๑ ชื่อว่า...ทิพ
เปนเอกมเหสี ขวา
?
ผู้
๑ ชื่อว่า...อัคคมหเสี
...ใส่ชื่อว่าเปนพระเชยยะเสฐาทิราชเจ้า
อยู่เปนเจ้าแผ่นดินเชียงใหม่
๓๙
หั้นแล
แต่นั้นเจ้าแผ่นดินตนพ่อใส่ไรนาใส่ชื่อเสียงท้าวพระยาขุนนาง
ทังพอรตามโคดตามเชื้อตามคุณอันหนักอันเบา
และแต่งขอบริมพิมเมืองไว้ชุแห่งชุที่
บรมวล สั่งสอนเสนามันตรีทั้งหลายจึงเอาราชสมบัดออกให้เปน
ทานค้ำชู /
สาสนาที่หักที่คำในเมืองเชียงใหม่ทั้งมวลชุแห่งชุที่แล
เจ้าก่ให้ลูกเสวยราชในเมือง
พิงเชียงใหม่แลเจ้าก็สั่งอำลาพระสังฆเจ้าทั้งหลายและให้ทาน
เปนต้นว่าอัฐบริขารทั้งเงินคำเข้าของสมบัติอัน
/
เอาเมือแต่เมืองล้านช้างก่ดี
อันท่านถวายบูชาก่ดี
ราชสมบัดอันมีในเมืองเชียงใหม่
อันควรเอาแลเสนาทั้งหลายทั้งมวลหากมอบให้เวนให้ก่ดี
เจ้าแผ่นดินตนชื่อว่าโพธิสาราชก่เรียกเอาแล้ว
แลสระสวางวางให้ /
แกพระสังฆเจ้าทั้งหลาย
กับทั้งเสนามนตรีขุนล้านช้างล้านนาทั้งมวลชุคนคนหั้นแล
เจ้าก่ราธนาเอาพระแก้วอมรกตเจ้า
ตนอันตำนานออกว่าพระมหาอุปคุตตเถรเจ้าไป
๔๐
เอาแก้วมณีโชดอันอยู่ในจอมเขารัตตนบรรพตนั้น
กุมพันยักทั้งหลายอันเฝ้าแก้วมณีโชดนั้นเขาบ่ให้
ยักทั้งหลายจึงว่าเจ้ากูจักเอาหนวยน้องนี้ทอนหน่วยพี่
เมื่อหมดสา /
สนาพระพุทธเจ้า
พระยาจักเกิดมาตูข้าหาสังให้บ่ได้
ยักว่าดั่งนี้
พระมหาอุปปคุดเจ้าจึงเอาหน่วยน้องตามดั่งความเขาว่านั้นแล
มหา /
เเถรเจ้าจึงเอาไปตั้งไว้ในของหลวงเมืองลังกา
พระยาอินทราทิราชจึงเอาวิสุกัมม เทวบุดมาพร้อมพระยาลังกาทั้งพระมหาอุปปคุตตเถร
/
เจ้า
จึงแปงรูปพระพุทธเจ้าที่ของหลวงหั้นแล
จึงเอาธาตุพระพุทธเจ้า ๙
ลูก ใส่ไต้คำมาตั้งไว้ชองหน้าพระแก้วเจ้า
มหาอุปปคุตตเถรเจ้าจึง
๔๑
อทิถานว่าธาตุพระพุทธเจ้าเข้าในตนพระแก้วเจ้าทั้ง
๙ ลูกแล พระแก้วมรกตเจ้าลูกนี้
เมื่อไป่เปนพระเจ้านั้น
ส่องเห็นชั้นฟ้าทั้ง ๔
เปนต้นว่าจตุมตาวติงสายามา
/
ตุสิตดาส่องเห็นชั้นฟ้าทั้ง
๔ หั้นแล พระมอุปปคุตตเถระเจ้า
จึงอธิษฐานทให้มีริทธีอานุภาพ
… (ไม่ชัด)
… พระอยาไปโผดสัตว์ที่ใด
พระเจ้าหากจักสระ /
เดจไปโผดให้แล้วดังคำมักคำปราถนาผู้ใดได้ไหว้ได้บูชาพระเจ้าหันแล
บ่ให้สองให้ใส … หันชั้นฟ้าทั้ง
๔ โพธิภายหน้าพุ้รหมดสา /
สนาพระโคดมเจ้าจักเปนสาทานแก่โจรแลสัดทังหลายตัวถ่อยหั้นแล
อันจักกล่าวตำนานพระแก้วมรกตเจ้านี้
ก็เปนอันกว้างอันขวางนักแล
ว่าแต่สมพอท่อนี้ก่อน
๔๒
เทิน
ทั้งมวลก็หากอยู่ในตำนานลำดับบ้านน้อยเมืองใหย่เท่ามารอดเมืองชาย…
(ไม่ชัด)
...แผ่นดินก็...ที่เมืองชายจึงให้หมอช้างทั้งหลาย
ไปเอาช้างดอนกางข้างภูเยือย
มาเท่า /
บ้านหมอเชียงขาม
ทังเถินปากแผนปากแยง
ได้ช้างทั้งมวลตัวพังตัวพายน้อยใหย่
๒ พันตัวหั้นแล
พระยาเวียงทั้ง...นคอนขาเจ้าทั้ง
๒ ก็เอาครัวกระบึงทั้งช้างม้าสม
/
บัดเข้าของมาถวายแก่เจ้าแผ่นดินที่เมืองชายหั้นแล
เจ้าจึงให้ราชเทวีขึ้นทางบก
… เจ้าก็ขึ้นมาทาง … (ไม่ชัด)
… รอดเมืองหลวงราชทีนี
จึงเมืออยู่โรงเชียงใหม่ที่
/
หอยอดนะคอนหั้นแล
จึงให้พระยาเขมผู้ชื่อว่าคำหมูนั้นขึ้นก่อน
เมืออยู่เชียงแสนถ้า จักเมือปูก
(ผูก?)
ให้เปนเจ้าแผ่นดินเมืองเขมหั้นแล
แต่นั้นประเทดบ้านเมืองทั้งมวล
ก็แต่งมาไหว้มา
๔๓
ถวายชุที่ชุแดนหั้นแล
เจ้าฟ้าตวงโงก็แต่งนายมังเจบผู้
๑ ว่าราชาทิมาด ผู้ ๑ ชื่อว่า
สีพระบุร ผู้ ๑ ชื่อว่า ยี่คำสี
มันเจบ ๓ คนนี้เปนคนใช้เจ้าฟ้าตองโค
มันผู้ /
วามันทา
นั้นแล จึงให้มาพร้อมหมื่นกวานขวา
ทั้งนายประเทียมวิชุนอันให้ไปแต่เมืองเชียงใหม่นั้น
เขาก็มาพร้อมกันที่เมืองชวานี่แล
แขกมา /
บ้านนั้น
๑๘ เมือง เจ้าจักให้เฝ้าพร้อมกันว่าดั่งนั้น
ให้อยู่ถ้าหมอตนไปเอาช้างเถื่อนมานั้น
ก็ … (ไม่ชัด)
...บโคนลงมารอดนำดงแล
รับมาพระยาอร /
ชุรแลพระยาสีสัดธรรม
เอาแขกตองโงกับแขกทั้งมวล
๑๘ เมืองนั้น มาอยู่สนามเชียงใหม่หั้น
ถ้าช้างเถื่อนก็เอามารอดสนามแล้ว
ตัวบพิตตเจ้าก็เสด็จขึ้นขวี่ช้าง
๔๔
๑
ชื่อว่า นางพายยืนยังอยู่
แขกทังหลายก็ไหว้ก็นบครบถวาย
แล้วบพิตตะเจ้าก็ถิ่มบ่วงบาดเข้าไป
คันรอดเจ้าก็ถิ่มใส่ถืกบาดเดียว
ช้างเถื่อนตัวนั้นก็ตื่นเชิกแล่นไปเบื้องน้ำของ
/
ช้างพังตัวเจ้าขี่นั้น
ก็ล้มท่าวทับตนเจ้าในกลางสนามเชียงใหม่หั้นแล
ทั้งหลายก็เอาเจ้าเมือสู่โรงหลวง
เจ้าก็ให้พระยาอรชุรแลพระ
/
ยาสีสธำ
ส่งแขกทั้งมวลเมือหาบ้านหาเมืองเขาหั้นแล
อยู่นานได้ ๗ วัน
เจ้าก็สั่งมหาเทวีทั้งเจ้านางหอสุก
แลเสนาอามาด /
ทั้งหลายเปนต้นว่าพระยาอรชุร
แลพระยาสีสธำ
แล้วเจ้าก็เถิงอนิจจกัมไปตามกำแห่งตนหั้นแล
ราชเทวีเจ้าทั้งมหาสีจันโทจึ่งเอามา
๔๕
เผาที่ขางสนามก้ำเหนือ
เบื้องตาวันออกที่ก่อมหาเจดีวัดทาดหลวงกางเมืองชวาบัดนี้แล
จึงแต่พระยายดู้กินเมืองผา
คุบทั้งเมืองห้วยหลวงนั้น
เมือเอาเจ้า /
แผ่นดินไชเชษฐาธิราช
ในเมืองเชียงใหม่พู้นออกมา
ลุงพระเจ้าพระยากาง …
ต้านจาเขาชาวเมืองล้านนาอันเปนเสนาใหย่
เขาก็บ่ /
ขืนให้มาด้วยสวัสดี
พระยาสีสธำอยู่เชียงของถ้ารับเอา
ล่องมารอดเชียงดงเชียงทองหั้นแล
พระมหาสีจันโทเจ้า
ทั้งมหาสังฆราชาเจ้า /
เจ้าทั้งมวล
แถนเปนประธานพร้อมกับพระสังฆเจ้าทั้งหลายแลเสนาทั้งมวล
จึงราชาภิเสกให้เปนเจ้าสองแผ่นดิน
คือว่าเมืองล้านช้างเมืองล้านนาหั้นแล
แต่นั้น
๔๖
ยังมีผู้
๑ ว่ากวานดำพายสามเขานิพาเอาพระเจ้าล้านช้าง
ทั้งนางหอขอผู้เปนเมียนั้น
ขัดเปนเจ้าแผ่นดิน
ลุงพระไชยะเสษฐาทิราชเจ้าทั้งพระราชะมา
/
ดา
จึงให้พระยาสีสุธัมมไตตองโลก
เปนเจ้าพนเอาเสนามุนตีทั้งหลาย
ลงมารบพระยาที่ ๑ แกงสาก็แพ้เขาทั้ง
๓ พระยาเวียงทั้งพระยายด /
...กวานดำพาแลแสนระโมงจึงเอานางหอขอ
ทั้งพระล้านช้างตนเปนลูก
...หนีไปรอดเมืองนะคอน
พระยานะคอนให้เอามาส่งแก่พระยาสีส
/..ให้เอาพระยาเวียงทั้งพระยายด
ทั้งพวานดำพาแลแสนระโมงไปข้าเสีย
จึงให้เอานางหอขอทั้งพระล้านช้าง
ขึ้นมารอดแกงบิง เขาข้านางหอขอเสียทอเอา
๔๗
แต่เจ้าล้านช้างขึ้นมาทั้งแม่เลี้ยงผู้ชื่อว่านางกองส้อยขึ้นมาดอมรอดเมืองซวา
จึงให้พระล้านช้างทั้งนางกองส้อย
อยู่ดอมพระยาแสนลุงวันป่าสมันหั้นแล
แต่นั้นราชเทวีทั้งราชมาดา
ทั้งพระยาแสนลุง /
จึงให้ไปมอบบ้านมอบเมือง
เปนต้นว่าเมืองชาย เชียงคาน
ทั้งแก่นท้าว ทั้งเวียงเมืองเก
พระนำรุงเชียงสาห้วยหลวง
เวียงคำ เวียงจัน
ไว้ให้พระยาสีสธำแต่งบุรทั้งมวล
/
จึงใส่ชื่อว่าสีสธัมมไตรโลกนาออกพระเปนเจ้า
แต่นั้นบ้านเมืองก็ราบเพียงไปเท้าขอบขันทสีมมา
ชุแห่งชุที่หั้นแล
แต่นั้นพระยาจันจึงสร้างวิหารหลัง
๑ /
ชื่อว่าพระยาวัดหั้นแล
เล่าสร้างวิหารลูกนึงใต้ปากปะสัก
จึงใส่ชื่อว่าวัดจันทะบุลีสีสัธัมมไตรโลกหั้นแล
เจ้าเลาเลิกวัดประสักทั้งวัดไตแล้ว
เจ้าจึงอาดยาไว้แต่
๔๘
ขัดขงอันเจ้าแผ่นดินให้แก่ตนนั้น
เปนอันสิดอันคมนักแล
แต่นั้นอยู่น้อย ๑ ยังมีผู้
๑ ชื่อว่าเชรมนา มันนิเปนเชื้อเปนโคดชาวนคร
มันรู้สาตตสินมนดงอันร้าย
คุณหอกคุณด /
าบมันก็รู้ยิ่งนัก
เจ้าแผ่นดินบ่เลี้ยงมันเพื่อว่ามันเปนเด็กชายผู้ถ่อยร้ายนัก
มันจึงพาชวนพระยาสุรเทพ
ผู้ ๑จาค้องช้างผู้ ๑
ท้าวเชียงใหม่ ?
นางหอขอ
/
ผู้
๑ เขาทั้งหลายคัดจาก
จึงเอาพระล้านช้างหนีไปไต้
พระยาแสนลูกรู้ จึงเอาไปข้าเสีย
พระล้านช้าง ก่ ...(ไม่ชัด)...พอมเขาหั้นแล
แต่นั้นบ้านเมืองก็ราบเรียงเพียง
/
งามชุที่ชุแห่งหั้นแล
อยู่น้อย ๑ ราชเทวีเจ้าตนย่า
จึงเอาไปเผาเสียที่ข้างวัดบอสดน้อยกำเทง
จึงสร้าง....กระดูกหลัง
๑ ชื่ว่าธาตุฝุ่นหั้นแล
จึงให้ทานบ้านเมืองอันมากอัน
๔๙
หลายนัก
จึงให้โตพระเรียมคำคงธาตุฝุ่นที่นั้นหั้นแล
แต่นั้นอยู่น้อย ๑
พระไชยเสษฐาธิราชเจ้า
จักเอาช้างม้าริพลขึ้นเมือเชียงใหม่ว่าดั่งนั้น
พระมหาสังฆชาเจ้าสี /
จันโท
สังฆชาเจ้าสวนแถน
แลพระสังฆเจ้าทั้งหลายพร้อมกันทั้งราชมาดาเอา
… ?...
ทั้งลูกตนอันเปนแสนเมืองแลเสนามุนตรีทั้งหลาย
ห้ามขอเถิง ๒ ที ๓ /
ทีเจ้าก็บ่ฟัง
จึงเอาริพลทั้งหลายขึ้นเมือหั้นแล
ยามนั้นพระยาจันสีสธัมตนเปน
น้อง (?)
ก็
…?...เวียงจัน
เอาพระยานะคอน ขึน
พระยาลูกก็ให้อยู่เมือง /
ชวา
ตนเจ้าแผ่นดินก็ขึ้นรอดสบทา
ชาวล้านนาทั้งมวลจึงเอาผู้
๑ ชื่อว่าทิดแมกุเปนเจ้า
เขาจึงเอานางคำแดงอันเปนมเหสีพระไชเจ้านั้น
ให้เปน
๕๐
เมียทิดแม่กุเขาจึงราชพิเสกให้เปนเจ้าล้านนา
แห่งเขาหั้นแล เขาจึงแต่งริพลเชียงใหม่
ให้ผู้ ๑ชื่อว่าพระยาเชยยะเสน
ถือพลมาแสน ๑ แสนน้อยถือพลแต่ง
/
เมืองฝาง
เชียงราย เชียงแสนมาตั้งอยู่ผาได
มันจึงให้พระยาเชยยะเสน
ขี่ช้างขวัญเมือ
...(ไม่ชัด)...เชียงใหม่ทั้งมวลมาชุรบรอดบ้านด่านเมืองเรา
พระยา /
ขวาดอกหมากขี่ช้างสมพารทิพ
ถือพลทั้งมวลรบทางดอนแหหาดส้อย
...แสน
...(ไม่ชัด)
… เจ้าล้านช้าง
...(ไม่ชัด)...ทานิยามนั้นท่านกินห้วยหลวง
ทั้งเมืองระโมงใส่ /
ชื่อว่าพระยายด
น้องชายท่านผู้ ๑
ชื่อว่าจำดินขี่้ช้างไชดาน
น้องผู้ ๑ ขี่ช้าง...(ไม่ชัด)...น้องผู้
๑ ขวี่ช้างคุรจำเริน
ตัวเจ้าพระยายด ขี่ช้างคำแพงจักเอาผู้
๑ ขวาแกงแกม
(ใบลานมีเท่านี้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น