ชื่อเรื่อง พงสาวดานเมือง
ลิ้งค์ต้นฉบับ http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/7400#3
รายละเอียด มปจ / อักษรลาวบูราณ / ๑๐๒ หน้า / วัดป่าไผ่ บ้านเชียงม่วน เมืองหลวงพระบาง
เนื้อหาสรุป
โน๊ต ปริวรรต ตั้งแต่หน้า ๘๙ - ๑๐๒ คือเริ่มตั้งแต่ รัชกาลเจ้าอินทโสม จนสุดเรื่องที่ "เจ้านันยก
กำลังมาตั้งท่งนากลาง เท้ารอดปีเปิกสัน เมืองแตกด้วยมีลูกคดไขประตูเวียงเอาแล". อนึ่ง
ปีสักราชที่ปรากฏยังมีความสับสนไม่แน่นอนอยู่ ควรได้รับการตรวจสอบ
ปีสักราชที่ปรากฏยังมีความสับสนไม่แน่นอนอยู่ ควรได้รับการตรวจสอบ
๘๙
…
เมื่อนั้นเจ้าอินโสมก่เสวย / สีสมบัดก่นานนัก
ยามนั้นจักเถิงแก่นิจจทำ
ก่เปนกานลำบากนักหนา
คาว
๑
ร้อนนัก
คาว
๑
หนาวนักแล
ก่บ่ละบวนไปหั้นแล
แต่นั้นเจ้า / โชติกกุมมาน
ลูกกกเจ้าอินทโสมนั่งเมืองแทนบ่นานท่ใดเจ้าวงจึงมายาด
เจ้าโชก่บ่หนาลวดวางเมืองให้เจ้าวงเสวย
เอานางกองเปนเท / วี
อายุเจ้าได้
๖๐
ได้เสวยราช
๑๖
ปี
บ่ละบวนไปในปีเมิงมด
อายุทั้งมวลได้
๖๖
มาเถิงปีเปิกสัน
เจ้านันมาตีเมืองหลวงแตก
มาเถิงปีรวงไค้
สักกลาดได้
๑๑๕๓
ตัว
เจ้านู
๙๐
ทธองน้องเจ้าโชได้เสวยสีสมบัด
นานได้
๒๘
นับแต่ชาติได้
๘๒
นิจะกำเดือนยี่
แรม
๒
ค่ำวัน
๗
สักราชได้
๑๑๕๔
ตัว
ปีกัดเหม้า
แต่นั้นเจ้ามังทาตูลาดราชะ บุตรเจ้านู / ดเสวยสีสมบัดแทนพ่อ
ในปีเมิงเป้า
เดือน
๖
เพงวัน
๔
เจ้าเกิดปีรับมด
๔๘
อยู่ เสด
๑๙
อยู่
๖
เสด
๖
อยู่เสคูน
๒
อยู่กละกด
๓
อยู่ดนู
๗
อยู่ปจิกะ / ฤกษ์
๙
ตัว
สังกลาดได้
๑๖๗
ตัว
ใหย่มาได้
๔๒
ได้เสวยราชในเมิงเปล้า
สัก ราชได้
๑๑๗๘
ตัว
นานได้
๒๐
ปี
เถิงปีรวายสัน
เดือน
๔
ออกค่ำ
๑
มื้อกดเร้า
วัน
๖ / ยามพาดลั่นมื้อค่ำหมดบาดค้อน
เจ้าก่เข้าสู่สวันนะคตยามนั้น
ที่หอคำหนองบัว หั้นแล
ตั้งแต่ชาติมาได้
๖๒
แต่นั้นมาเจ้าขุยขอยไพ่
รลงันเจ้าในหอคำแต่
๙๑
เดือน
๔
มารอดเดือนยี่
ทานประพาดมนเทียนขาหลวงเชินท้องตาเชินพระราชสี สองสบับ
กับคุมเอาสิ่งของหลวงพระราชทานขึ้นมาปลงสบ
จึงมาเถิง
น
วัน เดือนยี่
ขึ้น / ๑๕
ค่ำ
มีเงินปีก
๖
ชั่ง
ผ้าไต
๖๐
ไต
ผ้าขาวเทด
๖๐
พับ
ร่มกระดาษ
๖๐๐
คัน
รองท้าว
๖๐
คู่ของเจ้าคูนหัวลมา
มีผ้ารำมะติกีบผักเทียม / ๑๐
พับ
สนีท่นี้
ของหลวงพระราชทานขึ้นมานั้น
เปนพมหาบังชกูน
ผ้าไต
๑๕
ผ้าชบง
๑๖๗
ผืน
เปนบังชกูน
ร่ม
๖๐
เปนบังชกูน
รองทาว / ๖๐
บูชาพระสัทธัมมเทสนา
๑๕
ได้เดือน
๖
ออก
๙
ค่ำ
แรบูรมสบลงหอคำ
ใส่รถลากไปบันจุเสียในนาหัวของ
งันอยู่หั้นทำบุนให้ทานมากนัก
เดือนออก
๑๑
ค่ำ
เพลาเที่ยง
๙๒
กลางคืนถวายพระเพลิง
บละบวนไปทั้งรถเหล้มนั้นแล
ในปีเมิงเร้าสังกลาดได้
๑๙๙
ตัวแล
ส่วนว่าเจ้ามังทาตูลาด
ปางนั้นเจ้าเสวยสีสมบัดปีเมิงเป้า
อยู่มาเถิงปีกด / สีสังกลาดได้
๑๑๘๑
ตัว
เจ้าเวียงบัวได้แต่งให้หมื่นเรือคำ
กับปลมชายนำเอา เรือคำมาถวาย
๒
เลมหั้นแล
อยู่มาเถิงปีรวงไส้
เจ้าเวียง / จันพัดเอาช้างตัว
๑
สูง
๗
สอกกับเขมอำพอนให้หมักพูมินเปนทูตา
เอาขึ้นมา ทำขวันให้แก่เจ้าเมืองหลวงปางนั้นแล
อยู่มาเถิงปีเต่า / ซงานั้นเจ้ากะสัดเมืองเชียงใหม่ซ้ำเอาช้างมังคละตัว
๑
สูง
๗
สอกปลายกำ
ให้พระยาพานและพระยาทั้งหลายนำมาทำมังคละถวายสิทธิพระพรเจ้าเมืองหลวง ในสักราช
๑๑๘
๙๓
๖
ตัวนั้นแล
ปางเจ้ามังทาตูลาด
เสวยสีสมบัดปางนั้น
ก่บ่มีข้าเสิกสัตรูมา เบียดเบียนได้
จักแพงขอยไพ่ก่สุขกเสิม
อยู่สางสีนกินทานมากนักแล
เจ้ามังทาตู / ราชเกิดมาในปีรับมด
สังกาดได้
๑๑๖
ตัว
เจ้าใหย่มาได้
๔๒
ได้เสวยสีสมบัดใน ล้านช้าง
ในปีเมิงเป้าสังกลาดได้
๑๑๗๘
ตัว
เดือน
๖ /เพงวัน
๔
เจ้าเสวยราชได้
๒๐
ปีรวายสันสังกลาดได้
๑๑๙๘
ตัว
เดือน
๖
ออก ค่ำ
๑
มื้อกัดเปล้าวัน
๓
ประมาณพาดลันมื้อค่ำ
เจ้าก่บ่ละบวนเสียใน /
หอคำข้างหนองบัวนั้นแล
ขอยไพ่ทั้งหลายเฝ้างันในหอคำนานได้
๑๐
เดือน
จึง เอารถเล่มประเสิด
ด้วยแก้วและคำประดับนั้น
ใส่หีบเจ้าแห่รถไปหลอในนาหัวของ
ที่นั้น
๙๔
ในเดือน
๖
ออก
๑๑
ค่ำ
ลวดเผาทั้งรถเหล้มนั้นหั้นแล
นับแต่ชาติมาได้
๖๒
เจ้า มีลูกได้
๕
อง
อง
๑
เจ้าสุกกเสิม
อง
๑
เจ้าจันทกุมมาน
อง
๑
เจ้าโพ
อง
๑
เจ้า / อูนคำ
อง
๑
เจ้าคำบัว
พ้อยมีลูกยิง
๓
อง
๑
ชื่อเจ้านางสูพันนะบูดสดี
ผู้
๑
ชื่อ เจ้ายอดคำ
ผู้
๑
ชื่อเจ้านางคำฟองหั้นแล
อยู่มาเถิงปีกัดไค้ / สังกลาดได้
๑๒๐๑
ตัว
เจ้าสุกกะเสิมองพี่
ขึ้นเปนเจ้าล้านช้างแทนพระปิตา
ใน เดือน
๙
ออก
๓
ค่ำ
วัน
๓
มื้อเปิกเสด
ยามกองแลง
เจ้าเส / วยสีสมบัดในเมืองล้านช้างปางนั้นก่สำลิทธิมากนักแล
ส่วนเจ้าโพองน้องนั้น
เวลากำท่านมีลวดเปนบ้าเสีย
เจ้า...(ไม่ชัด)...นั้นก่ขึ้นเปนเจ้าราชวงหั้น
๙๕
แล
สักราชได้
๑๒๑๖
ตัว
ปีกดเสด
เดือน
๑๐
แรม
๒
ค่ำ
วัน
?
๒
ยาม
ยาม แถใกล้เที่ยงกางวัน
เจ้าสุกกะเสิมก่บระบวนในหอไชเชียงแมนข้างคกเรือหั้นแล
เสนาอา / มาดขอยไพ่เฝ้าแหนแปงปมนใส่เจ้าไว้นานได้
ปีปาย
๗
เดือน
สังกลาดได้
๑๒๑๔
ตัว
ปีรวงไค้เดือน
๔
ขึ้น
๖
ค่ำ
ได้บันจุเจ้ากับดอนซายคกเรือห / หั้นแล
เจ้าเสวยสีสมบัดได้
๑๒
ปี
นันชาติเจ้าได้
๑๕๓
เจ้าก่บละบวนไปในปี นั้นแล
สักราชได้
๑๒๕๒
๑๕
ตัว
ปีเต่าไจ้
เจ้าองจันได้ขึ้นเสวยสีสม / บัดแทนพี่อ้ายในล้านช้างร่มขาวหั้นแล
ส่วนเจ้าอุ่นคำองน้อง
ก่ได้ขึ้นเปนเจ้า อุปราชหั้นแล
ส่วนเจ้าบัวคำองน้อง
ก่ได้ขึ้นเปนราชวงและเจ้าก่ได้เสวยสีสมบัด พร้อมกันกับทั้ง
๙๖
๓
หั้นแล
เจ้าองจันได้เสวยสีสมบัดนานได้
๑๘
ปีเจ้าก่บระบวนไป
ในหอคำข้าง หนองบัวหั้นแล
ที่นี้มาจักจาเช่นกะสัดเสวยเมืองจักปันพาวก่อน
พระไชองแว
ลูก เจ้าชูพู
หลานเจ้า / อุปปโยวลาชได้เสวยเวียงจัน
กิงกิสเสวยเมืองหลวงหลานเจ้าสุริยะทำมิกราช
แต่ นั้นพระไชองแว
มีลูกชื่อเจ้าองหลวง
เจ้าองหลวงมีลูกเชื่อเจ้าอง / บูน
ก่ได้เสวยเมืองชุองแล
เจ้าองบูนนั้นจั่งเอานางลูมพูหนองบัวแม่นหลานเจ้าเอกเมืองพานหมอคัง
อันโตนสวาดนำที่กิ่วบางกอกเมืองข / ขวาปางนั้นละเจ้าไว้
อินทโสมจึงหนีไปอยู่ลูมพูปางนั้น
ลูกนางลูมพูนั้นจึงมีเจ้าอินเจ้าอานุ เจ้าองบูนจุติไปแล้ว
เจ้าอินนั้นนั่งก่หากลูกเจ้าองบูนนั้นแล
เจ้านันบ่ชอบหนีไปอยู่กูงเทพ
๙๗
พมหานคอนพู้นแล
เจ้าอินขึ้นมานั่งแทน
เจ้าอินจุติไปเจ้าอานุเสวยเมืองแทน นานได้
๒๔
มาเถิงปีเมิงไค้
ก่ปดจากล้นเกล้าล้นขะหม่อมหนีไปเพิ่งแกว
แกวพัดเอา / มาส่งเวียงจันเปนแต่เวลากำเจ้าอานู
พละกำลังพายใต้ละวัง
...เสียงเสียในปีกัดเปล้า
สังกาดได้
๑๑๙๑
ตัวนั้นแล
เจ้าอนุคำได้เ / เสวยราชสีสมบัดในเมืองล้านช้างแทนพี่อ้ายในปีก่าเร้า
สักราด
๑๒๖๕
เจ้าก่มี ลูกชาย
๕
อง
องพี่ชื่อเจ้าคำสุก
องน้องชื่อเจ้า / สีสุพัน
องน้องนั้นชื่อเจ้าคำเหงา
องน้องชื่อเจ้าคำปาน
องน้องชื่อเจ้าสมไส
เจ้า คำสุกองพี่นั้น
เจ้าอูบพิเสกขึ้นเปนเจ้าราชวง
อยู่ต่อมาเถิงปีเมิงไค้
๙๘
สักราช
๑๒๔๙
เกิดจุนลาจล
ห้อไทไลหลังมา
เจ้าอุปราชเถิงแก่กำไป
สมเดจ พระเจ้ามหาชีวิตก่ บายลงไปเพิ่งพระเจ้ากรุงสยาม
ก่กลวดดูสนทนาปึกสาพระเจ้าล้า / นช้างร่มขาว
ก่ชวดสยาแก่แล้ว
จึงอูบ พิเสกตึ่มยดขึ้นเปนพระเจ้าจางวาง
เจ้าลาดชะวงองลูกผู้พี่นั้น
พระเจ้ากรุงสยามก่ / อุบพิเสกตื่มยด
ขึ้นเปนสมเดจพระเจ้าล้านช้างร่มขาว
ว่าการแทนพระปิตตา
ในปีเจ้าสีสุพันองน้องอุบพิเสกขึ้นเปนเจ้าราชวง / เจ้าคำเหงาองน้องนั้น
เจ้าก่ให้ว่าการกรมมคลัง
เจ้าคำปานองน้องนั้น
เจ้าก่ให้ว่าการ เจ้าเสวยสรสมบัดนานได้
๒๓
ปีรับมดสักราช
๑๒๕๗
เดือนเจียงแรม
๑๓
ค่ำ
๙๙
เจ้าก่เข้าสู่สวันนะคดมื้อนั้นแล
นับชาติเจ้าได้
๘๐
ก่บละบวนไปในปีนั้นแล
ข่อยไพ่เฝ้างันในหอคำนานได้
๔
เดือน
จึงเอารถเหล้มประเสิด
อันประดับด้วยแก้วแ / และคำใส่หีบแรรถไปหลอที่ท่งทาดสีทำมหายโสก
ในเดือน
๔
แรมค่ำ
๑
วัน
๒
เจ้านั้นก่ได้กระทำบุนก่มาก
กับได้สร้างวัดจอมเพด / หลัง
๑
ค้ำพระสาสนาพระพุทธิเจ้าแล
แดนแต่นั้นมาเจ้าคำสุกองพี่เสวยราชสีสมบัด
แทนพระปิตตานานได้
๖๖
ปี
เมือปีก่าไส้ / สังกลาดได้
๑๒๕๕
ตัว
เดือน๑๐
ขึ้น
๑๕
ค่ำ
พระเจ้ากูงสยาม
เกิดจูนลาจนกับฝาหลั่งเสดก่ได้วางแผ่นดินเมืองล้านช้าง
ให้ขึ้นอยู่กับก่เวินแมนฝาลังเสดปีนั้น
แ
๑๐๐
ล
แดนแต่นั้นมา
ฝาหลั่งก่เปี่ยนแปงทำเนียมใหม่
เจ้านายก่บ่ให้มีบ่าวมีไพ่
ข้าราชการก่บ่ให้มีหลาม
ทาดในเรือนก่ถอดออกมาเปนไทแล้วก่เกบ /
เงินค่าตัวคนละ
๒
หมัน
กับขอวานแรงราชดอนกะทำกานแผ่นดินคนละ
๒๐
วัน
ช้ำนำเอาเงิน
อีก
๒๐
หมัน
วัดวาสาสนาลางแห่งฝหลั่ง /
ก่ม้างเอาเรดบ้านเรดเรือน
ของฝหลั่งตางหาก
ลางแห่งก่ยังแล
สังกาด
๑๑๗
ตัว
ปีเมิงเป้าส้างทาดสีทำมะหายโสก
ก่โลมออกดานละ /
วา
ให้สูงขึ้นตึ่ม
๕
วา
สังกลาด
๑๑๘๙
ตัว
ปีเมิงไค้
เจ้าอานุไปยุทธกำวังกอก
ถอยคืนมา
ไทย่ำเวียงจันแตก
เดือน
๖
แรม
๒
ค่ำ
เดือน
๖
แรม
๒
ค่ำเมือง พวนกลับมาขึ้นอยู่กับเมืองหลวง
ก่แม่นปี
๑๐๑
เดียวนั้นแล
จาแต่เมืองพวนแลสบแอด
เชียงค้อไปขึ้นเวียงจันปีก่าเร้า
ลำดับมา ได้
๓๗
ปีจึงมาขึ้นกับเมืองหลวง
ไผอยากรู้ให้เบิ่งพินอยายังจักกว้างแล
สังกลาด
๑๙๒๔
ปี /
เต่าเสด
ได้นางโยทิยามาถวายพระไช
ชื่อว่านางแก้วฟ้า
สักราช
๑๙๒๕
ปีก่า ไค้
ไปสลองทาดหนองหาน
รับนางแก้วฟ้าเมืองโยทิยา
ผู /
ลูน
สังกลาด
๑๙๓๓
ตัวปีรวงมดพระไชเจ้าไปเสียเมืองลามมลักองกาน
พหน่อเมืองลูกพระไชเกิดปีนั้น
สังกลาด
๑๙๔๖
ตัวปีกาบสัน
พยาทั้ง
๔
เ /
เอาลูกพระไชผู้ชื่อว่าพระหน่อเมือง
มายังเวียงจัน
สังกลาด
๒๓๑๙
ตัว
ปีเมิง เป้า
เดือน
๖
แรม
๑๐
ค่ำ
วัน
๕
มื้อรวายสียามตูดช้ายกางคืน
ช้างลี
๑๐๒
เข้าเมืองปีนั้นแล
สังกลาด
๒๓๓๕
ตัวปีก่าไส้
ม่าน
๔
โป
๔
ทับ
เชียงรายลง มาเอาชางดอกพินบาดฝาเหลือมลวดหนี
ปีนั้นแล
สังกลาด
๒๓ /
๓๘
ตัวปีรวายสันเดือน
๔
แรม
๓
ค่ำ
วัน
๓
พระบาทฟ้าเหลือมมาแต่งเอาเมือง
ลวดนั่งเมืองปีนั้นแล
สังกลาด
๑๓๔๙
ตัวปีเมิงมดเดือน /
๓
แรมค่ำ
๑
วัน
๖
เจ้านันยกกำลังมาตั้งท่งนากลาง
เท้ารอดปีเปิกสัน
เมืองแตกด้วยมีลูกคดไขประตูเวียงเอาแล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น