วันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2558

พงศาวดารเมือง

ชื่อเรื่อง          พงสาวดานเมือง 

ลิ้งค์ต้นฉบับ    http://www.laomanuscripts.net/lo/texts/7400#3

รายละเอียด   มปจ / อักษรลาวบูราณ / ๑๐๒ หน้า / วัดป่าไผ่ บ้านเชียงม่วน เมืองหลวงพระบาง 

เนื้อหาสรุป   

โน๊ต           ปริวรรต ตั้งแต่หน้า ๘๙ - ๑๐๒ คือเริ่มตั้งแต่ รัชกาลเจ้าอินทโสม จนสุดเรื่องที่ "เจ้านันยก
                 กำลังมาตั้งท่งนากลาง เท้ารอดปีเปิกสัน เมืองแตกด้วยมีลูกคดไขประตูเวียงเอาแล". อนึ่ง
                 ปีสักราชที่ปรากฏยังมีความสับสนไม่แน่นอนอยู่ ควรได้รับการตรวจสอบ


๘๙
เมื่อนั้นเจ้าอินโสมก่เสวย / สีสมบัดก่นานนัก ยามนั้นจักเถิงแก่นิจจทำ ก่เปนกานลำบากนักหนา คาว ร้อนนัก คาว หนาวนักแล ก่บ่ละบวนไปหั้นแล แต่นั้นเจ้า / โชติกกุมมาน ลูกกกเจ้าอินทโสมนั่งเมืองแทนบ่นานท่ใดเจ้าวงจึงมายาด เจ้าโชก่บ่หนาลวดวางเมืองให้เจ้าวงเสวย เอานางกองเปนเท / วี อายุเจ้าได้ ๖๐ ได้เสวยราช ๑๖ ปี บ่ละบวนไปในปีเมิงมด อายุทั้งมวลได้ ๖๖ มาเถิงปีเปิกสัน เจ้านันมาตีเมืองหลวงแตก มาเถิงปีรวงไค้ สักกลาดได้ ๑๑๕๓ ตัว เจ้านู

๙๐
ทธองน้องเจ้าโชได้เสวยสีสมบัด นานได้ ๒๘ นับแต่ชาติได้ ๘๒ นิจะกำเดือนยี่ แรม ค่ำวัน สักราชได้ ๑๑๕๔ ตัว ปีกัดเหม้า แต่นั้นเจ้ามังทาตูลาดราชะ บุตรเจ้านู / ดเสวยสีสมบัดแทนพ่อ ในปีเมิงเป้า เดือน เพงวัน เจ้าเกิดปีรับมด ๔๘ อยู่ เสด ๑๙ อยู่ เสด อยู่เสคูน อยู่กละกด อยู่ดนู อยู่ปจิกะ / ฤกษ์ ตัว สังกลาดได้ ๑๖๗ ตัว ใหย่มาได้ ๔๒ ได้เสวยราชในเมิงเปล้า สัก ราชได้ ๑๑๗๘ ตัว นานได้ ๒๐ ปี เถิงปีรวายสัน เดือน ออกค่ำ มื้อกดเร้า วัน / ยามพาดลั่นมื้อค่ำหมดบาดค้อน เจ้าก่เข้าสู่สวันนะคตยามนั้น ที่หอคำหนองบัว หั้นแล ตั้งแต่ชาติมาได้ ๖๒ แต่นั้นมาเจ้าขุยขอยไพ่ รลงันเจ้าในหอคำแต่

๙๑ 
เดือน มารอดเดือนยี่ ทานประพาดมนเทียนขาหลวงเชินท้องตาเชินพระราชสี สองสบับ กับคุมเอาสิ่งของหลวงพระราชทานขึ้นมาปลงสบ จึงมาเถิง วัน เดือนยี่ ขึ้น / ๑๕ ค่ำ มีเงินปีก ชั่ง ผ้าไต ๖๐ ไต ผ้าขาวเทด ๖๐ พับ ร่มกระดาษ ๖๐๐ คัน รองท้าว ๖๐ คู่ของเจ้าคูนหัวลมา มีผ้ารำมะติกีบผักเทียม / ๑๐ พับ สนีท่นี้ ของหลวงพระราชทานขึ้นมานั้น เปนพมหาบังชกูน ผ้าไต ๑๕ ผ้าชบง ๑๖๗ ผืน เปนบังชกูน ร่ม ๖๐ เปนบังชกูน รองทาว / ๖๐ บูชาพระสัทธัมมเทสนา ๑๕ ได้เดือน ออก ค่ำ แรบูรมสบลงหอคำ ใส่รถลากไปบันจุเสียในนาหัวของ งันอยู่หั้นทำบุนให้ทานมากนัก เดือนออก ๑๑ ค่ำ เพลาเที่ยง

๙๒ 
กลางคืนถวายพระเพลิง บละบวนไปทั้งรถเหล้มนั้นแล ในปีเมิงเร้าสังกลาดได้ ๑๙๙ ตัวแล ส่วนว่าเจ้ามังทาตูลาด ปางนั้นเจ้าเสวยสีสมบัดปีเมิงเป้า อยู่มาเถิงปีกด / สีสังกลาดได้ ๑๑๘๑ ตัว เจ้าเวียงบัวได้แต่งให้หมื่นเรือคำ กับปลมชายนำเอา เรือคำมาถวาย เลมหั้นแล อยู่มาเถิงปีรวงไส้ เจ้าเวียง / จันพัดเอาช้างตัว สูง สอกกับเขมอำพอนให้หมักพูมินเปนทูตา เอาขึ้นมา ทำขวันให้แก่เจ้าเมืองหลวงปางนั้นแล อยู่มาเถิงปีเต่า / ซงานั้นเจ้ากะสัดเมืองเชียงใหม่ซ้ำเอาช้างมังคละตัว สูง สอกปลายกำ ให้พระยาพานและพระยาทั้งหลายนำมาทำมังคละถวายสิทธิพระพรเจ้าเมืองหลวง ในสักราช ๑๑๘

๙๓
ตัวนั้นแล ปางเจ้ามังทาตูลาด เสวยสีสมบัดปางนั้น ก่บ่มีข้าเสิกสัตรูมา เบียดเบียนได้ จักแพงขอยไพ่ก่สุขกเสิม อยู่สางสีนกินทานมากนักแล เจ้ามังทาตู / ราชเกิดมาในปีรับมด สังกาดได้ ๑๑๖ ตัว เจ้าใหย่มาได้ ๔๒ ได้เสวยสีสมบัดใน ล้านช้าง ในปีเมิงเป้าสังกลาดได้ ๑๑๗๘ ตัว เดือน /เพงวัน เจ้าเสวยราชได้ ๒๐ ปีรวายสันสังกลาดได้ ๑๑๙๘ ตัว เดือน ออก ค่ำ มื้อกัดเปล้าวัน ประมาณพาดลันมื้อค่ำ เจ้าก่บ่ละบวนเสียใน / หอคำข้างหนองบัวนั้นแล ขอยไพ่ทั้งหลายเฝ้างันในหอคำนานได้ ๑๐ เดือน จึง เอารถเล่มประเสิด ด้วยแก้วและคำประดับนั้น ใส่หีบเจ้าแห่รถไปหลอในนาหัวของ ที่นั้น  

๙๔
ในเดือน ออก ๑๑ ค่ำ ลวดเผาทั้งรถเหล้มนั้นหั้นแล นับแต่ชาติมาได้ ๖๒ เจ้า มีลูกได้ อง อง เจ้าสุกกเสิม อง เจ้าจันทกุมมาน อง เจ้าโพ อง เจ้า / อูนคำ อง เจ้าคำบัว พ้อยมีลูกยิง อง ชื่อเจ้านางสูพันนะบูดสดี ผู้ ชื่อ เจ้ายอดคำ ผู้ ชื่อเจ้านางคำฟองหั้นแล อยู่มาเถิงปีกัดไค้ / สังกลาดได้ ๑๒๐๑ ตัว เจ้าสุกกะเสิมองพี่ ขึ้นเปนเจ้าล้านช้างแทนพระปิตา ใน เดือน ออก ค่ำ วัน มื้อเปิกเสด ยามกองแลง เจ้าเส / วยสีสมบัดในเมืองล้านช้างปางนั้นก่สำลิทธิมากนักแล ส่วนเจ้าโพองน้องนั้น เวลากำท่านมีลวดเปนบ้าเสีย เจ้า...(ไม่ชัด)...นั้นก่ขึ้นเปนเจ้าราชวงหั้น

๙๕
แล สักราชได้ ๑๒๑๖ ตัว ปีกดเสด เดือน ๑๐ แรม ค่ำ วัน ? ยาม ยาม แถใกล้เที่ยงกางวัน เจ้าสุกกะเสิมก่บระบวนในหอไชเชียงแมนข้างคกเรือหั้นแล เสนาอา / มาดขอยไพ่เฝ้าแหนแปงปมนใส่เจ้าไว้นานได้ ปีปาย เดือน สังกลาดได้ ๑๒๑๔ ตัว ปีรวงไค้เดือน ขึ้น ค่ำ ได้บันจุเจ้ากับดอนซายคกเรือห / หั้นแล เจ้าเสวยสีสมบัดได้ ๑๒ ปี นันชาติเจ้าได้ ๑๕๓ เจ้าก่บละบวนไปในปี นั้นแล สักราชได้ ๑๒๕๒ ๑๕ ตัว ปีเต่าไจ้ เจ้าองจันได้ขึ้นเสวยสีสม / บัดแทนพี่อ้ายในล้านช้างร่มขาวหั้นแล ส่วนเจ้าอุ่นคำองน้อง ก่ได้ขึ้นเปนเจ้า อุปราชหั้นแล ส่วนเจ้าบัวคำองน้อง ก่ได้ขึ้นเปนราชวงและเจ้าก่ได้เสวยสีสมบัด พร้อมกันกับทั้ง

๙๖
หั้นแล เจ้าองจันได้เสวยสีสมบัดนานได้ ๑๘ ปีเจ้าก่บระบวนไป ในหอคำข้าง หนองบัวหั้นแล ที่นี้มาจักจาเช่นกะสัดเสวยเมืองจักปันพาวก่อน พระไชองแว ลูก เจ้าชูพู หลานเจ้า / อุปปโยวลาชได้เสวยเวียงจัน กิงกิสเสวยเมืองหลวงหลานเจ้าสุริยะทำมิกราช แต่ นั้นพระไชองแว มีลูกชื่อเจ้าองหลวง เจ้าองหลวงมีลูกเชื่อเจ้าอง / บูน ก่ได้เสวยเมืองชุองแล เจ้าองบูนนั้นจั่งเอานางลูมพูหนองบัวแม่นหลานเจ้าเอกเมืองพานหมอคัง อันโตนสวาดนำที่กิ่วบางกอกเมืองข / ขวาปางนั้นละเจ้าไว้ อินทโสมจึงหนีไปอยู่ลูมพูปางนั้น ลูกนางลูมพูนั้นจึงมีเจ้าอินเจ้าอานุ เจ้าองบูนจุติไปแล้ว เจ้าอินนั้นนั่งก่หากลูกเจ้าองบูนนั้นแล เจ้านันบ่ชอบหนีไปอยู่กูงเทพ

๙๗ 
พมหานคอนพู้นแล เจ้าอินขึ้นมานั่งแทน เจ้าอินจุติไปเจ้าอานุเสวยเมืองแทน นานได้ ๒๔ มาเถิงปีเมิงไค้ ก่ปดจากล้นเกล้าล้นขะหม่อมหนีไปเพิ่งแกว แกวพัดเอา / มาส่งเวียงจันเปนแต่เวลากำเจ้าอานู พละกำลังพายใต้ละวัง ...เสียงเสียในปีกัดเปล้า สังกาดได้ ๑๑๙๑ ตัวนั้นแล เจ้าอนุคำได้เ / เสวยราชสีสมบัดในเมืองล้านช้างแทนพี่อ้ายในปีก่าเร้า สักราด ๑๒๖๕ เจ้าก่มี ลูกชาย อง องพี่ชื่อเจ้าคำสุก องน้องชื่อเจ้า / สีสุพัน องน้องนั้นชื่อเจ้าคำเหงา องน้องชื่อเจ้าคำปาน องน้องชื่อเจ้าสมไส เจ้า คำสุกองพี่นั้น เจ้าอูบพิเสกขึ้นเปนเจ้าราชวง อยู่ต่อมาเถิงปีเมิงไค้

๙๘
สักราช ๑๒๔๙ เกิดจุนลาจล ห้อไทไลหลังมา เจ้าอุปราชเถิงแก่กำไป สมเดจ พระเจ้ามหาชีวิตก่ บายลงไปเพิ่งพระเจ้ากรุงสยาม ก่กลวดดูสนทนาปึกสาพระเจ้าล้า / นช้างร่มขาว ก่ชวดสยาแก่แล้ว จึงอูบ พิเสกตึ่มยดขึ้นเปนพระเจ้าจางวาง เจ้าลาดชะวงองลูกผู้พี่นั้น พระเจ้ากรุงสยามก่ / อุบพิเสกตื่มยด ขึ้นเปนสมเดจพระเจ้าล้านช้างร่มขาว ว่าการแทนพระปิตตา ในปีเจ้าสีสุพันองน้องอุบพิเสกขึ้นเปนเจ้าราชวง / เจ้าคำเหงาองน้องนั้น เจ้าก่ให้ว่าการกรมมคลัง เจ้าคำปานองน้องนั้น เจ้าก่ให้ว่าการ เจ้าเสวยสรสมบัดนานได้ ๒๓ ปีรับมดสักราช ๑๒๕๗ เดือนเจียงแรม ๑๓ ค่ำ

๙๙
เจ้าก่เข้าสู่สวันนะคดมื้อนั้นแล นับชาติเจ้าได้ ๘๐ ก่บละบวนไปในปีนั้นแล ข่อยไพ่เฝ้างันในหอคำนานได้ เดือน จึงเอารถเหล้มประเสิด อันประดับด้วยแก้วแ / และคำใส่หีบแรรถไปหลอที่ท่งทาดสีทำมหายโสก ในเดือน แรมค่ำ วัน เจ้านั้นก่ได้กระทำบุนก่มาก กับได้สร้างวัดจอมเพด / หลัง ค้ำพระสาสนาพระพุทธิเจ้าแล แดนแต่นั้นมาเจ้าคำสุกองพี่เสวยราชสีสมบัด แทนพระปิตตานานได้ ๖๖ ปี เมือปีก่าไส้ / สังกลาดได้ ๑๒๕๕ ตัว เดือน๑๐ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พระเจ้ากูงสยาม เกิดจูนลาจนกับฝาหลั่งเสดก่ได้วางแผ่นดินเมืองล้านช้าง ให้ขึ้นอยู่กับก่เวินแมนฝาลังเสดปีนั้น

๑๐๐
แดนแต่นั้นมา ฝาหลั่งก่เปี่ยนแปงทำเนียมใหม่ เจ้านายก่บ่ให้มีบ่าวมีไพ่ ข้าราชการก่บ่ให้มีหลาม ทาดในเรือนก่ถอดออกมาเปนไทแล้วก่เกบ / เงินค่าตัวคนละ หมัน กับขอวานแรงราชดอนกะทำกานแผ่นดินคนละ ๒๐ วัน ช้ำนำเอาเงิน อีก ๒๐ หมัน วัดวาสาสนาลางแห่งฝหลั่ง / ก่ม้างเอาเรดบ้านเรดเรือน ของฝหลั่งตางหาก ลางแห่งก่ยังแล สังกาด ๑๑๗ ตัว ปีเมิงเป้าส้างทาดสีทำมะหายโสก ก่โลมออกดานละ / วา ให้สูงขึ้นตึ่ม วา สังกลาด ๑๑๘๙ ตัว ปีเมิงไค้ เจ้าอานุไปยุทธกำวังกอก ถอยคืนมา ไทย่ำเวียงจันแตก เดือน แรม ค่ำ เดือน แรม ค่ำเมือง พวนกลับมาขึ้นอยู่กับเมืองหลวง ก่แม่นปี

๑๐๑
เดียวนั้นแล จาแต่เมืองพวนแลสบแอด เชียงค้อไปขึ้นเวียงจันปีก่าเร้า ลำดับมา ได้ ๓๗ ปีจึงมาขึ้นกับเมืองหลวง ไผอยากรู้ให้เบิ่งพินอยายังจักกว้างแล สังกลาด ๑๙๒๔ ปี / เต่าเสด ได้นางโยทิยามาถวายพระไช ชื่อว่านางแก้วฟ้า สักราช ๑๙๒๕ ปีก่า ไค้ ไปสลองทาดหนองหาน รับนางแก้วฟ้าเมืองโยทิยา ผู / ลูน สังกลาด ๑๙๓๓ ตัวปีรวงมดพระไชเจ้าไปเสียเมืองลามมลักองกาน พหน่อเมืองลูกพระไชเกิดปีนั้น สังกลาด ๑๙๔๖ ตัวปีกาบสัน พยาทั้ง / เอาลูกพระไชผู้ชื่อว่าพระหน่อเมือง มายังเวียงจัน สังกลาด ๒๓๑๙ ตัว ปีเมิง เป้า เดือน แรม ๑๐ ค่ำ วัน มื้อรวายสียามตูดช้ายกางคืน ช้างลี

๑๐๒
เข้าเมืองปีนั้นแล สังกลาด ๒๓๓๕ ตัวปีก่าไส้ ม่าน โป ทับ เชียงรายลง มาเอาชางดอกพินบาดฝาเหลือมลวดหนี ปีนั้นแล สังกลาด ๒๓ / ๓๘ ตัวปีรวายสันเดือน แรม ค่ำ วัน พระบาทฟ้าเหลือมมาแต่งเอาเมือง ลวดนั่งเมืองปีนั้นแล สังกลาด ๑๓๔๙ ตัวปีเมิงมดเดือน / แรมค่ำ วัน เจ้านันยกกำลังมาตั้งท่งนากลาง เท้ารอดปีเปิกสัน เมืองแตกด้วยมีลูกคดไขประตูเวียงเอาแล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น